Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3092 บรรลุเต๋าด้วยการต่อสู้!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3092 บรรลุเต๋าด้วยการต่อสู้! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“มันยังมีอีกสิบหกกระบวนท่า ใช้มันออกมาให้หมด ข้าจะรับมันให้ดู!” เย่หยวนหันไปตะโกนใส่ฉือชางอย่างมั่นใจ

ฉือชางนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเครียดเพราะตอนนี้เขาไม่มีเวลามาสนใจเรื่องชื่อเสียงหน้าตาใดๆ แล้ว

“โจมตีมันพร้อมกัน! เจ้าเด็กนี่มันคงคิดจะบรรลุเต๋าด้วยการต่อสู้แน่นอน จะให้มันทำสำเร็จไม่ได้! สังหารมันลง!” ฉือชางร้องลั่นขึ้นสั่ง

เยียวเลอและเหมิงจินนั้นสั่นสะท้านไปทั้งใจ มีหรือที่พวกเขาจะยังกล้ายืนเฉยมองดูเรื่องราวอีก?

ความเก่งกาจของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำกว่าสิ่งใดที่พวกเขาเคยได้รู้ได้เห็น

คนเขาว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น แต่ครั้งนี้เมื่อได้เห็นเข้ากับตัวเองแล้วพวกเขาก็ได้เข้าใจว่าทำไมบรรพบุรุษและท่านอี้เฉียนั้นต่างให้ค่ามหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่งมากมายขนาดนี้

เพราะเพื่อจัดการกับเขาคนนี้ พวกเขากลับเลือกที่จะใช้งานประคำขจัดเลือดออกมา!

เพราะว่าประคำขจัดเลือดนี้มันเป็นของมีค่าแม้แต่กับตัวบรรพบุรุษท่านเอง

การเก็บกักเลือดของยอดเต๋าต่างๆ จากทุกสวรรค์นั้นมันคือหน้าที่ของประคำขจัดเลือด

ประคำขจัดเลือดแต่ละชิ้นนั้นมันต้องกลืนกินเลือดผู้คนไปกว่าแสนๆ ล้านถึงจะใช้งานออกมาได้

ตอนที่พวกเขาทั้งสามได้ยินว่าบรรพบุรุษท่านนั้นคิดใช้ประคำขจัดเลือดจัดการเย่หยวนนั้นพวกเขาทั้งสามต่างจะคิดว่ามันเหมือนการเอาปืนใหญ่มายิงมด เป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนอย่างแท้จริง

แต่เป็นเวลานี้เองที่พวกเขานั้นได้เข้าใจว่ามันไม่ได้เกินเลยไปเลย!

“ไม่แปลกใจเลยว่าอี้เฉียนั้นมันส่งเจ้ามาเป็นผู้นำ เจ้ามันฉลาด! ใช้แล้ว ข้านั้นคิดจะบรรลุเต๋าด้วยการต่อสู้ แต่ข้าจะบรรลุได้ก่อนหรือว่าพวกเจ้าจะสังหารข้าลงได้ก่อนนั้นมันก็ต้องดูกันไป!” เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป

ตอนนี้เย่หยวนนั้นยังไม่อาจจะจัดการฉือชางลงได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการรับมือสามเจ้าโลกพร้อมๆ กันเลย

เพราะฉะนั้นนี่มันจึงเป็นเส้นทางที่ไม่อาจหันกลับ

ต้องตายกันไปข้าง!

ในเวลาเดียวกันนี้พวกฉือชางทั้งสามเองก็ไม่กล้าจะออมมือใดๆ อีก

คนทั้งสามนั้นลงมาล้อมเย่หยวนไว้ตรงกลาง

เมื่อพวกเขาลงมือแล้วมันย่อมจะก่อให้เกิดพลังงานรุนแรงจนน่าตกตะลึง

“สังหารเก้าชั่วโคตร!”

“ขวานผ่าสวรรค์!”

“ระเบิดโลหิตราตรีทมิฬ!”

เมื่อพวกฉือชางทั้งสามร่วมมือกันโจมตีออกมาแล้วพลังของมันย่อมจะรุนแรงจนแทบไม่อาจหายใจ

เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเครียดใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ออกมาพร้อมแยกเขาแดนอนันต์ออกจากกัน

“ค่ายกลเอกภพ!”

เขาแดนอนันต์นั้นมันแยกออกเป็นเจ็ดส่วนและกลายเป็นจุดเชื่อของค่ายกลเอกภพรับการโจมตีของคนทั้งสามไป

การโจมตีแต่ละครั้งที่กระแทกเข้ามานั้นมันย่อมจะทำให้เย่หยวนรู้สึกได้ถึงเสียงกระดูกที่ลั่นขึ้นในกาย

เขาแดนอนันต์นั้นมันแยกเป็นเจ็ดส่วน ย่อมจะไม่มีพลังรุนแรงหนักหน่วงเหมือนตอนที่มันรวมเป็นหนึ่ง

แต่เมื่อสามเจ้าโลกโจมตีเข้ามาจากสามทิศ เย่หยวนก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแยกมันออกมารับ

เวลานี้นอกจากพลังอันรุนแรงของพวกฉือชางแล้วมันยังมีพลังเสริมคลื่นกำเนิดเลือดจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆาอีกด้วย!

คนทั้งสามนั้นผสานพลังทำให้การโจมตีนี้มันรุนแรงล้ำ

เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องกัดฟันอยู่ใต้การโจมตีต่อเนื่องของคนทั้งสาม

ฉือชางนั้นเองก็ตกตะลึงสุดหัวใจเพราะเย่หยวนกลับยังสามารถรับมันไว้ได้!

