Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3106 นายน้อยผู้น่าทึ่ง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3106 นายน้อยผู้น่าทึ่ง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฟุบ!

ปราณดาบนั้นพุ่งขึ้นฟ้าก่อนจะตามมาด้วยเสียงระเบิดดังลั่น

ประตูแห่งชีวานิรันดร์บานหนึ่งมันเปิดออก พร้อมด้วยพลังงานรุนแรงมหาศาลที่ไหลเข้ามาสู่ร่างกายของโฉปู้ฉุน

พลังศักดิ์สิทธิ์ไหลออกมาราวสายน้ำทำให้คลื่นพลังจากร่างของโฉปู้ฉุนยิ่งใหญ่และทรงพลังขึ้นไปอีกนับเท่าตัว

เขานั้นลอยตัวอยู่กลางอากาศราวกับว่าเขานั้นคือสวรรค์

การกระทำของเขาทุกสิ่งอย่างในเวลานี้มันคือเต๋า!

นี่คือล้ำสวรรค์!

“โฉปู้ฉุนนั้นช่างเก่งกาจล้ำเลิศเสียจริงๆ! เขานั้นกลับเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ได้ด้วยเพียงดาบเดียว!”

“ดาบเดียวบรรลุสามอาณาจักรในตอนนั้นแล้วยังมาตอนนี้ที่ใช้ดาบเดียวเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์อีก! เจ้าโลก ปู้ฉุนนั้นช่างเหมือนดั่งเทพแท้ๆ!”

“หากมิใช่เพราะเกิดมาช้าไปหน่อยแล้วเจ้าโลกปู้ฉุนนั้นคงจะก้าวขึ้นไปถึงระดับของบรรพบุรุษเผ่าเลือดมันแน่ น่าเสียดายจริงๆ!”

โฉปู้ฉุนนั้นเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ได้ด้วยดาบเดียวบรรลุสู่อาณาจักรล้ำสวรรค์ไป

นั่นมันทำให้คนทั้งสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน

เพราะอาณาจักรล้ำสวรรค์นั้นมันเป็นตัวตนที่แสนๆ ปีจะเกิดขึ้นมาสักคนหรือไม่ยังไม่ทราบได้!

แม้ว่ายอดเจ้าโลกนั้นจะทำลายสามผนึกลงได้…ถึงจะมีกำลังแข็งแกร่งมหาศาลแต่การเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันย่อมจะยากกว่าสามผนึกใดๆ สิ้นเชิง!

ยอดฝีมือล้ำสวรรค์นั้นมันมีเพียงแค่หยิบมือบนสวรรค์นี้

สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นเดิมทีไม่มีแม้แต่ยอดเจ้าโลกสักคน ไม่ต้องถามเลยว่าพวกเขาเคยได้เห็นการถือกำเนิดของเจ้าโลกล้ำสวรรค์หรือไม่

สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดในตอนนี้มันมีเจ้าโลกอยู่ถึงหกคน แต่ว่าคนทั้งหกนั้นต่างเป็นคนเผ่าภูติแท้จากสวรรค์อื่นสิ้น

ด้วยโฉปู้ฉุนที่บรรลุขึ้นมานี้มันทำให้สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมีเจ้าโลกล้ำสวรรค์คนแรกในความเป็นจริงขึ้นมาได้ มันเป็นเรื่องใหญ่แก่จิตใจของคนทั้งหลายมากนัก

เมื่อประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นค่อยๆ จางหายไปร่างกายของโฉปู้ฉุนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลขึ้น

สภาพของเขาในตอนนี้มันเหมือนเป็นดาบใหญ่ที่ปักลงกลางฟ้าดินทำให้คนทั้งหลายที่ได้เห็นต้องขนลุกตั้งอย่างไม่อาจห้ามตัว

จากนั้นเขาก็พุ่งตัวเข้าไปหาเย่หยวนอีกครั้งหนึ่ง

“ข้าแพ้แล้ว!”

ไม่มีใครคิดว่าหลังจากโฉปู้ฉุนนั้นบรรลุล้ำสวรรค์มาได้แล้วคำแรกที่เขาพูดออกมากลับจะเป็นการยอมแพ้!

คนทั้งหลายที่ได้ยินนั้นต้องผงะไปเพราะว่าการต่อสู้เมื่อครู่นี้มันดูอย่างไรก็เป็นชัยชนะของโฉปู้ฉุนที่สามารถบรรลุอาณาจักรขึ้นมาได้อย่างยิ่งใหญ่

แต่ตอนนี้เขากลับมายอมแพ้หรือ?

