Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3093 พลังสายเลือดระดับโกลาหล!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3093 พลังสายเลือดระดับโกลาหล! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตูม!

เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วทั้งมิติของหมอกเลือดนี้

จุดที่เย่หยวนเคยยืนอยู่นั้นมันหายไปไม่เหลือแม้แต่เศษดิน

คลื่นพลังสายเลือดทั้งสี่เองก็จางหายไปภายใต้พลังการโจมตีของคนทั้งสามนั้น

ฉือชางได้แต่ต้องถอนหายใจยาวออกมา “ข้าไม่นึกเลยว่าการสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่งกลับต้องให้ข้าได้ใช้เทพโลหิตพิโรธออกมา! เท่านี้หากไม่ได้พักรักษาตัวสักพันปีข้าก็คงไม่อาจจะฟื้นกลับไปยืนอยู่ในจุดเดิมได้!”

ส่วนพวกเยียวเลอและเหมิงจินนั้นเองก็มีคลื่นพลังเบาบางลงอย่างมาก อ่อนแอกว่าก่อนหน้าอย่างไม่อาจเทียบ

การโจมตีสุดท้ายนี้มันกินพลังพวกเขาไปอย่างมากเช่นกัน

“โชคยังดีที่งานครั้งนี้ถือว่าสำเร็จไปได้แล้ว! เผ่าเลือดของเรานั้นสามารถกำจัดหายนะที่พร้อมจะแทงทิ่มพวกเราได้เสียที!” เหมิงจินถอนหายใจยาวกล่าวออกมา

ก่อนหน้านี้พวกเขาย่อมจะไม่คิดยอมรับว่ามหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ตัวน้อยคนหนึ่งจะเป็นหายนะให้แก่เผ่าเลือดได้ต่อให้จะเป็นยอดอัจฉริยะที่ถูกตราหน้าว่าเป็นสัตว์ประหลาดแค่ไหนก็ตาม

แต่ตอนนี้พวกเขานั้นได้แต่ต้องชื่นชมความรอบคอบของบรรพบุรุษและอี้เฉียนั้น

ฉือชางนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางระแวง “เหมิงจิน เจ้าเข้าไปตรวจดูหน่อย!”

เหมิงจินพยักหน้ารับก่อนจะเดินผ่านม่านหมอกเลือดไป

แต่ในเวลานั้นเองที่มันเกิดเรื่องผิดปกติขึ้น

เพราะหมอกเลือดนั้นมันกลับค่อยๆ หมุนวนจนกลายเป็นเหมือนพายุ

จากนั้นพายุหมุนมันก็ค่อยๆ ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ

พริบตาเดียวนั้นพายุหมุนหมอกเลือดมันก็ทำให้ทั้งมหาค่ายกลโลหิตเมฆาเข้าสู่ความปั่นป่วน

เวลานี้แสงสีแดงเลือดมากมายมันถูกกลืนเข้าไปในพายุนั้น

ฉือชางนั้นต้องเบิกตากว้างร้องขึ้น “นี่มัน…เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นอีก?”

เยียวเลอได้แต่ต้องร้องลั่นขึ้นอย่างตกตะลึง “พลังของมหาค่ายกลโลหิตเมฆานั้นมันกำลังถูกดึงออกไป! หรือว่าเจ้าเด็กนั่นจะยังไม่ตาย?”

พูดยังไม่ทันขาดคำนั้นมันก็ปรากฏเงาร่างหนึ่งเดินออกมาจากตาพายุ และมันจะเป็นใครไปได้นอกจากเย่หยวน?

มิใช่เพียงแค่ว่าเย่หยวนจะยังไม่ตาย แต่ตอนนี้พลังของเขามันกลับกำลังพุ่งทะยานขึ้นอย่างไม่มีท่าทีจะหยุดลง!

ฉือชางนั้นต้องอ้าปากค้างร้องลั่นขึ้น “นี่…นี่มันกำลังจะบรรลุหรือ? มันกำลังกลืนกินพลังงานของมหาค่ายกลโลหิตเมฆา? บ…บ้าเรอะ?”

พลังงานเลือดนั้นมันไม่มีทางถูกเผ่าอื่นเอาไปใช้งานได้

เพราะหากคนเผ่าอื่นคิดดูดกลืนพลังงานเลือดเข้าไปแล้วมันมีแต่จะทำให้รากฐานการบ่มเพาะของพวกเขาเสียหายถูกกัดกร่อนและนอกจากจะบรรลุไม่ได้แล้ว พวกเขายังจะไม่อาจบ่มเพาะได้อีกต่อไปด้วย

แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับกำลังกลืนกินพลังงานเลือดไปหน้าตาเฉย!

ภายในพายุใหญ่นั้นเย่หยวนยิ้มกล่าวขึ้นมา “เต๋าแห่งเลือดนั้นคือยอดเต๋า มันมิใช่สิ่งที่พิเศษเฉพาะเผ่าเลือดพวกเจ้าเสียหน่อย! สายเลือดทั้งสี่ของข้านั้นเพิ่งบรรลุระดับโกลาหลมาได้กำลังต้องการพลังงานเลือดหล่อเลี้ยงพอดี ขอบคุณพวกเจ้ามาก! อี้เฉียมันคิดวางแผนสังหารข้า คงคิดไม่ถึงสิว่าแผนของมันกลับจะกลายเป็นของขวัญให้ข้าเช่นนี้?”

พวกฉือชางทั้งสามนั้นใจหายวาบไปทันทีที่ได้ยิน

เพราะเจ้าบ้านี่กำลังใช้เลือดที่พวกเขาเก็บมาอย่างยากลำบากนั้นบ่มเพาะเพิ่มพลังให้ตัวเอง!