เพราะต่อให้จะเป็นเขา ตัวเขาก็คงไม่อาจจะรับการโจมตีเช่นนี้ไว้ได้แล้ว

“เจ้าเด็กนี่มันคงเจ็บหนักแล้ว เร่งมือเข้า! กระบวนท่าที่สิบห้า โลหิตตะวันเที่ยง!”

ฉือชางฟันดาบในมือออกมาอีกครั้งด้วยคลื่นพลังสีแดงเลือดราวกับว่ามันจะกลืนกินทุกสิ่งอย่างไป

การโจมตีนี้ปะทะกับค่ายกลเอกภพเข้าอย่างแรง

ตูม!

เย่หยวนนั้นแทบสิ้นสติลงไปต้องกระอักเลือดรุนแรงขึ้นมารู้สึกได้ทันทีว่าอวัยวะภายในมันแตกสลาย

ฉือชางนั้นใช้วรยุทธวิชาดาบออกมาจนถึงกระบวนท่าที่สิบห้า พลังของมันย่อมจะรุนแรงจนน่ากลัว

วิชาดาบนี้มันทรงพลังอย่างมากแต่ยิ่งใช้ไปหลายกระบวนท่าเท่าไหร่มันก็จะยิ่งเป็นภาระให้แก่ร่างของผู้ใช้งานด้วย

เพราะฉะนั้นกระบวนท่าที่สิบห้านั้นมันคือขีดจำกัดที่ฉือชางจะใช้ได้อย่างไม่มีผลข้างเคียงแล้ว

หากใช้กระบวนท่าที่สิบหกขึ้นไปนั้นตัวเขาเองก็จะได้รับบาดเจ็บไปเช่นกัน

ฉือชางเองก็ไม่คิดว่ามหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่งมันกลับจะสามารถทำให้เขาต้องลงมือจนสุดตัวเช่นนี้

แต่ว่าเขาก็เห็นชัดเจนถึงท่าทางอ่อนแรงของเย่หยวนภายในค่ายกลและค่อยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง

ภายในมหาค่ายกลโลหิตเมฆานี้มันมีแต่เสียงระเบิดดังขึ้นไม่มีหยุด

เย่หยวนนั้นบาดเจ็บสาหัสหากเป็นคนอื่นๆ นั้นพวกเขาคงหมดสติไปนานแล้ว

การคิดบรรลุภายใต้สถานการณ์เช่นนี้มันไม่มีใครสามารถทำได้

แต่เย่หยวนนั้นกลับมีจิตใจที่สงบอย่างมาก

ภายใต้การโจมตีอันบ้าคลั่งนี้เขากลับกำลังนั่งสัมผัสพลังของมหาค่ายกลโลหิตเมฆาอย่างลึกซึ้ง!

นี่มันคือคลื่นกำเนิดเลือดที่บริสุทธิ์ที่สุดบนโลก!

ภายในร่างของเย่หยวนนั้นสายเลือดทั้งสี่มันถูกคลื่นกำเนิดเลือดควบคุมและใช้งานไปด้วยคลื่นกำเนิดเลือดเสมอๆ

จนดูเหมือนสายเลือดทั้งสี่นั้นผสานกันไปอย่างดี

แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะได้รับคลื่นกำเนิดเลือดมาจากศิลาโลหิตโกลาหลนั้นแต่ความเข้าใจต่อเลือดของเขามันกลับแตกต่างจากศิลาโลหิตโกลาหลไปมากนัก

เพราะว่าคลื่นกำเนิดเลือดของศิลาโลหิตโกลาหลนั้นมันรุนแรงและชั่วร้าย มันแสดงหาเพียงแค่พลัง

แต่เย่หยวนนั้นได้สร้างเต๋าแห่งเลือดของตัวเองขึ้นมา

ในเวลานี้เย่หยวนนั้นกำลังประกอบเต๋าของตัวเองขึ้นด้วยการศึกษาพลังจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆาทีละน้อยๆ ค่อยๆ ลบล้างจุดอ่อนและสร้างความเข้าใจใหม่ขึ้นมา

“เลือด มันคือสิ่งที่เป็นลางร้ายเสมอมา”

“เลือด มันคือตัวแทนของความบาดเจ็บ ความตาย”

“แต่เลือดนั้นมันก็คือส่วนหนึ่งของทุกชีวิต! ในโลกใบนี้ทุกสิ่งที่มีเนื้อนั้นต่างมีเลือด! มันคือชีวิต! นอกจากนั้นมันยังเป็นส่วนสำคัญของชีวิต!”

“ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นดึงพลังเลือดนี้จากทุกชีวิตบนสวรรค์เพื่อไปเสริมพลังของตัวเองทำให้ตัวมันนั้นก้าวผ่านล้ำสวรรค์ไป แต่พลังของมันก็ยังมิใช่คลื่นกำเนิดเลือดทั้งหมด!”

“โกลาหล คลื่นกำเนิดเลือด พลังสายเลือด! สิ่งที่ให้กำเนิดเลือดมานั้นสุดท้ายแล้วก็ยังเป็นความโกลาหล!”

เย่หยวนนั้นยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ พร้อมด้วยพลังสายเลือดในร่างที่เดือดพล่านขึ้นมา

สายเลือดทั้งสี่ในร่างของเขานั้นมันสามารถใช้งานออกมาได้แต่ก็ยังแยกกันอยู่ตลอด

สายเลือดสี่รูปแบบนั้นมันทรงพลังและไม่อาจจะเข้ากันได้เหมือนน้ำกับน้ำมัน

แต่ในเวลานี้มันกลับแสดงท่าทีว่าจะผสานกันเป็นหนึ่งได้จริงๆ!

แต่ว่าการผสานนี้มันทำให้เกิดพลังงานรุนแรงในร่างเย่หยวนจนเขารู้สึกราวกับร่างกายจะทนรับไม่ไหว!

ตูม!