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ท่านและข้านั้นต่างยังมีไม้ตายเก็บไว้มากมาย จะมาพูดเรื่องแพ้ชนะกันทำไม?”

โฉปู้ฉุนนั้นส่ายหัวตอบกลับไปด้วยใบหน้าจริงจัง “ดาบแห่งการปกป้องนั้นมันย่อมจะไม่มีทางเปล่งพลังสูงสุดออกมากับคนของตัวเองได้! แต่เมื่อสักครู่นี้ตอนที่เจ้าและข้านั้นต่อสู้กันอย่างสุดตัวโดยไม่ใช้ไม้ตายออกมานั้นข้าสัมผัสได้ถึงพลังของดาบแห่งการปกป้องอย่างชัดเจน! ครึ่งปีที่เข้าสลักเขานี้ เจ้าเป็นผู้ที่ได้บรรลุอย่างแท้จริง!”

เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องหัวเราะ “ในเมื่อท่านรู้อยู่แล้วว่าดาบแห่งการปกป้องของข้าจะไม่มีวันหันคมเข้าหาคนของตนแล้วท่านจะยังหาผู้ชนะไปเพื่ออะไร? ท่านนั้นคือท่าน ข้านั้นคือข้า เต๋าของเรามันแตกต่างกันก็เท่านั้น!”

โฉปู้ฉุนได้ยินเช่นนั้นก็ต้องผงะไปก่อนจะพยักหน้ารับออกมา “ก็จริง มันเป็นข้าเองที่ยึดติดกับความพ่ายแพ้ชัยชนะมากเกินไป เย่หยวน เจ้าจะเอาอย่างไรต่อ?”

เย่หยวนถอนหายใจยาวออกมาก่อนจะมองไปที่เส้นขอบฟ้า “บรรพบุรุษศิลาโลหิตมันนั้นฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วกว่าที่ข้าคิดนัก! ตอนนี้นอกจากว่ามันจะฟื้นคืนกำลังดั่งเดิมแล้วมันยังพัฒนาฝีมือของตัวเองไปได้มากกว่าเก่า ในอีกไม่ถึงสามปีนี้มันคงจุติขึ้นมาได้สมบูรณ์แน่! การต่อสู้ของสามบรรพบุรุษนั้นมันคงเป็นเขาที่จะชนะในที่สุด!”

เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องโห่ร้องแตกตื่นขึ้น

เพราะสามปีนั้นมันสั้นเกินไป!

สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดตอนนี้มันกำลังพัฒนาขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่ แต่มันก็ยังอยู่ในช่วงแห่งการพัฒนาเท่านั้น

พวกเขานั้นต้องการเวลา!

หมี่เทียนกล่าวขึ้น “ข้านั้นแลกหมัดกับมันเมื่อครู่และสัมผัสได้ว่าพลังของมันเกินกว่าที่คาดคิดไปมากนัก! หากบรรพบุรุษศิลาโลหิตมันจุติขึ้นมาได้จริงๆ แล้วแม้แต่ข้าเองก็คงไม่อาจจะต้านทานมันได้แม้แต่น้อย!”

คนทั้งหลายที่ได้ยินก็ต้องผงะไปด้วยใจสั่น เพราะแม้แต่หมี่เทียนนั้นยังยอมรับว่าตัวเองด้อยกว่านี่มันเท่ากับว่าพวกเขานั้นได้แต่ต้องนั่งรอความตายแล้ว!

ไม่ว่าจะมีเจ้าโลกล้ำสวรรค์มากมายขึ้นแค่ไหนมันก็เปล่าประโยชน์!

พริบตานี้ความสิ้นหวังมันก็ค่อยๆ กัดกินหัวใจผู้คนไป

ความยินดีแห่งชัยชนะใดๆ ก่อนหน้ามันหายไปสิ้น

เย่หยวนตอบกลับหมี่เทียนไป “ผู้อาวุโสหมี่เทียน พี่โฉพวกท่านพานักยุทธสายเลือดทั้งแปดร้อยคนและคนที่เหลือของเรานั้นไปช่วยกอบกู้สวรรค์อื่นๆ เถอะ ได้มากเท่าไหร่ยิ่งดีแต่จำไว้ว่าอย่าบุกลึกเกินไป แม้ว่าเรานั้นจะทรงพลังแต่เผ่าเลือดนั้นมันก็มียอดฝีมือซ่อนตัวอยู่ไม่น้อย! หากพวกมันร่วมมือกันวางแผนดักโจมตีเราแล้วแม้จะเป็นพวกเราเองก็คงรอดกลับมาได้ยาก!”