ตอนนี้เงาร่างของสี่ภูตแท้อันน้อยกำลังหมุนวนอยู่ตรงหน้าเย่หยวนอย่างไม่มีหยุด กลืนพลังงานเลือดเข้าไปอย่างหิวโหย

พลังงานเลือดที่ถูกดูดกลืนเข้ามานั้นมันถูกส่งต่อไปยังร่างทั้งสี่นั้นโดยตรง!

และพร้อมๆ กันนั้นคลื่นพลังของเย่หยวนก็พุ่งทะยานขึ้น

“เราจะให้มันบรรลุไม่ได้! สังหารมัน!”

ฉือชางนั้นรู้ดีว่าเรื่องนี้คงไม่ดีแล้วจึงคิดใช้เทพโลหิตพิโรธออกมาอีกครั้งทันที!

แม้ว่าเยียวเลอและเหมิงจินนั้นจะอ่อนแรงไปมากแต่พวกเขาก็ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนั้นแล้วเช่นกัน พลังคลื่นกำเนิดปะทุขึ้นมาจากร่างของพวกเขาและพุ่งตัวเข้าใส่เย่หยวนอย่างไม่คิดชีวิต

เว้นเสียแต่ว่าพลังนี้มันอ่อนแอกว่าการโจมตีผสานก่อนหน้ามากมายนัก

เย่หยวนยิ้มกล่าวขึ้น “แม้แต่ไม้ตายตอนที่พวกเจ้าสมบูรณ์ดียังสังหารข้าไม่ได้ มันจะไม่น่าขำไปหน่อยหรือที่จะมาสังหารข้าตอนนี้? แต่ก็ดี เพราะข้าจะได้ลองพลังสายเลือดระดับโกลาหลกับพวกเจ้าด้วย!”

ในพายุหมอกเลือดนั้นเย่หยวนปลดปล่อยพลังออกมา!

แต่ครั้งนี้พลังสายเลือดของเขามันทำให้ทั้งห้วงมิติสั่นไหว!

สายเลือดระดับโกลาหลนั้นมันรุนแรงล้ำ ไหนจะยังเรื่องที่ว่านี่มันมีถึงสี่สายเลือดด้วยกัน หากวัดกันด้วยพลังแล้วมันคงไม่ได้ด้อยไปกว่าศิลาโลหิตโกลาหลเลย

สิ่งที่เย่หยวนยังไม่มีนั้นมันก็แค่ระดับความเข้าใจ!

แต่รับมือพวกฉือชางทั้งสามนั้นมันยังมากเกินพอ!

พลังสายเลือดทั้งสี่นั้นค่อยๆ ไหลไปรวมกันที่หมัดของเย่หยวน

เย่หยวนต่อยหมัดสวนคนทั้งสามออกไปพร้อมด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่รุนแรงกว่าก่อนหน้าหลายเท่าตัว!

ฉือชางนั้นสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอย่างที่ไม่อาจจะหายใจได้ตั้งแต่หมัดนั้นยังมาไม่ถึง

“สี่สายเลือด…สู่เทพเซียน!”

หมัดนี้เล็งเป้าที่เหมิงจิน

เหมิงจินนั้นรู้สึกเหมือนโลกจะแตกสลายลงต่อหน้าหมัดนี้!

ไม้ตายที่เขาใช้ออกมานั้นมันอ่อนแอไร้พลังใดๆ ต่อหน้าหมัดของเย่หยวน

ตูม!

เสียงระเบิดดังขึ้น

ร่างของเหมิงจินนั้นหายไปจากจุดที่ยืนอยู่ทันที

เขานั้นถูกพลังศักดิ์สิทธิ์นี้เป่าจนไม่เหลือไม่แต่ซาก!

ส่วนฉือชางและเยียวเลอนั้นเองก็ถูกแรงกระแทกส่งร่างปลิวออกไปไกล

ไม้ตายใดๆ ของพวกเขามันช่างไร้พลัง!

ฉือชางและเยียวเลอนั้นมองดูหน้าเย่หยวนพร้อมๆ กันด้วยความหวาดกลัว

พลังนี้มันจะไม่รุนแรงเกินไปหรือ?

หากหมัดนี้ถูกต่อยออกมาโดยเจ้าโลกนั้นพวกเขาจะยังพอรับได้

แต่เย่หยวนนั้นเป็นแค่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์!

สายเลือดระดับโกลาหลนั้นน่ากลัวยิ่งนัก!

สังหารเจ้าโลกลงด้วยหมัดเดียวนั้นมันย่อมจะเป็นสิ่งที่แม้แต่เจ้าโลกทั่วๆ ไปยังทำไม่ได้!

เพราะเจ้าโลกเผ่าเลือดนั้นขึ้นชื่อเรื่องความถึกทน

พวกเขานั้นมีพลังชีวิตที่เหนือล้ำกว่าเผ่าเลือดระดับมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไปสิ้นเชิง!

คิดอยากจะสังหารเจ้าโลกเผ่าเลือดลงนั้นมันย่อมจะเป็นเรื่องที่แทบไม่มีทางทำได้

แต่เย่หยวนกลับทำได้!

วินาทีนี้คนทั้งสองไม่กล้าจะเข้ามาใกล้เย่หยวนอีกต่อไป

แต่พวกเขาก็ไม่อาจจะหนีออกไปจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆาได้เช่นกัน!