คลื่นพลังสายเลือดปะทุขึ้นมาจากร่างของเขา

“โฮ่ก! โฮ่ก! โฮ่ก! โฮ่ก!”

ด้านหลังเย่หยวนนั้นมันมีสี่เงาร่างใหญ่ร้องลั่นขึ้นมาพร้อมด้วยพลังงานที่รุนแรงสะท้านฟ้าดิน!

พร้อมๆ กันนั้นร่างกายของพวกมันก็ดูชัดเจนขึ้นอย่างมาก

ในเวลานี้มังกรฟ้า พยัคฆ์ขาว หงส์แดงและเต่าดำทั้งสี่นั้นต่างปรากฏออกมาชัดเจนเหมือนราวกับเป็นภูตแท้ตัวจริง!

ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกตะลึงนั้นฉือชางก็ต้องผงะไปร้องขึ้น “นี่…นี่มันสายเลือดภูตแท้ระดับโกลาหล! เป็นไปได้อย่างไรกัน? ร่างกายของคนกลับสามารถพัฒนาขึ้นไปสู่สายเลือดภูตแท้ระดับโกลาหลได้?”

เยียวเลอเองก็ผงะไปอย่างตกตะลึง “ภูตแท้โกลาหลกำเนิด พวกมันนั้นมีเพียงแค่ห้าคนในโลกหล้านี้! สามจากห้านั้นได้ตายลงไปด้วยมือของบรรพบุรุษท่านแล้ว! มันย่อมไม่มีทางใดที่ร่างกายหลังกำเนิดนั้นจะเปลี่ยนแปลงเป็นถึงระดับโกลาหลได้! มันทำได้อย่างไร?”

หลังหายตกตะลึงฉือชางก็ขนลุกตั้งร้องสั่งขึ้น “เร็วเข้า! รีบใช้ไม้ตายของพวกเจ้าออก! เราจะปล่อยให้มันพัฒนาสำเร็จไม่ได้!”

ฉือชางนั้นไม่กล้าคาดเดาเลยว่าหลังจากที่สายเลือดสี่ภูตแท้นั้นพัฒนาไปจนถึงระดับโกลาหลและผสานเข้าด้วยกันมันจะต้องทรงพลังแค่ไหน

เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่คิดรอดู!

ต่อให้จะต้องเจ็บสาหัสเขาก็พร้อมจะแลก!

ร่างของเขาเปล่งแสงสีแดงเลือดออกมาปกคลุมท้องฟ้าพร้อมด้วยดาบเลือดในมือที่กลายเป็นสีแดงฉานดูชั่วร้ายอย่างที่สุด!

พร้อมๆ กันนั้นคลื่นพลังจากร่างของฉือชางมันก็ทะยานผ่านระดับขึ้นไปถึงเจ้าโลกระดับสูง!

ฉือชางในตอนนี้มันกลายเป็นดั่งเทพปีศาจ!

“กระบวนท่าที่สิบแปด เทพโลหิตพิโรธ!”

อีกฝั่งนั้นเยียวเลอและเหมิงจินเองก็ต้องทำหน้าเครียด ตอนนี้พวกเขานั้นไม่อาจจะเก็บซ่อนไม้ตายใดๆ ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว

หลังจากใช้งานไม้ตายนี้ออกมาพวกเขานั้นจะต้องเหนื่อยอ่อนหมดสภาพต่อสู้หรือไม่ก็อาจทำให้ตัวเองบาดเจ็บสาหัสไม่อาจรักษากลับมาได้ง่ายๆ

เทพโลหิตพิโรธของฉือชางนั้นเป็นอย่างหลังแต่ไม้ตายของเยียวเลอและเหมิงจินนั้นเป็นอย่างหน้า

แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อใช้มันออกมาแล้วฟ้าดินจะต้องสั่นสะเทือน!

สามคลื่นพลังรุนแรงนั้นกระแทกเข้ามาใส่ค่ายกลเอกภพของเย่หยวน

………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3092 บรรลุเต๋าด้วยการต่อสู้!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3092 บรรลุเต๋าด้วยการต่อสู้! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“มันยังมีอีกสิบหกกระบวนท่า ใช้มันออกมาให้หมด ข้าจะรับมันให้ดู!” เย่หยวนหันไปตะโกนใส่ฉือชางอย่างมั่นใจ

ฉือชางนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเครียดเพราะตอนนี้เขาไม่มีเวลามาสนใจเรื่องชื่อเสียงหน้าตาใดๆ แล้ว

“โจมตีมันพร้อมกัน! เจ้าเด็กนี่มันคงคิดจะบรรลุเต๋าด้วยการต่อสู้แน่นอน จะให้มันทำสำเร็จไม่ได้! สังหารมันลง!” ฉือชางร้องลั่นขึ้นสั่ง

เยียวเลอและเหมิงจินนั้นสั่นสะท้านไปทั้งใจ มีหรือที่พวกเขาจะยังกล้ายืนเฉยมองดูเรื่องราวอีก?

ความเก่งกาจของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำกว่าสิ่งใดที่พวกเขาเคยได้รู้ได้เห็น

คนเขาว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น แต่ครั้งนี้เมื่อได้เห็นเข้ากับตัวเองแล้วพวกเขาก็ได้เข้าใจว่าทำไมบรรพบุรุษและท่านอี้เฉียนั้นต่างให้ค่ามหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่งมากมายขนาดนี้

เพราะเพื่อจัดการกับเขาคนนี้ พวกเขากลับเลือกที่จะใช้งานประคำขจัดเลือดออกมา!