หมี่เทียนตอบกลับไป “แต่เฒ่าคนนี้สั่งการจ้าวเยว่มันไม่ได้!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “วางใจเถอะ ข้านั้นได้ศึกษามหาค่ายกลโลหิตเมฆาทำให้ได้ความรู้ใหม่มาและน่าจะพอฟื้นคืนสภาพของพวกเขากลับมาได้แล้ว”

หมี่เทียนนั้นเลิกคิ้วขึ้นสูงก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ได้เช่นนั้นก็เยี่ยม!”

โฉปู้ฉุนนั้นกล่าวขึ้นถามต่อ “แล้วตัวเจ้าเองเล่า?”

เย่หยวนตอบกลับไปด้วยหน้าเครียด “หลังจากข้ารักษาพวกเขาแล้วข้าจะขอเก็บตัวเตรียมบรรลุเจ้าโลก!”

หมี่เทียนที่ได้ยินก็ต้องกัดฟันถามไป “เจ้า…มั่นใจแค่ไหน?”

เย่หยวนส่ายหัวออกมา

โฉปู้ฉุนนั้นกล่าวขึ้นต่อ “เจ้านั้นคือความหวังสุดท้ายของเรา! ตราบเท่าที่เจ้าบรรลุเจ้าโลกได้นั้นเราคงพอต่อสู้กับบรรพบุรุษศิลาโลหิตมันได้! หากเจ้าตายลงแล้วทุกสิ่งอย่างก็คงจบกัน! เจ้านั้นต้องระวังเต๋าทุกข์ครั้งนี้ให้มาก!”

เย่หยวนตอบกลับไปอย่างหนักแน่น “เวลานั้นไม่คอยท่า! ข้านั้นมีเลือดต้นของบรรพบุรุษศิลาโลหิตมันและพอสัมผัสถึงพลังของมันได้บ้าง ตอนนี้มันแข็งแกร่งกว่าตอนที่อยู่ในวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตไปสิ้นเชิงแล้ว! หากมันจุติขึ้นมาได้จริงๆ มันคงมีพลังก้าวผ่านล้ำสวรรค์ไป! ถึงตอนนั้นแม้ว่าข้าจะบรรลุเจ้าโลกได้มันก็ยังไม่แน่หรอกว่าจะเอาชนะมันได้! เรานั้นได้แต่ต้องพยายามให้สุดตัว ทำได้เท่าไหร่ก็ทำเท่านั้น ที่เหลือมีแต่ต้องพึ่งโชคชะตาแล้ว!”

คนทั้งหลายที่ได้ยินนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่นขึ้นมามองดูหน้ากันอย่างตกลงใจ

สงครามเริ่มขึ้นอีกครั้งด้วยการนำของหมี่เทียนที่พากองทัพเคลื่อนออกจากสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด

ในแนวหน้าของกองกำลังนี้มันมียอดฝีมือล้ำสวรรค์อยู่ถึงแปดคนด้วยกัน มันช่างเป็นกองทัพที่ยิ่งใหญ่มากนัก!

คนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นคงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝันไป

ยอดฝีมือล้ำสวรรค์แปดนั้นมันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึงในอดีต

แต่เย่หยวนกลับสร้างกองทัพนี้ขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง!

“เจ้าเป็นอย่างไรบ้างจ้าวเยว่?” หมี่เทียนหันไปถามจ้าวเยว่

จ้าวเยว่ในตอนนี้มีร่างกายสูงใหญ่ของคนพร้อมด้วยสายตาที่เฉียบคมหนักแน่น ไม่มีรูปร่างของสัตว์ ประหลาดใดๆ อีก

บนโลกนี้มันไม่มีสิ่งใดที่ไม่อาจหลอมได้!