มันเป็นสภาพที่น่าอึดอัดนัก

เมื่อเย่หยวนบรรลุขึ้นนำไปเสร็จสิ้นแล้ว เขาคงสามารถสังหารพวกเขาลงอย่างไม่ต้องขยับมือด้วยซ้ำ

มันเหมือนพวกเขานั้นกำลังนั่งรอเพชฌฆาตมาตัดหัว

มันมีแต่ความสิ้นหวังในหัวใจ

เย่หยวนนั้นยกมือขึ้นมามองดูอย่างพึงพอใจ

ความรุนแรงของพลังศักดิ์สิทธิ์นั้นมันเหนือล้ำกว่าคลื่นกำเนิดใดๆ

เพราะนี่มันคือพลังที่มาจากหลังประตูแห่งชีวานิรันดร์อันลึกลับนั้น

ไม่มีใครรู้ได้ว่ามันคืออะไร

แต่มันทรงพลัง

ที่เย่หยวนข้ามอาณาจักรต่อสู้ได้ก็เพราะว่าพลังนี้

หลังจากบรรลุสายเลือดระดับโกลาหลแล้วเย่หยวนก็สามารถสัมผัสได้เลยว่าสายเลือดทั้งสี่นั้นมันเปลี่ยนแปลงไปจากก่อนหน้าสิ้นเชิง

ต่อให้มันจะเป็นแค่สายเลือดเดียวในตอนนี้ก็ทรงพลังกว่าการผสานก่อนหน้าสิ้นเชิง

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเผ่าภูตแท้นั้นถึงได้เป็นใหญ่ในสามสิบสามสวรรค์

เพราะหากไม่มีคนอย่างหวูเทียน หลุนฮวยหรือศิลาโลหิตโกลาหลนั้นแล้ว หมี่เทียนก็คงสามารถจะขึ้นเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสวรรค์ได้

“หลังจากข้าบรรลุไปแล้วข้าคงมีพลังพอสู้กับเจ้าโลกระดับสูงได้?” เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม

พายุหมอกเลือดนั้นมันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้มหาค่ายกลโลหิตเมฆาเริ่มสั่นสะเทือน

ฉือชางและเยียวเลอนั้นหันมามองหน้ากันอย่างสิ้นหวังสุดหัวใจ

หนึ่งวันจากนั้นพายุหมอกเลือดมันก็ค่อยๆ จางหายไปปรากฏร่างของเย่หยวนออกมาอีกครั้ง

ตอนนี้เขาได้บรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นปลายแล้ว อยู่ห่างจากมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นสุดเพียงแค่น้อยนิด!

เมื่อเขาบรรลุไปถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นสุดได้เย่หยวนก็คงสามารถจะระเบิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ออกได้และจะได้สัมผัสถึงพลังของเจ้าโลกเป็นครั้งแรก!

ได้เห็นเย่หยวนค่อยๆ เดินเข้ามาหานั้นฉือชางและเยียวเลอต่างต้องล้มตัวลงกับพื้น

“ต่อ…ต่อให้เจ้าจะสังหารพวกเราได้เจ้าก็ไม่มีทางออกไปจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆาได้หรอก! เมื่อครบเวลาเจ็ดวันตอนนั้นต่อให้เจ้าออกไปได้ท่านอี้เฉียคงนำกองทัพมารอเจ้าอยู่ก่อนแล้วแน่!” ฉือชางขู่ขึ้นมาด้วยจิตใจที่สั่นกลัว

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เรอะ? เช่นนั้นข้าจะออกไปให้พวกเจ้าดูก่อนแล้วค่อยสังหารพวกเจ้าดีหรือไม่?”

พูดจบเย่หยวนก็ต่อยหมัดออกมาด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์!

ตูม!

คลื่นพลังงานรุนแรงปะทุดังขึ้นพร้อมเสียงระเบิดทำให้เกิดช่องว่างขึ้นในค่ายกลด้วยหมัดเดียวนี้!

พวกฉือชางได้แต่ต้องเบิกตากว้างร้องขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ “มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน?”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3093 พลังสายเลือดระดับโกลาหล!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3093 พลังสายเลือดระดับโกลาหล! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตูม!

เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วทั้งมิติของหมอกเลือดนี้

จุดที่เย่หยวนเคยยืนอยู่นั้นมันหายไปไม่เหลือแม้แต่เศษดิน

คลื่นพลังสายเลือดทั้งสี่เองก็จางหายไปภายใต้พลังการโจมตีของคนทั้งสามนั้น

ฉือชางได้แต่ต้องถอนหายใจยาวออกมา “ข้าไม่นึกเลยว่าการสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่งกลับต้องให้ข้าได้ใช้เทพโลหิตพิโรธออกมา! เท่านี้หากไม่ได้พักรักษาตัวสักพันปีข้าก็คงไม่อาจจะฟื้นกลับไปยืนอยู่ในจุดเดิมได้!”

ส่วนพวกเยียวเลอและเหมิงจินนั้นเองก็มีคลื่นพลังเบาบางลงอย่างมาก อ่อนแอกว่าก่อนหน้าอย่างไม่อาจเทียบ

การโจมตีสุดท้ายนี้มันกินพลังพวกเขาไปอย่างมากเช่นกัน

“โชคยังดีที่งานครั้งนี้ถือว่าสำเร็จไปได้แล้ว! เผ่าเลือดของเรานั้นสามารถกำจัดหายนะที่พร้อมจะแทงทิ่มพวกเราได้เสียที!” เหมิงจินถอนหายใจยาวกล่าวออกมา

ก่อนหน้านี้พวกเขาย่อมจะไม่คิดยอมรับว่ามหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ตัวน้อยคนหนึ่งจะเป็นหายนะให้แก่เผ่าเลือดได้ต่อให้จะเป็นยอดอัจฉริยะที่ถูกตราหน้าว่าเป็นสัตว์ประหลาดแค่ไหนก็ตาม

แต่ตอนนี้พวกเขานั้นได้แต่ต้องชื่นชมความรอบคอบของบรรพบุรุษและอี้เฉียนั้น

ฉือชางนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางระแวง “เหมิงจิน เจ้าเข้าไปตรวจดูหน่อย!”