เพราะว่าประคำขจัดเลือดนี้มันเป็นของมีค่าแม้แต่กับตัวบรรพบุรุษท่านเอง

การเก็บกักเลือดของยอดเต๋าต่างๆ จากทุกสวรรค์นั้นมันคือหน้าที่ของประคำขจัดเลือด

ประคำขจัดเลือดแต่ละชิ้นนั้นมันต้องกลืนกินเลือดผู้คนไปกว่าแสนๆ ล้านถึงจะใช้งานออกมาได้

ตอนที่พวกเขาทั้งสามได้ยินว่าบรรพบุรุษท่านนั้นคิดใช้ประคำขจัดเลือดจัดการเย่หยวนนั้นพวกเขาทั้งสามต่างจะคิดว่ามันเหมือนการเอาปืนใหญ่มายิงมด เป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนอย่างแท้จริง

แต่เป็นเวลานี้เองที่พวกเขานั้นได้เข้าใจว่ามันไม่ได้เกินเลยไปเลย!

“ไม่แปลกใจเลยว่าอี้เฉียนั้นมันส่งเจ้ามาเป็นผู้นำ เจ้ามันฉลาด! ใช้แล้ว ข้านั้นคิดจะบรรลุเต๋าด้วยการต่อสู้ แต่ข้าจะบรรลุได้ก่อนหรือว่าพวกเจ้าจะสังหารข้าลงได้ก่อนนั้นมันก็ต้องดูกันไป!” เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป

ตอนนี้เย่หยวนนั้นยังไม่อาจจะจัดการฉือชางลงได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการรับมือสามเจ้าโลกพร้อมๆ กันเลย

เพราะฉะนั้นนี่มันจึงเป็นเส้นทางที่ไม่อาจหันกลับ

ต้องตายกันไปข้าง!

ในเวลาเดียวกันนี้พวกฉือชางทั้งสามเองก็ไม่กล้าจะออมมือใดๆ อีก

คนทั้งสามนั้นลงมาล้อมเย่หยวนไว้ตรงกลาง

เมื่อพวกเขาลงมือแล้วมันย่อมจะก่อให้เกิดพลังงานรุนแรงจนน่าตกตะลึง

“สังหารเก้าชั่วโคตร!”

“ขวานผ่าสวรรค์!”

“ระเบิดโลหิตราตรีทมิฬ!”

เมื่อพวกฉือชางทั้งสามร่วมมือกันโจมตีออกมาแล้วพลังของมันย่อมจะรุนแรงจนแทบไม่อาจหายใจ

เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเครียดใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ออกมาพร้อมแยกเขาแดนอนันต์ออกจากกัน

“ค่ายกลเอกภพ!”

เขาแดนอนันต์นั้นมันแยกออกเป็นเจ็ดส่วนและกลายเป็นจุดเชื่อของค่ายกลเอกภพรับการโจมตีของคนทั้งสามไป

การโจมตีแต่ละครั้งที่กระแทกเข้ามานั้นมันย่อมจะทำให้เย่หยวนรู้สึกได้ถึงเสียงกระดูกที่ลั่นขึ้นในกาย

เขาแดนอนันต์นั้นมันแยกเป็นเจ็ดส่วน ย่อมจะไม่มีพลังรุนแรงหนักหน่วงเหมือนตอนที่มันรวมเป็นหนึ่ง

แต่เมื่อสามเจ้าโลกโจมตีเข้ามาจากสามทิศ เย่หยวนก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแยกมันออกมารับ

เวลานี้นอกจากพลังอันรุนแรงของพวกฉือชางแล้วมันยังมีพลังเสริมคลื่นกำเนิดเลือดจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆาอีกด้วย!

คนทั้งสามนั้นผสานพลังทำให้การโจมตีนี้มันรุนแรงล้ำ

เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องกัดฟันอยู่ใต้การโจมตีต่อเนื่องของคนทั้งสาม

ฉือชางนั้นเองก็ตกตะลึงสุดหัวใจเพราะเย่หยวนกลับยังสามารถรับมันไว้ได้!

เพราะต่อให้จะเป็นเขา ตัวเขาก็คงไม่อาจจะรับการโจมตีเช่นนี้ไว้ได้แล้ว

“เจ้าเด็กนี่มันคงเจ็บหนักแล้ว เร่งมือเข้า! กระบวนท่าที่สิบห้า โลหิตตะวันเที่ยง!”

ฉือชางฟันดาบในมือออกมาอีกครั้งด้วยคลื่นพลังสีแดงเลือดราวกับว่ามันจะกลืนกินทุกสิ่งอย่างไป

การโจมตีนี้ปะทะกับค่ายกลเอกภพเข้าอย่างแรง

ตูม!

เย่หยวนนั้นแทบสิ้นสติลงไปต้องกระอักเลือดรุนแรงขึ้นมารู้สึกได้ทันทีว่าอวัยวะภายในมันแตกสลาย

ฉือชางนั้นใช้วรยุทธวิชาดาบออกมาจนถึงกระบวนท่าที่สิบห้า พลังของมันย่อมจะรุนแรงจนน่ากลัว

วิชาดาบนี้มันทรงพลังอย่างมากแต่ยิ่งใช้ไปหลายกระบวนท่าเท่าไหร่มันก็จะยิ่งเป็นภาระให้แก่ร่างของผู้ใช้งานด้วย

เพราะฉะนั้นกระบวนท่าที่สิบห้านั้นมันคือขีดจำกัดที่ฉือชางจะใช้ได้อย่างไม่มีผลข้างเคียงแล้ว

หากใช้กระบวนท่าที่สิบหกขึ้นไปนั้นตัวเขาเองก็จะได้รับบาดเจ็บไปเช่นกัน

ฉือชางเองก็ไม่คิดว่ามหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่งมันกลับจะสามารถทำให้เขาต้องลงมือจนสุดตัวเช่นนี้

แต่ว่าเขาก็เห็นชัดเจนถึงท่าทางอ่อนแรงของเย่หยวนภายในค่ายกลและค่อยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง

ภายในมหาค่ายกลโลหิตเมฆานี้มันมีแต่เสียงระเบิดดังขึ้นไม่มีหยุด

เย่หยวนนั้นบาดเจ็บสาหัสหากเป็นคนอื่นๆ นั้นพวกเขาคงหมดสติไปนานแล้ว

การคิดบรรลุภายใต้สถานการณ์เช่นนี้มันไม่มีใครสามารถทำได้

แต่เย่หยวนนั้นกลับมีจิตใจที่สงบอย่างมาก

ภายใต้การโจมตีอันบ้าคลั่งนี้เขากลับกำลังนั่งสัมผัสพลังของมหาค่ายกลโลหิตเมฆาอย่างลึกซึ้ง!