เย่หยวนนั้นปรับแก่นเลือดของเผ่าเลือดนั้นเข้ากับสมุนไพรสวรรค์โกลาหลที่ได้มาจากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตเพื่อหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นมารักษาจ้าวเยว่ได้ในที่สุด

ในตอนนี้เขานั้นกลับมามีสติสัมปชัญญะครบถ้วนและกลายเป็นแม่ทัพของนักยุทธสายเลือดทั้งแปดร้อยคนไป

นอกจากนั้นแล้วพลังของเขายังเหนือล้ำกว่าพวกหลงเจี้ยนทั้งหลายไปขั้นหนึ่ง

ขณะที่กำลังเรียกระดมกองทัพนั้นหมี่เทียนก็ได้เห็นสีหน้าของจ้าวเยว่ที่เปี่ยมล้นไปด้วยอารมณ์หลากหลายจึงอดถามขึ้นไม่ได้

“นายน้อยช่างเป็นคนที่น่าทึ่งนัก!” จ้าวเยว่

หมี่เทียนที่ได้ยินก็ต้องผงะไปเพราะไม่คิดว่าเขาจะตอบกลับมาเช่นนี้

เขานั้นรู้ดีว่าจ้าวเยว่นั้นเป็นแค่นักยุทธตัวน้อยคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้เขายังเป็นแค่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์

แต่ตอนนี้เมื่อได้สติกลับมาอีกครั้งเขากลับพบว่าตัวเองกลายเป็นยอดฝีมือล้ำสวรรค์ไป นอกจากนั้นยังกลายเป็นแม่ทัพที่นำกองทัพเจ้าโลกนับร้อยๆ หมี่เทียนคิดไปเสียว่าเขานั้นจะตื่นเต้นดีใจ

แต่จ้าวเยว่นั้นกลับรู้สึกเคารพเชิดชูเย่หยวนอย่างมากแทน

หลังจากใช้เวลาหลายเดือนในการช่วยรักษาจ้าวเยว่และพวกนั้นเย่หยวนก็ปลีกตัวออกไปเก็บตัวในที่สุด

พวกเขารู้ดีว่าเย่หยวนนั้นกำลังเตรียมตัวเผชิญหน้ากับความตาย!

วันใดที่เขาออกมาจากการเก็บตัวนั้นมันจะเป็นวันที่เขาเรียกเต๋าทุกข์!

เมื่อถึงเวลานั้นฟ้าดินคงได้เปลี่ยนสีแน่!

“หือ เจ้าหมายความว่าอย่างไรหรือ?” หมี่เทียนยิ้มถามขึ้นต่อ

จ้าวเยว่ตอบกลับไปอย่างไม่ลังเล “ภาพตรงหน้านี้มันเกิดขึ้นมาได้เพราะนายน้อยสิ้น! ก่อนนั้นตอนที่วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตไล่โจมตีสวรรค์ทั้งหลายมันก็คงไม่ได้ยิ่งใหญ่ไปกว่านี้แน่! แต่ว่ายอดฝีมือของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้นมันเป็นยอดอัจฉริยะที่เก็บเกี่ยวมานานแสนนาน แต่พวกเรานั้นเป็นแค่ขยะไม่มีอะไรดี! นายน้อยนั้นกลับเปลี่ยนขยะอย่างพวกเราให้กลายเป็นของวิเศษ กลายเป็นยอดฝีมือล้ำหน้าใครๆ! หากไม่มีนายน้อยแล้วข้าว่ามันก็คงไม่มีพวกเรา ยอดฝีมือล้ำสวรรค์ทั้งแปดนี้เช่นกัน ไม่ต้องไปพูดถึงเจ้าโลกที่อยู่ด้านหลังเราเลย! เพราะฉะนั้นข้าจึงได้แต่รู้สึกซาบซึ้งในคุณของนายน้อยอย่างมากล้นนัก!”

หมี่เทียนนั้นได้แต่ต้องพยักหน้ารับตาม!

เพราะแม้ว่าเขานั้นจะเป็นยอดฝีมือล้ำสวรรค์คนหนึ่งอยู่แล้วแต่หากไม่ได้เย่หยวนช่วยพากลับไปคืนชีพที่คงคา นิรันดร์ ตอนนี้อย่าว่าแต่ล้ำสวรรค์ แม้แต่ร่างกายเขาก็ไม่มีมันเสียด้วยซ้ำไป

แน่นอนว่าหากไม่ได้เย่หยวนพวกหลงเจี้ยนเองก็คงไม่มีทางจะบรรลุล้ำสวรรค์มาได้เช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นโฉปู้ฉุน จ้าวเยว่ หมี่เจิ้นหรือคนอื่นใดในแปดยอดฝีมือล้ำสวรรค์นี้พวกเขาต่างก็ได้เย่หยวนช่วยเหลือไว้ทั้งสิ้น!

นี่มันน่าทึ่งจนน่ากลัว!