เหมิงจินพยักหน้ารับก่อนจะเดินผ่านม่านหมอกเลือดไป

แต่ในเวลานั้นเองที่มันเกิดเรื่องผิดปกติขึ้น

เพราะหมอกเลือดนั้นมันกลับค่อยๆ หมุนวนจนกลายเป็นเหมือนพายุ

จากนั้นพายุหมุนมันก็ค่อยๆ ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ

พริบตาเดียวนั้นพายุหมุนหมอกเลือดมันก็ทำให้ทั้งมหาค่ายกลโลหิตเมฆาเข้าสู่ความปั่นป่วน

เวลานี้แสงสีแดงเลือดมากมายมันถูกกลืนเข้าไปในพายุนั้น

ฉือชางนั้นต้องเบิกตากว้างร้องขึ้น “นี่มัน…เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นอีก?”

เยียวเลอได้แต่ต้องร้องลั่นขึ้นอย่างตกตะลึง “พลังของมหาค่ายกลโลหิตเมฆานั้นมันกำลังถูกดึงออกไป! หรือว่าเจ้าเด็กนั่นจะยังไม่ตาย?”

พูดยังไม่ทันขาดคำนั้นมันก็ปรากฏเงาร่างหนึ่งเดินออกมาจากตาพายุ และมันจะเป็นใครไปได้นอกจากเย่หยวน?

มิใช่เพียงแค่ว่าเย่หยวนจะยังไม่ตาย แต่ตอนนี้พลังของเขามันกลับกำลังพุ่งทะยานขึ้นอย่างไม่มีท่าทีจะหยุดลง!

ฉือชางนั้นต้องอ้าปากค้างร้องลั่นขึ้น “นี่…นี่มันกำลังจะบรรลุหรือ? มันกำลังกลืนกินพลังงานของมหาค่ายกลโลหิตเมฆา? บ…บ้าเรอะ?”

พลังงานเลือดนั้นมันไม่มีทางถูกเผ่าอื่นเอาไปใช้งานได้

เพราะหากคนเผ่าอื่นคิดดูดกลืนพลังงานเลือดเข้าไปแล้วมันมีแต่จะทำให้รากฐานการบ่มเพาะของพวกเขาเสียหายถูกกัดกร่อนและนอกจากจะบรรลุไม่ได้แล้ว พวกเขายังจะไม่อาจบ่มเพาะได้อีกต่อไปด้วย

แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับกำลังกลืนกินพลังงานเลือดไปหน้าตาเฉย!

ภายในพายุใหญ่นั้นเย่หยวนยิ้มกล่าวขึ้นมา “เต๋าแห่งเลือดนั้นคือยอดเต๋า มันมิใช่สิ่งที่พิเศษเฉพาะเผ่าเลือดพวกเจ้าเสียหน่อย! สายเลือดทั้งสี่ของข้านั้นเพิ่งบรรลุระดับโกลาหลมาได้กำลังต้องการพลังงานเลือดหล่อเลี้ยงพอดี ขอบคุณพวกเจ้ามาก! อี้เฉียมันคิดวางแผนสังหารข้า คงคิดไม่ถึงสิว่าแผนของมันกลับจะกลายเป็นของขวัญให้ข้าเช่นนี้?”

พวกฉือชางทั้งสามนั้นใจหายวาบไปทันทีที่ได้ยิน

เพราะเจ้าบ้านี่กำลังใช้เลือดที่พวกเขาเก็บมาอย่างยากลำบากนั้นบ่มเพาะเพิ่มพลังให้ตัวเอง!

ตอนนี้เงาร่างของสี่ภูตแท้อันน้อยกำลังหมุนวนอยู่ตรงหน้าเย่หยวนอย่างไม่มีหยุด กลืนพลังงานเลือดเข้าไปอย่างหิวโหย

พลังงานเลือดที่ถูกดูดกลืนเข้ามานั้นมันถูกส่งต่อไปยังร่างทั้งสี่นั้นโดยตรง!

และพร้อมๆ กันนั้นคลื่นพลังของเย่หยวนก็พุ่งทะยานขึ้น

“เราจะให้มันบรรลุไม่ได้! สังหารมัน!”

ฉือชางนั้นรู้ดีว่าเรื่องนี้คงไม่ดีแล้วจึงคิดใช้เทพโลหิตพิโรธออกมาอีกครั้งทันที!

แม้ว่าเยียวเลอและเหมิงจินนั้นจะอ่อนแรงไปมากแต่พวกเขาก็ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนั้นแล้วเช่นกัน พลังคลื่นกำเนิดปะทุขึ้นมาจากร่างของพวกเขาและพุ่งตัวเข้าใส่เย่หยวนอย่างไม่คิดชีวิต

เว้นเสียแต่ว่าพลังนี้มันอ่อนแอกว่าการโจมตีผสานก่อนหน้ามากมายนัก

เย่หยวนยิ้มกล่าวขึ้น “แม้แต่ไม้ตายตอนที่พวกเจ้าสมบูรณ์ดียังสังหารข้าไม่ได้ มันจะไม่น่าขำไปหน่อยหรือที่จะมาสังหารข้าตอนนี้? แต่ก็ดี เพราะข้าจะได้ลองพลังสายเลือดระดับโกลาหลกับพวกเจ้าด้วย!”

ในพายุหมอกเลือดนั้นเย่หยวนปลดปล่อยพลังออกมา!