นี่มันคือคลื่นกำเนิดเลือดที่บริสุทธิ์ที่สุดบนโลก!

ภายในร่างของเย่หยวนนั้นสายเลือดทั้งสี่มันถูกคลื่นกำเนิดเลือดควบคุมและใช้งานไปด้วยคลื่นกำเนิดเลือดเสมอๆ

จนดูเหมือนสายเลือดทั้งสี่นั้นผสานกันไปอย่างดี

แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะได้รับคลื่นกำเนิดเลือดมาจากศิลาโลหิตโกลาหลนั้นแต่ความเข้าใจต่อเลือดของเขามันกลับแตกต่างจากศิลาโลหิตโกลาหลไปมากนัก

เพราะว่าคลื่นกำเนิดเลือดของศิลาโลหิตโกลาหลนั้นมันรุนแรงและชั่วร้าย มันแสดงหาเพียงแค่พลัง

แต่เย่หยวนนั้นได้สร้างเต๋าแห่งเลือดของตัวเองขึ้นมา

ในเวลานี้เย่หยวนนั้นกำลังประกอบเต๋าของตัวเองขึ้นด้วยการศึกษาพลังจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆาทีละน้อยๆ ค่อยๆ ลบล้างจุดอ่อนและสร้างความเข้าใจใหม่ขึ้นมา

“เลือด มันคือสิ่งที่เป็นลางร้ายเสมอมา”

“เลือด มันคือตัวแทนของความบาดเจ็บ ความตาย”

“แต่เลือดนั้นมันก็คือส่วนหนึ่งของทุกชีวิต! ในโลกใบนี้ทุกสิ่งที่มีเนื้อนั้นต่างมีเลือด! มันคือชีวิต! นอกจากนั้นมันยังเป็นส่วนสำคัญของชีวิต!”

“ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นดึงพลังเลือดนี้จากทุกชีวิตบนสวรรค์เพื่อไปเสริมพลังของตัวเองทำให้ตัวมันนั้นก้าวผ่านล้ำสวรรค์ไป แต่พลังของมันก็ยังมิใช่คลื่นกำเนิดเลือดทั้งหมด!”

“โกลาหล คลื่นกำเนิดเลือด พลังสายเลือด! สิ่งที่ให้กำเนิดเลือดมานั้นสุดท้ายแล้วก็ยังเป็นความโกลาหล!”

เย่หยวนนั้นยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ พร้อมด้วยพลังสายเลือดในร่างที่เดือดพล่านขึ้นมา

สายเลือดทั้งสี่ในร่างของเขานั้นมันสามารถใช้งานออกมาได้แต่ก็ยังแยกกันอยู่ตลอด

สายเลือดสี่รูปแบบนั้นมันทรงพลังและไม่อาจจะเข้ากันได้เหมือนน้ำกับน้ำมัน

แต่ในเวลานี้มันกลับแสดงท่าทีว่าจะผสานกันเป็นหนึ่งได้จริงๆ!

แต่ว่าการผสานนี้มันทำให้เกิดพลังงานรุนแรงในร่างเย่หยวนจนเขารู้สึกราวกับร่างกายจะทนรับไม่ไหว!

ตูม!

คลื่นพลังสายเลือดปะทุขึ้นมาจากร่างของเขา

“โฮ่ก! โฮ่ก! โฮ่ก! โฮ่ก!”

ด้านหลังเย่หยวนนั้นมันมีสี่เงาร่างใหญ่ร้องลั่นขึ้นมาพร้อมด้วยพลังงานที่รุนแรงสะท้านฟ้าดิน!

พร้อมๆ กันนั้นร่างกายของพวกมันก็ดูชัดเจนขึ้นอย่างมาก

ในเวลานี้มังกรฟ้า พยัคฆ์ขาว หงส์แดงและเต่าดำทั้งสี่นั้นต่างปรากฏออกมาชัดเจนเหมือนราวกับเป็นภูตแท้ตัวจริง!

ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกตะลึงนั้นฉือชางก็ต้องผงะไปร้องขึ้น “นี่…นี่มันสายเลือดภูตแท้ระดับโกลาหล! เป็นไปได้อย่างไรกัน? ร่างกายของคนกลับสามารถพัฒนาขึ้นไปสู่สายเลือดภูตแท้ระดับโกลาหลได้?”

เยียวเลอเองก็ผงะไปอย่างตกตะลึง “ภูตแท้โกลาหลกำเนิด พวกมันนั้นมีเพียงแค่ห้าคนในโลกหล้านี้! สามจากห้านั้นได้ตายลงไปด้วยมือของบรรพบุรุษท่านแล้ว! มันย่อมไม่มีทางใดที่ร่างกายหลังกำเนิดนั้นจะเปลี่ยนแปลงเป็นถึงระดับโกลาหลได้! มันทำได้อย่างไร?”

หลังหายตกตะลึงฉือชางก็ขนลุกตั้งร้องสั่งขึ้น “เร็วเข้า! รีบใช้ไม้ตายของพวกเจ้าออก! เราจะปล่อยให้มันพัฒนาสำเร็จไม่ได้!”