จะบอกว่ากองทัพเจ้าโลกอันยิ่งใหญ่ในวันนี้มันถูกสร้างขึ้นมาจากน้ำมือของเย่หยวนอย่างสิ้นเชิงก็ว่าได้!

หมี่เทียนต้องสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าวขึ้นตาม “ใช่ เจ้าเด็กคนนี้มันน่าทึ่งจริงๆ!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3106 นายน้อยผู้น่าทึ่ง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3106 นายน้อยผู้น่าทึ่ง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฟุบ!

ปราณดาบนั้นพุ่งขึ้นฟ้าก่อนจะตามมาด้วยเสียงระเบิดดังลั่น

ประตูแห่งชีวานิรันดร์บานหนึ่งมันเปิดออก พร้อมด้วยพลังงานรุนแรงมหาศาลที่ไหลเข้ามาสู่ร่างกายของโฉปู้ฉุน

พลังศักดิ์สิทธิ์ไหลออกมาราวสายน้ำทำให้คลื่นพลังจากร่างของโฉปู้ฉุนยิ่งใหญ่และทรงพลังขึ้นไปอีกนับเท่าตัว

เขานั้นลอยตัวอยู่กลางอากาศราวกับว่าเขานั้นคือสวรรค์

การกระทำของเขาทุกสิ่งอย่างในเวลานี้มันคือเต๋า!

นี่คือล้ำสวรรค์!

“โฉปู้ฉุนนั้นช่างเก่งกาจล้ำเลิศเสียจริงๆ! เขานั้นกลับเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ได้ด้วยเพียงดาบเดียว!”

“ดาบเดียวบรรลุสามอาณาจักรในตอนนั้นแล้วยังมาตอนนี้ที่ใช้ดาบเดียวเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์อีก! เจ้าโลก ปู้ฉุนนั้นช่างเหมือนดั่งเทพแท้ๆ!”

“หากมิใช่เพราะเกิดมาช้าไปหน่อยแล้วเจ้าโลกปู้ฉุนนั้นคงจะก้าวขึ้นไปถึงระดับของบรรพบุรุษเผ่าเลือดมันแน่ น่าเสียดายจริงๆ!”

โฉปู้ฉุนนั้นเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ได้ด้วยดาบเดียวบรรลุสู่อาณาจักรล้ำสวรรค์ไป

นั่นมันทำให้คนทั้งสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน

เพราะอาณาจักรล้ำสวรรค์นั้นมันเป็นตัวตนที่แสนๆ ปีจะเกิดขึ้นมาสักคนหรือไม่ยังไม่ทราบได้!

แม้ว่ายอดเจ้าโลกนั้นจะทำลายสามผนึกลงได้…ถึงจะมีกำลังแข็งแกร่งมหาศาลแต่การเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันย่อมจะยากกว่าสามผนึกใดๆ สิ้นเชิง!

ยอดฝีมือล้ำสวรรค์นั้นมันมีเพียงแค่หยิบมือบนสวรรค์นี้

สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นเดิมทีไม่มีแม้แต่ยอดเจ้าโลกสักคน ไม่ต้องถามเลยว่าพวกเขาเคยได้เห็นการถือกำเนิดของเจ้าโลกล้ำสวรรค์หรือไม่

สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดในตอนนี้มันมีเจ้าโลกอยู่ถึงหกคน แต่ว่าคนทั้งหกนั้นต่างเป็นคนเผ่าภูติแท้จากสวรรค์อื่นสิ้น

ด้วยโฉปู้ฉุนที่บรรลุขึ้นมานี้มันทำให้สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมีเจ้าโลกล้ำสวรรค์คนแรกในความเป็นจริงขึ้นมาได้ มันเป็นเรื่องใหญ่แก่จิตใจของคนทั้งหลายมากนัก

เมื่อประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นค่อยๆ จางหายไปร่างกายของโฉปู้ฉุนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลขึ้น

สภาพของเขาในตอนนี้มันเหมือนเป็นดาบใหญ่ที่ปักลงกลางฟ้าดินทำให้คนทั้งหลายที่ได้เห็นต้องขนลุกตั้งอย่างไม่อาจห้ามตัว

จากนั้นเขาก็พุ่งตัวเข้าไปหาเย่หยวนอีกครั้งหนึ่ง

“ข้าแพ้แล้ว!”

ไม่มีใครคิดว่าหลังจากโฉปู้ฉุนนั้นบรรลุล้ำสวรรค์มาได้แล้วคำแรกที่เขาพูดออกมากลับจะเป็นการยอมแพ้!