แต่ครั้งนี้พลังสายเลือดของเขามันทำให้ทั้งห้วงมิติสั่นไหว!

สายเลือดระดับโกลาหลนั้นมันรุนแรงล้ำ ไหนจะยังเรื่องที่ว่านี่มันมีถึงสี่สายเลือดด้วยกัน หากวัดกันด้วยพลังแล้วมันคงไม่ได้ด้อยไปกว่าศิลาโลหิตโกลาหลเลย

สิ่งที่เย่หยวนยังไม่มีนั้นมันก็แค่ระดับความเข้าใจ!

แต่รับมือพวกฉือชางทั้งสามนั้นมันยังมากเกินพอ!

พลังสายเลือดทั้งสี่นั้นค่อยๆ ไหลไปรวมกันที่หมัดของเย่หยวน

เย่หยวนต่อยหมัดสวนคนทั้งสามออกไปพร้อมด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่รุนแรงกว่าก่อนหน้าหลายเท่าตัว!

ฉือชางนั้นสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอย่างที่ไม่อาจจะหายใจได้ตั้งแต่หมัดนั้นยังมาไม่ถึง

“สี่สายเลือด…สู่เทพเซียน!”

หมัดนี้เล็งเป้าที่เหมิงจิน

เหมิงจินนั้นรู้สึกเหมือนโลกจะแตกสลายลงต่อหน้าหมัดนี้!

ไม้ตายที่เขาใช้ออกมานั้นมันอ่อนแอไร้พลังใดๆ ต่อหน้าหมัดของเย่หยวน

ตูม!

เสียงระเบิดดังขึ้น

ร่างของเหมิงจินนั้นหายไปจากจุดที่ยืนอยู่ทันที

เขานั้นถูกพลังศักดิ์สิทธิ์นี้เป่าจนไม่เหลือไม่แต่ซาก!

ส่วนฉือชางและเยียวเลอนั้นเองก็ถูกแรงกระแทกส่งร่างปลิวออกไปไกล

ไม้ตายใดๆ ของพวกเขามันช่างไร้พลัง!

ฉือชางและเยียวเลอนั้นมองดูหน้าเย่หยวนพร้อมๆ กันด้วยความหวาดกลัว

พลังนี้มันจะไม่รุนแรงเกินไปหรือ?

หากหมัดนี้ถูกต่อยออกมาโดยเจ้าโลกนั้นพวกเขาจะยังพอรับได้

แต่เย่หยวนนั้นเป็นแค่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์!

สายเลือดระดับโกลาหลนั้นน่ากลัวยิ่งนัก!

สังหารเจ้าโลกลงด้วยหมัดเดียวนั้นมันย่อมจะเป็นสิ่งที่แม้แต่เจ้าโลกทั่วๆ ไปยังทำไม่ได้!

เพราะเจ้าโลกเผ่าเลือดนั้นขึ้นชื่อเรื่องความถึกทน

พวกเขานั้นมีพลังชีวิตที่เหนือล้ำกว่าเผ่าเลือดระดับมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไปสิ้นเชิง!

คิดอยากจะสังหารเจ้าโลกเผ่าเลือดลงนั้นมันย่อมจะเป็นเรื่องที่แทบไม่มีทางทำได้

แต่เย่หยวนกลับทำได้!

วินาทีนี้คนทั้งสองไม่กล้าจะเข้ามาใกล้เย่หยวนอีกต่อไป

แต่พวกเขาก็ไม่อาจจะหนีออกไปจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆาได้เช่นกัน!

มันเป็นสภาพที่น่าอึดอัดนัก

เมื่อเย่หยวนบรรลุขึ้นนำไปเสร็จสิ้นแล้ว เขาคงสามารถสังหารพวกเขาลงอย่างไม่ต้องขยับมือด้วยซ้ำ

มันเหมือนพวกเขานั้นกำลังนั่งรอเพชฌฆาตมาตัดหัว

มันมีแต่ความสิ้นหวังในหัวใจ

เย่หยวนนั้นยกมือขึ้นมามองดูอย่างพึงพอใจ

ความรุนแรงของพลังศักดิ์สิทธิ์นั้นมันเหนือล้ำกว่าคลื่นกำเนิดใดๆ

เพราะนี่มันคือพลังที่มาจากหลังประตูแห่งชีวานิรันดร์อันลึกลับนั้น

ไม่มีใครรู้ได้ว่ามันคืออะไร

แต่มันทรงพลัง

ที่เย่หยวนข้ามอาณาจักรต่อสู้ได้ก็เพราะว่าพลังนี้

หลังจากบรรลุสายเลือดระดับโกลาหลแล้วเย่หยวนก็สามารถสัมผัสได้เลยว่าสายเลือดทั้งสี่นั้นมันเปลี่ยนแปลงไปจากก่อนหน้าสิ้นเชิง

ต่อให้มันจะเป็นแค่สายเลือดเดียวในตอนนี้ก็ทรงพลังกว่าการผสานก่อนหน้าสิ้นเชิง

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเผ่าภูตแท้นั้นถึงได้เป็นใหญ่ในสามสิบสามสวรรค์

เพราะหากไม่มีคนอย่างหวูเทียน หลุนฮวยหรือศิลาโลหิตโกลาหลนั้นแล้ว หมี่เทียนก็คงสามารถจะขึ้นเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสวรรค์ได้

“หลังจากข้าบรรลุไปแล้วข้าคงมีพลังพอสู้กับเจ้าโลกระดับสูงได้?” เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม

พายุหมอกเลือดนั้นมันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้มหาค่ายกลโลหิตเมฆาเริ่มสั่นสะเทือน

ฉือชางและเยียวเลอนั้นหันมามองหน้ากันอย่างสิ้นหวังสุดหัวใจ

หนึ่งวันจากนั้นพายุหมอกเลือดมันก็ค่อยๆ จางหายไปปรากฏร่างของเย่หยวนออกมาอีกครั้ง

ตอนนี้เขาได้บรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นปลายแล้ว อยู่ห่างจากมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นสุดเพียงแค่น้อยนิด!