ฉือชางนั้นไม่กล้าคาดเดาเลยว่าหลังจากที่สายเลือดสี่ภูตแท้นั้นพัฒนาไปจนถึงระดับโกลาหลและผสานเข้าด้วยกันมันจะต้องทรงพลังแค่ไหน

เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่คิดรอดู!

ต่อให้จะต้องเจ็บสาหัสเขาก็พร้อมจะแลก!

ร่างของเขาเปล่งแสงสีแดงเลือดออกมาปกคลุมท้องฟ้าพร้อมด้วยดาบเลือดในมือที่กลายเป็นสีแดงฉานดูชั่วร้ายอย่างที่สุด!

พร้อมๆ กันนั้นคลื่นพลังจากร่างของฉือชางมันก็ทะยานผ่านระดับขึ้นไปถึงเจ้าโลกระดับสูง!

ฉือชางในตอนนี้มันกลายเป็นดั่งเทพปีศาจ!

“กระบวนท่าที่สิบแปด เทพโลหิตพิโรธ!”

อีกฝั่งนั้นเยียวเลอและเหมิงจินเองก็ต้องทำหน้าเครียด ตอนนี้พวกเขานั้นไม่อาจจะเก็บซ่อนไม้ตายใดๆ ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว

หลังจากใช้งานไม้ตายนี้ออกมาพวกเขานั้นจะต้องเหนื่อยอ่อนหมดสภาพต่อสู้หรือไม่ก็อาจทำให้ตัวเองบาดเจ็บสาหัสไม่อาจรักษากลับมาได้ง่ายๆ

เทพโลหิตพิโรธของฉือชางนั้นเป็นอย่างหลังแต่ไม้ตายของเยียวเลอและเหมิงจินนั้นเป็นอย่างหน้า

แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อใช้มันออกมาแล้วฟ้าดินจะต้องสั่นสะเทือน!

สามคลื่นพลังรุนแรงนั้นกระแทกเข้ามาใส่ค่ายกลเอกภพของเย่หยวน

………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3092 บรรลุเต๋าด้วยการต่อสู้!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3092 บรรลุเต๋าด้วยการต่อสู้! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“มันยังมีอีกสิบหกกระบวนท่า ใช้มันออกมาให้หมด ข้าจะรับมันให้ดู!” เย่หยวนหันไปตะโกนใส่ฉือชางอย่างมั่นใจ

ฉือชางนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเครียดเพราะตอนนี้เขาไม่มีเวลามาสนใจเรื่องชื่อเสียงหน้าตาใดๆ แล้ว

“โจมตีมันพร้อมกัน! เจ้าเด็กนี่มันคงคิดจะบรรลุเต๋าด้วยการต่อสู้แน่นอน จะให้มันทำสำเร็จไม่ได้! สังหารมันลง!” ฉือชางร้องลั่นขึ้นสั่ง

เยียวเลอและเหมิงจินนั้นสั่นสะท้านไปทั้งใจ มีหรือที่พวกเขาจะยังกล้ายืนเฉยมองดูเรื่องราวอีก?

ความเก่งกาจของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำกว่าสิ่งใดที่พวกเขาเคยได้รู้ได้เห็น

คนเขาว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น แต่ครั้งนี้เมื่อได้เห็นเข้ากับตัวเองแล้วพวกเขาก็ได้เข้าใจว่าทำไมบรรพบุรุษและท่านอี้เฉียนั้นต่างให้ค่ามหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่งมากมายขนาดนี้

เพราะเพื่อจัดการกับเขาคนนี้ พวกเขากลับเลือกที่จะใช้งานประคำขจัดเลือดออกมา!

เพราะว่าประคำขจัดเลือดนี้มันเป็นของมีค่าแม้แต่กับตัวบรรพบุรุษท่านเอง

การเก็บกักเลือดของยอดเต๋าต่างๆ จากทุกสวรรค์นั้นมันคือหน้าที่ของประคำขจัดเลือด

ประคำขจัดเลือดแต่ละชิ้นนั้นมันต้องกลืนกินเลือดผู้คนไปกว่าแสนๆ ล้านถึงจะใช้งานออกมาได้

ตอนที่พวกเขาทั้งสามได้ยินว่าบรรพบุรุษท่านนั้นคิดใช้ประคำขจัดเลือดจัดการเย่หยวนนั้นพวกเขาทั้งสามต่างจะคิดว่ามันเหมือนการเอาปืนใหญ่มายิงมด เป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนอย่างแท้จริง

แต่เป็นเวลานี้เองที่พวกเขานั้นได้เข้าใจว่ามันไม่ได้เกินเลยไปเลย!

“ไม่แปลกใจเลยว่าอี้เฉียนั้นมันส่งเจ้ามาเป็นผู้นำ เจ้ามันฉลาด! ใช้แล้ว ข้านั้นคิดจะบรรลุเต๋าด้วยการต่อสู้ แต่ข้าจะบรรลุได้ก่อนหรือว่าพวกเจ้าจะสังหารข้าลงได้ก่อนนั้นมันก็ต้องดูกันไป!” เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป

ตอนนี้เย่หยวนนั้นยังไม่อาจจะจัดการฉือชางลงได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการรับมือสามเจ้าโลกพร้อมๆ กันเลย

เพราะฉะนั้นนี่มันจึงเป็นเส้นทางที่ไม่อาจหันกลับ

ต้องตายกันไปข้าง!

ในเวลาเดียวกันนี้พวกฉือชางทั้งสามเองก็ไม่กล้าจะออมมือใดๆ อีก

คนทั้งสามนั้นลงมาล้อมเย่หยวนไว้ตรงกลาง

เมื่อพวกเขาลงมือแล้วมันย่อมจะก่อให้เกิดพลังงานรุนแรงจนน่าตกตะลึง

“สังหารเก้าชั่วโคตร!”

“ขวานผ่าสวรรค์!”