คนทั้งหลายที่ได้ยินนั้นต้องผงะไปเพราะว่าการต่อสู้เมื่อครู่นี้มันดูอย่างไรก็เป็นชัยชนะของโฉปู้ฉุนที่สามารถบรรลุอาณาจักรขึ้นมาได้อย่างยิ่งใหญ่

แต่ตอนนี้เขากลับมายอมแพ้หรือ?

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ท่านและข้านั้นต่างยังมีไม้ตายเก็บไว้มากมาย จะมาพูดเรื่องแพ้ชนะกันทำไม?”

โฉปู้ฉุนนั้นส่ายหัวตอบกลับไปด้วยใบหน้าจริงจัง “ดาบแห่งการปกป้องนั้นมันย่อมจะไม่มีทางเปล่งพลังสูงสุดออกมากับคนของตัวเองได้! แต่เมื่อสักครู่นี้ตอนที่เจ้าและข้านั้นต่อสู้กันอย่างสุดตัวโดยไม่ใช้ไม้ตายออกมานั้นข้าสัมผัสได้ถึงพลังของดาบแห่งการปกป้องอย่างชัดเจน! ครึ่งปีที่เข้าสลักเขานี้ เจ้าเป็นผู้ที่ได้บรรลุอย่างแท้จริง!”

เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องหัวเราะ “ในเมื่อท่านรู้อยู่แล้วว่าดาบแห่งการปกป้องของข้าจะไม่มีวันหันคมเข้าหาคนของตนแล้วท่านจะยังหาผู้ชนะไปเพื่ออะไร? ท่านนั้นคือท่าน ข้านั้นคือข้า เต๋าของเรามันแตกต่างกันก็เท่านั้น!”

โฉปู้ฉุนได้ยินเช่นนั้นก็ต้องผงะไปก่อนจะพยักหน้ารับออกมา “ก็จริง มันเป็นข้าเองที่ยึดติดกับความพ่ายแพ้ชัยชนะมากเกินไป เย่หยวน เจ้าจะเอาอย่างไรต่อ?”

เย่หยวนถอนหายใจยาวออกมาก่อนจะมองไปที่เส้นขอบฟ้า “บรรพบุรุษศิลาโลหิตมันนั้นฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วกว่าที่ข้าคิดนัก! ตอนนี้นอกจากว่ามันจะฟื้นคืนกำลังดั่งเดิมแล้วมันยังพัฒนาฝีมือของตัวเองไปได้มากกว่าเก่า ในอีกไม่ถึงสามปีนี้มันคงจุติขึ้นมาได้สมบูรณ์แน่! การต่อสู้ของสามบรรพบุรุษนั้นมันคงเป็นเขาที่จะชนะในที่สุด!”

เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องโห่ร้องแตกตื่นขึ้น

เพราะสามปีนั้นมันสั้นเกินไป!

สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดตอนนี้มันกำลังพัฒนาขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่ แต่มันก็ยังอยู่ในช่วงแห่งการพัฒนาเท่านั้น

พวกเขานั้นต้องการเวลา!

หมี่เทียนกล่าวขึ้น “ข้านั้นแลกหมัดกับมันเมื่อครู่และสัมผัสได้ว่าพลังของมันเกินกว่าที่คาดคิดไปมากนัก! หากบรรพบุรุษศิลาโลหิตมันจุติขึ้นมาได้จริงๆ แล้วแม้แต่ข้าเองก็คงไม่อาจจะต้านทานมันได้แม้แต่น้อย!”

คนทั้งหลายที่ได้ยินก็ต้องผงะไปด้วยใจสั่น เพราะแม้แต่หมี่เทียนนั้นยังยอมรับว่าตัวเองด้อยกว่านี่มันเท่ากับว่าพวกเขานั้นได้แต่ต้องนั่งรอความตายแล้ว!

ไม่ว่าจะมีเจ้าโลกล้ำสวรรค์มากมายขึ้นแค่ไหนมันก็เปล่าประโยชน์!