เมื่อเขาบรรลุไปถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นสุดได้เย่หยวนก็คงสามารถจะระเบิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ออกได้และจะได้สัมผัสถึงพลังของเจ้าโลกเป็นครั้งแรก!

ได้เห็นเย่หยวนค่อยๆ เดินเข้ามาหานั้นฉือชางและเยียวเลอต่างต้องล้มตัวลงกับพื้น

“ต่อ…ต่อให้เจ้าจะสังหารพวกเราได้เจ้าก็ไม่มีทางออกไปจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆาได้หรอก! เมื่อครบเวลาเจ็ดวันตอนนั้นต่อให้เจ้าออกไปได้ท่านอี้เฉียคงนำกองทัพมารอเจ้าอยู่ก่อนแล้วแน่!” ฉือชางขู่ขึ้นมาด้วยจิตใจที่สั่นกลัว

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เรอะ? เช่นนั้นข้าจะออกไปให้พวกเจ้าดูก่อนแล้วค่อยสังหารพวกเจ้าดีหรือไม่?”

พูดจบเย่หยวนก็ต่อยหมัดออกมาด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์!

ตูม!

คลื่นพลังงานรุนแรงปะทุดังขึ้นพร้อมเสียงระเบิดทำให้เกิดช่องว่างขึ้นในค่ายกลด้วยหมัดเดียวนี้!

พวกฉือชางได้แต่ต้องเบิกตากว้างร้องขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ “มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน?”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3093 พลังสายเลือดระดับโกลาหล!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3093 พลังสายเลือดระดับโกลาหล! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตูม!

เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วทั้งมิติของหมอกเลือดนี้

จุดที่เย่หยวนเคยยืนอยู่นั้นมันหายไปไม่เหลือแม้แต่เศษดิน

คลื่นพลังสายเลือดทั้งสี่เองก็จางหายไปภายใต้พลังการโจมตีของคนทั้งสามนั้น

ฉือชางได้แต่ต้องถอนหายใจยาวออกมา “ข้าไม่นึกเลยว่าการสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่งกลับต้องให้ข้าได้ใช้เทพโลหิตพิโรธออกมา! เท่านี้หากไม่ได้พักรักษาตัวสักพันปีข้าก็คงไม่อาจจะฟื้นกลับไปยืนอยู่ในจุดเดิมได้!”

ส่วนพวกเยียวเลอและเหมิงจินนั้นเองก็มีคลื่นพลังเบาบางลงอย่างมาก อ่อนแอกว่าก่อนหน้าอย่างไม่อาจเทียบ

การโจมตีสุดท้ายนี้มันกินพลังพวกเขาไปอย่างมากเช่นกัน

“โชคยังดีที่งานครั้งนี้ถือว่าสำเร็จไปได้แล้ว! เผ่าเลือดของเรานั้นสามารถกำจัดหายนะที่พร้อมจะแทงทิ่มพวกเราได้เสียที!” เหมิงจินถอนหายใจยาวกล่าวออกมา

ก่อนหน้านี้พวกเขาย่อมจะไม่คิดยอมรับว่ามหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ตัวน้อยคนหนึ่งจะเป็นหายนะให้แก่เผ่าเลือดได้ต่อให้จะเป็นยอดอัจฉริยะที่ถูกตราหน้าว่าเป็นสัตว์ประหลาดแค่ไหนก็ตาม

แต่ตอนนี้พวกเขานั้นได้แต่ต้องชื่นชมความรอบคอบของบรรพบุรุษและอี้เฉียนั้น

ฉือชางนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางระแวง “เหมิงจิน เจ้าเข้าไปตรวจดูหน่อย!”

เหมิงจินพยักหน้ารับก่อนจะเดินผ่านม่านหมอกเลือดไป

แต่ในเวลานั้นเองที่มันเกิดเรื่องผิดปกติขึ้น

เพราะหมอกเลือดนั้นมันกลับค่อยๆ หมุนวนจนกลายเป็นเหมือนพายุ

จากนั้นพายุหมุนมันก็ค่อยๆ ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ

พริบตาเดียวนั้นพายุหมุนหมอกเลือดมันก็ทำให้ทั้งมหาค่ายกลโลหิตเมฆาเข้าสู่ความปั่นป่วน

เวลานี้แสงสีแดงเลือดมากมายมันถูกกลืนเข้าไปในพายุนั้น

ฉือชางนั้นต้องเบิกตากว้างร้องขึ้น “นี่มัน…เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นอีก?”

เยียวเลอได้แต่ต้องร้องลั่นขึ้นอย่างตกตะลึง “พลังของมหาค่ายกลโลหิตเมฆานั้นมันกำลังถูกดึงออกไป! หรือว่าเจ้าเด็กนั่นจะยังไม่ตาย?”

พูดยังไม่ทันขาดคำนั้นมันก็ปรากฏเงาร่างหนึ่งเดินออกมาจากตาพายุ และมันจะเป็นใครไปได้นอกจากเย่หยวน?

มิใช่เพียงแค่ว่าเย่หยวนจะยังไม่ตาย แต่ตอนนี้พลังของเขามันกลับกำลังพุ่งทะยานขึ้นอย่างไม่มีท่าทีจะหยุดลง!