“ระเบิดโลหิตราตรีทมิฬ!”

เมื่อพวกฉือชางทั้งสามร่วมมือกันโจมตีออกมาแล้วพลังของมันย่อมจะรุนแรงจนแทบไม่อาจหายใจ

เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเครียดใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ออกมาพร้อมแยกเขาแดนอนันต์ออกจากกัน

“ค่ายกลเอกภพ!”

เขาแดนอนันต์นั้นมันแยกออกเป็นเจ็ดส่วนและกลายเป็นจุดเชื่อของค่ายกลเอกภพรับการโจมตีของคนทั้งสามไป

การโจมตีแต่ละครั้งที่กระแทกเข้ามานั้นมันย่อมจะทำให้เย่หยวนรู้สึกได้ถึงเสียงกระดูกที่ลั่นขึ้นในกาย

เขาแดนอนันต์นั้นมันแยกเป็นเจ็ดส่วน ย่อมจะไม่มีพลังรุนแรงหนักหน่วงเหมือนตอนที่มันรวมเป็นหนึ่ง

แต่เมื่อสามเจ้าโลกโจมตีเข้ามาจากสามทิศ เย่หยวนก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแยกมันออกมารับ

เวลานี้นอกจากพลังอันรุนแรงของพวกฉือชางแล้วมันยังมีพลังเสริมคลื่นกำเนิดเลือดจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆาอีกด้วย!

คนทั้งสามนั้นผสานพลังทำให้การโจมตีนี้มันรุนแรงล้ำ

เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องกัดฟันอยู่ใต้การโจมตีต่อเนื่องของคนทั้งสาม

ฉือชางนั้นเองก็ตกตะลึงสุดหัวใจเพราะเย่หยวนกลับยังสามารถรับมันไว้ได้!

เพราะต่อให้จะเป็นเขา ตัวเขาก็คงไม่อาจจะรับการโจมตีเช่นนี้ไว้ได้แล้ว

“เจ้าเด็กนี่มันคงเจ็บหนักแล้ว เร่งมือเข้า! กระบวนท่าที่สิบห้า โลหิตตะวันเที่ยง!”

ฉือชางฟันดาบในมือออกมาอีกครั้งด้วยคลื่นพลังสีแดงเลือดราวกับว่ามันจะกลืนกินทุกสิ่งอย่างไป

การโจมตีนี้ปะทะกับค่ายกลเอกภพเข้าอย่างแรง

ตูม!

เย่หยวนนั้นแทบสิ้นสติลงไปต้องกระอักเลือดรุนแรงขึ้นมารู้สึกได้ทันทีว่าอวัยวะภายในมันแตกสลาย

ฉือชางนั้นใช้วรยุทธวิชาดาบออกมาจนถึงกระบวนท่าที่สิบห้า พลังของมันย่อมจะรุนแรงจนน่ากลัว

วิชาดาบนี้มันทรงพลังอย่างมากแต่ยิ่งใช้ไปหลายกระบวนท่าเท่าไหร่มันก็จะยิ่งเป็นภาระให้แก่ร่างของผู้ใช้งานด้วย

เพราะฉะนั้นกระบวนท่าที่สิบห้านั้นมันคือขีดจำกัดที่ฉือชางจะใช้ได้อย่างไม่มีผลข้างเคียงแล้ว

หากใช้กระบวนท่าที่สิบหกขึ้นไปนั้นตัวเขาเองก็จะได้รับบาดเจ็บไปเช่นกัน

ฉือชางเองก็ไม่คิดว่ามหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่งมันกลับจะสามารถทำให้เขาต้องลงมือจนสุดตัวเช่นนี้

แต่ว่าเขาก็เห็นชัดเจนถึงท่าทางอ่อนแรงของเย่หยวนภายในค่ายกลและค่อยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง

ภายในมหาค่ายกลโลหิตเมฆานี้มันมีแต่เสียงระเบิดดังขึ้นไม่มีหยุด

เย่หยวนนั้นบาดเจ็บสาหัสหากเป็นคนอื่นๆ นั้นพวกเขาคงหมดสติไปนานแล้ว

การคิดบรรลุภายใต้สถานการณ์เช่นนี้มันไม่มีใครสามารถทำได้

แต่เย่หยวนนั้นกลับมีจิตใจที่สงบอย่างมาก

ภายใต้การโจมตีอันบ้าคลั่งนี้เขากลับกำลังนั่งสัมผัสพลังของมหาค่ายกลโลหิตเมฆาอย่างลึกซึ้ง!

นี่มันคือคลื่นกำเนิดเลือดที่บริสุทธิ์ที่สุดบนโลก!

ภายในร่างของเย่หยวนนั้นสายเลือดทั้งสี่มันถูกคลื่นกำเนิดเลือดควบคุมและใช้งานไปด้วยคลื่นกำเนิดเลือดเสมอๆ

จนดูเหมือนสายเลือดทั้งสี่นั้นผสานกันไปอย่างดี

แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะได้รับคลื่นกำเนิดเลือดมาจากศิลาโลหิตโกลาหลนั้นแต่ความเข้าใจต่อเลือดของเขามันกลับแตกต่างจากศิลาโลหิตโกลาหลไปมากนัก

เพราะว่าคลื่นกำเนิดเลือดของศิลาโลหิตโกลาหลนั้นมันรุนแรงและชั่วร้าย มันแสดงหาเพียงแค่พลัง

แต่เย่หยวนนั้นได้สร้างเต๋าแห่งเลือดของตัวเองขึ้นมา

ในเวลานี้เย่หยวนนั้นกำลังประกอบเต๋าของตัวเองขึ้นด้วยการศึกษาพลังจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆาทีละน้อยๆ ค่อยๆ ลบล้างจุดอ่อนและสร้างความเข้าใจใหม่ขึ้นมา

“เลือด มันคือสิ่งที่เป็นลางร้ายเสมอมา”

“เลือด มันคือตัวแทนของความบาดเจ็บ ความตาย”

“แต่เลือดนั้นมันก็คือส่วนหนึ่งของทุกชีวิต! ในโลกใบนี้ทุกสิ่งที่มีเนื้อนั้นต่างมีเลือด! มันคือชีวิต! นอกจากนั้นมันยังเป็นส่วนสำคัญของชีวิต!”

“ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นดึงพลังเลือดนี้จากทุกชีวิตบนสวรรค์เพื่อไปเสริมพลังของตัวเองทำให้ตัวมันนั้นก้าวผ่านล้ำสวรรค์ไป แต่พลังของมันก็ยังมิใช่คลื่นกำเนิดเลือดทั้งหมด!”

“โกลาหล คลื่นกำเนิดเลือด พลังสายเลือด! สิ่งที่ให้กำเนิดเลือดมานั้นสุดท้ายแล้วก็ยังเป็นความโกลาหล!”

เย่หยวนนั้นยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ พร้อมด้วยพลังสายเลือดในร่างที่เดือดพล่านขึ้นมา

สายเลือดทั้งสี่ในร่างของเขานั้นมันสามารถใช้งานออกมาได้แต่ก็ยังแยกกันอยู่ตลอด

สายเลือดสี่รูปแบบนั้นมันทรงพลังและไม่อาจจะเข้ากันได้เหมือนน้ำกับน้ำมัน

แต่ในเวลานี้มันกลับแสดงท่าทีว่าจะผสานกันเป็นหนึ่งได้จริงๆ!

แต่ว่าการผสานนี้มันทำให้เกิดพลังงานรุนแรงในร่างเย่หยวนจนเขารู้สึกราวกับร่างกายจะทนรับไม่ไหว!

ตูม!

คลื่นพลังสายเลือดปะทุขึ้นมาจากร่างของเขา

“โฮ่ก! โฮ่ก! โฮ่ก! โฮ่ก!”

ด้านหลังเย่หยวนนั้นมันมีสี่เงาร่างใหญ่ร้องลั่นขึ้นมาพร้อมด้วยพลังงานที่รุนแรงสะท้านฟ้าดิน!

พร้อมๆ กันนั้นร่างกายของพวกมันก็ดูชัดเจนขึ้นอย่างมาก

ในเวลานี้มังกรฟ้า พยัคฆ์ขาว หงส์แดงและเต่าดำทั้งสี่นั้นต่างปรากฏออกมาชัดเจนเหมือนราวกับเป็นภูตแท้ตัวจริง!

ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกตะลึงนั้นฉือชางก็ต้องผงะไปร้องขึ้น “นี่…นี่มันสายเลือดภูตแท้ระดับโกลาหล! เป็นไปได้อย่างไรกัน? ร่างกายของคนกลับสามารถพัฒนาขึ้นไปสู่สายเลือดภูตแท้ระดับโกลาหลได้?”

เยียวเลอเองก็ผงะไปอย่างตกตะลึง “ภูตแท้โกลาหลกำเนิด พวกมันนั้นมีเพียงแค่ห้าคนในโลกหล้านี้! สามจากห้านั้นได้ตายลงไปด้วยมือของบรรพบุรุษท่านแล้ว! มันย่อมไม่มีทางใดที่ร่างกายหลังกำเนิดนั้นจะเปลี่ยนแปลงเป็นถึงระดับโกลาหลได้! มันทำได้อย่างไร?”

หลังหายตกตะลึงฉือชางก็ขนลุกตั้งร้องสั่งขึ้น “เร็วเข้า! รีบใช้ไม้ตายของพวกเจ้าออก! เราจะปล่อยให้มันพัฒนาสำเร็จไม่ได้!”

ฉือชางนั้นไม่กล้าคาดเดาเลยว่าหลังจากที่สายเลือดสี่ภูตแท้นั้นพัฒนาไปจนถึงระดับโกลาหลและผสานเข้าด้วยกันมันจะต้องทรงพลังแค่ไหน

เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่คิดรอดู!

ต่อให้จะต้องเจ็บสาหัสเขาก็พร้อมจะแลก!

ร่างของเขาเปล่งแสงสีแดงเลือดออกมาปกคลุมท้องฟ้าพร้อมด้วยดาบเลือดในมือที่กลายเป็นสีแดงฉานดูชั่วร้ายอย่างที่สุด!

พร้อมๆ กันนั้นคลื่นพลังจากร่างของฉือชางมันก็ทะยานผ่านระดับขึ้นไปถึงเจ้าโลกระดับสูง!

ฉือชางในตอนนี้มันกลายเป็นดั่งเทพปีศาจ!

“กระบวนท่าที่สิบแปด เทพโลหิตพิโรธ!”

อีกฝั่งนั้นเยียวเลอและเหมิงจินเองก็ต้องทำหน้าเครียด ตอนนี้พวกเขานั้นไม่อาจจะเก็บซ่อนไม้ตายใดๆ ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว

หลังจากใช้งานไม้ตายนี้ออกมาพวกเขานั้นจะต้องเหนื่อยอ่อนหมดสภาพต่อสู้หรือไม่ก็อาจทำให้ตัวเองบาดเจ็บสาหัสไม่อาจรักษากลับมาได้ง่ายๆ

เทพโลหิตพิโรธของฉือชางนั้นเป็นอย่างหลังแต่ไม้ตายของเยียวเลอและเหมิงจินนั้นเป็นอย่างหน้า

แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อใช้มันออกมาแล้วฟ้าดินจะต้องสั่นสะเทือน!

สามคลื่นพลังรุนแรงนั้นกระแทกเข้ามาใส่ค่ายกลเอกภพของเย่หยวน

………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+