พริบตานี้ความสิ้นหวังมันก็ค่อยๆ กัดกินหัวใจผู้คนไป

ความยินดีแห่งชัยชนะใดๆ ก่อนหน้ามันหายไปสิ้น

เย่หยวนตอบกลับหมี่เทียนไป “ผู้อาวุโสหมี่เทียน พี่โฉพวกท่านพานักยุทธสายเลือดทั้งแปดร้อยคนและคนที่เหลือของเรานั้นไปช่วยกอบกู้สวรรค์อื่นๆ เถอะ ได้มากเท่าไหร่ยิ่งดีแต่จำไว้ว่าอย่าบุกลึกเกินไป แม้ว่าเรานั้นจะทรงพลังแต่เผ่าเลือดนั้นมันก็มียอดฝีมือซ่อนตัวอยู่ไม่น้อย! หากพวกมันร่วมมือกันวางแผนดักโจมตีเราแล้วแม้จะเป็นพวกเราเองก็คงรอดกลับมาได้ยาก!”

หมี่เทียนตอบกลับไป “แต่เฒ่าคนนี้สั่งการจ้าวเยว่มันไม่ได้!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “วางใจเถอะ ข้านั้นได้ศึกษามหาค่ายกลโลหิตเมฆาทำให้ได้ความรู้ใหม่มาและน่าจะพอฟื้นคืนสภาพของพวกเขากลับมาได้แล้ว”

หมี่เทียนนั้นเลิกคิ้วขึ้นสูงก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ได้เช่นนั้นก็เยี่ยม!”

โฉปู้ฉุนนั้นกล่าวขึ้นถามต่อ “แล้วตัวเจ้าเองเล่า?”

เย่หยวนตอบกลับไปด้วยหน้าเครียด “หลังจากข้ารักษาพวกเขาแล้วข้าจะขอเก็บตัวเตรียมบรรลุเจ้าโลก!”

หมี่เทียนที่ได้ยินก็ต้องกัดฟันถามไป “เจ้า…มั่นใจแค่ไหน?”

เย่หยวนส่ายหัวออกมา

โฉปู้ฉุนนั้นกล่าวขึ้นต่อ “เจ้านั้นคือความหวังสุดท้ายของเรา! ตราบเท่าที่เจ้าบรรลุเจ้าโลกได้นั้นเราคงพอต่อสู้กับบรรพบุรุษศิลาโลหิตมันได้! หากเจ้าตายลงแล้วทุกสิ่งอย่างก็คงจบกัน! เจ้านั้นต้องระวังเต๋าทุกข์ครั้งนี้ให้มาก!”

เย่หยวนตอบกลับไปอย่างหนักแน่น “เวลานั้นไม่คอยท่า! ข้านั้นมีเลือดต้นของบรรพบุรุษศิลาโลหิตมันและพอสัมผัสถึงพลังของมันได้บ้าง ตอนนี้มันแข็งแกร่งกว่าตอนที่อยู่ในวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตไปสิ้นเชิงแล้ว! หากมันจุติขึ้นมาได้จริงๆ มันคงมีพลังก้าวผ่านล้ำสวรรค์ไป! ถึงตอนนั้นแม้ว่าข้าจะบรรลุเจ้าโลกได้มันก็ยังไม่แน่หรอกว่าจะเอาชนะมันได้! เรานั้นได้แต่ต้องพยายามให้สุดตัว ทำได้เท่าไหร่ก็ทำเท่านั้น ที่เหลือมีแต่ต้องพึ่งโชคชะตาแล้ว!”

คนทั้งหลายที่ได้ยินนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่นขึ้นมามองดูหน้ากันอย่างตกลงใจ

สงครามเริ่มขึ้นอีกครั้งด้วยการนำของหมี่เทียนที่พากองทัพเคลื่อนออกจากสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด

ในแนวหน้าของกองกำลังนี้มันมียอดฝีมือล้ำสวรรค์อยู่ถึงแปดคนด้วยกัน มันช่างเป็นกองทัพที่ยิ่งใหญ่มากนัก!

คนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นคงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝันไป

ยอดฝีมือล้ำสวรรค์แปดนั้นมันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึงในอดีต

แต่เย่หยวนกลับสร้างกองทัพนี้ขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง!

“เจ้าเป็นอย่างไรบ้างจ้าวเยว่?” หมี่เทียนหันไปถามจ้าวเยว่

จ้าวเยว่ในตอนนี้มีร่างกายสูงใหญ่ของคนพร้อมด้วยสายตาที่เฉียบคมหนักแน่น ไม่มีรูปร่างของสัตว์ ประหลาดใดๆ อีก

บนโลกนี้มันไม่มีสิ่งใดที่ไม่อาจหลอมได้!