ฉือชางนั้นต้องอ้าปากค้างร้องลั่นขึ้น “นี่…นี่มันกำลังจะบรรลุหรือ? มันกำลังกลืนกินพลังงานของมหาค่ายกลโลหิตเมฆา? บ…บ้าเรอะ?”

พลังงานเลือดนั้นมันไม่มีทางถูกเผ่าอื่นเอาไปใช้งานได้

เพราะหากคนเผ่าอื่นคิดดูดกลืนพลังงานเลือดเข้าไปแล้วมันมีแต่จะทำให้รากฐานการบ่มเพาะของพวกเขาเสียหายถูกกัดกร่อนและนอกจากจะบรรลุไม่ได้แล้ว พวกเขายังจะไม่อาจบ่มเพาะได้อีกต่อไปด้วย

แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับกำลังกลืนกินพลังงานเลือดไปหน้าตาเฉย!

ภายในพายุใหญ่นั้นเย่หยวนยิ้มกล่าวขึ้นมา “เต๋าแห่งเลือดนั้นคือยอดเต๋า มันมิใช่สิ่งที่พิเศษเฉพาะเผ่าเลือดพวกเจ้าเสียหน่อย! สายเลือดทั้งสี่ของข้านั้นเพิ่งบรรลุระดับโกลาหลมาได้กำลังต้องการพลังงานเลือดหล่อเลี้ยงพอดี ขอบคุณพวกเจ้ามาก! อี้เฉียมันคิดวางแผนสังหารข้า คงคิดไม่ถึงสิว่าแผนของมันกลับจะกลายเป็นของขวัญให้ข้าเช่นนี้?”

พวกฉือชางทั้งสามนั้นใจหายวาบไปทันทีที่ได้ยิน

เพราะเจ้าบ้านี่กำลังใช้เลือดที่พวกเขาเก็บมาอย่างยากลำบากนั้นบ่มเพาะเพิ่มพลังให้ตัวเอง!

ตอนนี้เงาร่างของสี่ภูตแท้อันน้อยกำลังหมุนวนอยู่ตรงหน้าเย่หยวนอย่างไม่มีหยุด กลืนพลังงานเลือดเข้าไปอย่างหิวโหย

พลังงานเลือดที่ถูกดูดกลืนเข้ามานั้นมันถูกส่งต่อไปยังร่างทั้งสี่นั้นโดยตรง!

และพร้อมๆ กันนั้นคลื่นพลังของเย่หยวนก็พุ่งทะยานขึ้น

“เราจะให้มันบรรลุไม่ได้! สังหารมัน!”

ฉือชางนั้นรู้ดีว่าเรื่องนี้คงไม่ดีแล้วจึงคิดใช้เทพโลหิตพิโรธออกมาอีกครั้งทันที!

แม้ว่าเยียวเลอและเหมิงจินนั้นจะอ่อนแรงไปมากแต่พวกเขาก็ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนั้นแล้วเช่นกัน พลังคลื่นกำเนิดปะทุขึ้นมาจากร่างของพวกเขาและพุ่งตัวเข้าใส่เย่หยวนอย่างไม่คิดชีวิต

เว้นเสียแต่ว่าพลังนี้มันอ่อนแอกว่าการโจมตีผสานก่อนหน้ามากมายนัก

เย่หยวนยิ้มกล่าวขึ้น “แม้แต่ไม้ตายตอนที่พวกเจ้าสมบูรณ์ดียังสังหารข้าไม่ได้ มันจะไม่น่าขำไปหน่อยหรือที่จะมาสังหารข้าตอนนี้? แต่ก็ดี เพราะข้าจะได้ลองพลังสายเลือดระดับโกลาหลกับพวกเจ้าด้วย!”

ในพายุหมอกเลือดนั้นเย่หยวนปลดปล่อยพลังออกมา!

แต่ครั้งนี้พลังสายเลือดของเขามันทำให้ทั้งห้วงมิติสั่นไหว!

สายเลือดระดับโกลาหลนั้นมันรุนแรงล้ำ ไหนจะยังเรื่องที่ว่านี่มันมีถึงสี่สายเลือดด้วยกัน หากวัดกันด้วยพลังแล้วมันคงไม่ได้ด้อยไปกว่าศิลาโลหิตโกลาหลเลย

สิ่งที่เย่หยวนยังไม่มีนั้นมันก็แค่ระดับความเข้าใจ!

แต่รับมือพวกฉือชางทั้งสามนั้นมันยังมากเกินพอ!

พลังสายเลือดทั้งสี่นั้นค่อยๆ ไหลไปรวมกันที่หมัดของเย่หยวน

เย่หยวนต่อยหมัดสวนคนทั้งสามออกไปพร้อมด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่รุนแรงกว่าก่อนหน้าหลายเท่าตัว!

ฉือชางนั้นสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอย่างที่ไม่อาจจะหายใจได้ตั้งแต่หมัดนั้นยังมาไม่ถึง

“สี่สายเลือด…สู่เทพเซียน!”

หมัดนี้เล็งเป้าที่เหมิงจิน

เหมิงจินนั้นรู้สึกเหมือนโลกจะแตกสลายลงต่อหน้าหมัดนี้!

ไม้ตายที่เขาใช้ออกมานั้นมันอ่อนแอไร้พลังใดๆ ต่อหน้าหมัดของเย่หยวน

ตูม!

เสียงระเบิดดังขึ้น

ร่างของเหมิงจินนั้นหายไปจากจุดที่ยืนอยู่ทันที

เขานั้นถูกพลังศักดิ์สิทธิ์นี้เป่าจนไม่เหลือไม่แต่ซาก!

ส่วนฉือชางและเยียวเลอนั้นเองก็ถูกแรงกระแทกส่งร่างปลิวออกไปไกล

ไม้ตายใดๆ ของพวกเขามันช่างไร้พลัง!

ฉือชางและเยียวเลอนั้นมองดูหน้าเย่หยวนพร้อมๆ กันด้วยความหวาดกลัว

พลังนี้มันจะไม่รุนแรงเกินไปหรือ?

หากหมัดนี้ถูกต่อยออกมาโดยเจ้าโลกนั้นพวกเขาจะยังพอรับได้

แต่เย่หยวนนั้นเป็นแค่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์!

สายเลือดระดับโกลาหลนั้นน่ากลัวยิ่งนัก!

สังหารเจ้าโลกลงด้วยหมัดเดียวนั้นมันย่อมจะเป็นสิ่งที่แม้แต่เจ้าโลกทั่วๆ ไปยังทำไม่ได้!

เพราะเจ้าโลกเผ่าเลือดนั้นขึ้นชื่อเรื่องความถึกทน

พวกเขานั้นมีพลังชีวิตที่เหนือล้ำกว่าเผ่าเลือดระดับมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไปสิ้นเชิง!

คิดอยากจะสังหารเจ้าโลกเผ่าเลือดลงนั้นมันย่อมจะเป็นเรื่องที่แทบไม่มีทางทำได้

แต่เย่หยวนกลับทำได้!

วินาทีนี้คนทั้งสองไม่กล้าจะเข้ามาใกล้เย่หยวนอีกต่อไป

แต่พวกเขาก็ไม่อาจจะหนีออกไปจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆาได้เช่นกัน!

มันเป็นสภาพที่น่าอึดอัดนัก

เมื่อเย่หยวนบรรลุขึ้นนำไปเสร็จสิ้นแล้ว เขาคงสามารถสังหารพวกเขาลงอย่างไม่ต้องขยับมือด้วยซ้ำ

มันเหมือนพวกเขานั้นกำลังนั่งรอเพชฌฆาตมาตัดหัว

มันมีแต่ความสิ้นหวังในหัวใจ

เย่หยวนนั้นยกมือขึ้นมามองดูอย่างพึงพอใจ

ความรุนแรงของพลังศักดิ์สิทธิ์นั้นมันเหนือล้ำกว่าคลื่นกำเนิดใดๆ

เพราะนี่มันคือพลังที่มาจากหลังประตูแห่งชีวานิรันดร์อันลึกลับนั้น

ไม่มีใครรู้ได้ว่ามันคืออะไร

แต่มันทรงพลัง

ที่เย่หยวนข้ามอาณาจักรต่อสู้ได้ก็เพราะว่าพลังนี้

หลังจากบรรลุสายเลือดระดับโกลาหลแล้วเย่หยวนก็สามารถสัมผัสได้เลยว่าสายเลือดทั้งสี่นั้นมันเปลี่ยนแปลงไปจากก่อนหน้าสิ้นเชิง

ต่อให้มันจะเป็นแค่สายเลือดเดียวในตอนนี้ก็ทรงพลังกว่าการผสานก่อนหน้าสิ้นเชิง

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเผ่าภูตแท้นั้นถึงได้เป็นใหญ่ในสามสิบสามสวรรค์

เพราะหากไม่มีคนอย่างหวูเทียน หลุนฮวยหรือศิลาโลหิตโกลาหลนั้นแล้ว หมี่เทียนก็คงสามารถจะขึ้นเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสวรรค์ได้

“หลังจากข้าบรรลุไปแล้วข้าคงมีพลังพอสู้กับเจ้าโลกระดับสูงได้?” เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม

พายุหมอกเลือดนั้นมันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้มหาค่ายกลโลหิตเมฆาเริ่มสั่นสะเทือน

ฉือชางและเยียวเลอนั้นหันมามองหน้ากันอย่างสิ้นหวังสุดหัวใจ

หนึ่งวันจากนั้นพายุหมอกเลือดมันก็ค่อยๆ จางหายไปปรากฏร่างของเย่หยวนออกมาอีกครั้ง

ตอนนี้เขาได้บรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นปลายแล้ว อยู่ห่างจากมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นสุดเพียงแค่น้อยนิด!

เมื่อเขาบรรลุไปถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขั้นสุดได้เย่หยวนก็คงสามารถจะระเบิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ออกได้และจะได้สัมผัสถึงพลังของเจ้าโลกเป็นครั้งแรก!

ได้เห็นเย่หยวนค่อยๆ เดินเข้ามาหานั้นฉือชางและเยียวเลอต่างต้องล้มตัวลงกับพื้น

“ต่อ…ต่อให้เจ้าจะสังหารพวกเราได้เจ้าก็ไม่มีทางออกไปจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆาได้หรอก! เมื่อครบเวลาเจ็ดวันตอนนั้นต่อให้เจ้าออกไปได้ท่านอี้เฉียคงนำกองทัพมารอเจ้าอยู่ก่อนแล้วแน่!” ฉือชางขู่ขึ้นมาด้วยจิตใจที่สั่นกลัว

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เรอะ? เช่นนั้นข้าจะออกไปให้พวกเจ้าดูก่อนแล้วค่อยสังหารพวกเจ้าดีหรือไม่?”

พูดจบเย่หยวนก็ต่อยหมัดออกมาด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์!

ตูม!

คลื่นพลังงานรุนแรงปะทุดังขึ้นพร้อมเสียงระเบิดทำให้เกิดช่องว่างขึ้นในค่ายกลด้วยหมัดเดียวนี้!

พวกฉือชางได้แต่ต้องเบิกตากว้างร้องขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ “มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน?”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+