เย่หยวนนั้นปรับแก่นเลือดของเผ่าเลือดนั้นเข้ากับสมุนไพรสวรรค์โกลาหลที่ได้มาจากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตเพื่อหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นมารักษาจ้าวเยว่ได้ในที่สุด

ในตอนนี้เขานั้นกลับมามีสติสัมปชัญญะครบถ้วนและกลายเป็นแม่ทัพของนักยุทธสายเลือดทั้งแปดร้อยคนไป

นอกจากนั้นแล้วพลังของเขายังเหนือล้ำกว่าพวกหลงเจี้ยนทั้งหลายไปขั้นหนึ่ง

ขณะที่กำลังเรียกระดมกองทัพนั้นหมี่เทียนก็ได้เห็นสีหน้าของจ้าวเยว่ที่เปี่ยมล้นไปด้วยอารมณ์หลากหลายจึงอดถามขึ้นไม่ได้

“นายน้อยช่างเป็นคนที่น่าทึ่งนัก!” จ้าวเยว่

หมี่เทียนที่ได้ยินก็ต้องผงะไปเพราะไม่คิดว่าเขาจะตอบกลับมาเช่นนี้

เขานั้นรู้ดีว่าจ้าวเยว่นั้นเป็นแค่นักยุทธตัวน้อยคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้เขายังเป็นแค่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์

แต่ตอนนี้เมื่อได้สติกลับมาอีกครั้งเขากลับพบว่าตัวเองกลายเป็นยอดฝีมือล้ำสวรรค์ไป นอกจากนั้นยังกลายเป็นแม่ทัพที่นำกองทัพเจ้าโลกนับร้อยๆ หมี่เทียนคิดไปเสียว่าเขานั้นจะตื่นเต้นดีใจ

แต่จ้าวเยว่นั้นกลับรู้สึกเคารพเชิดชูเย่หยวนอย่างมากแทน

หลังจากใช้เวลาหลายเดือนในการช่วยรักษาจ้าวเยว่และพวกนั้นเย่หยวนก็ปลีกตัวออกไปเก็บตัวในที่สุด

พวกเขารู้ดีว่าเย่หยวนนั้นกำลังเตรียมตัวเผชิญหน้ากับความตาย!

วันใดที่เขาออกมาจากการเก็บตัวนั้นมันจะเป็นวันที่เขาเรียกเต๋าทุกข์!

เมื่อถึงเวลานั้นฟ้าดินคงได้เปลี่ยนสีแน่!

“หือ เจ้าหมายความว่าอย่างไรหรือ?” หมี่เทียนยิ้มถามขึ้นต่อ

จ้าวเยว่ตอบกลับไปอย่างไม่ลังเล “ภาพตรงหน้านี้มันเกิดขึ้นมาได้เพราะนายน้อยสิ้น! ก่อนนั้นตอนที่วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตไล่โจมตีสวรรค์ทั้งหลายมันก็คงไม่ได้ยิ่งใหญ่ไปกว่านี้แน่! แต่ว่ายอดฝีมือของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้นมันเป็นยอดอัจฉริยะที่เก็บเกี่ยวมานานแสนนาน แต่พวกเรานั้นเป็นแค่ขยะไม่มีอะไรดี! นายน้อยนั้นกลับเปลี่ยนขยะอย่างพวกเราให้กลายเป็นของวิเศษ กลายเป็นยอดฝีมือล้ำหน้าใครๆ! หากไม่มีนายน้อยแล้วข้าว่ามันก็คงไม่มีพวกเรา ยอดฝีมือล้ำสวรรค์ทั้งแปดนี้เช่นกัน ไม่ต้องไปพูดถึงเจ้าโลกที่อยู่ด้านหลังเราเลย! เพราะฉะนั้นข้าจึงได้แต่รู้สึกซาบซึ้งในคุณของนายน้อยอย่างมากล้นนัก!”

หมี่เทียนนั้นได้แต่ต้องพยักหน้ารับตาม!

เพราะแม้ว่าเขานั้นจะเป็นยอดฝีมือล้ำสวรรค์คนหนึ่งอยู่แล้วแต่หากไม่ได้เย่หยวนช่วยพากลับไปคืนชีพที่คงคา นิรันดร์ ตอนนี้อย่าว่าแต่ล้ำสวรรค์ แม้แต่ร่างกายเขาก็ไม่มีมันเสียด้วยซ้ำไป

แน่นอนว่าหากไม่ได้เย่หยวนพวกหลงเจี้ยนเองก็คงไม่มีทางจะบรรลุล้ำสวรรค์มาได้เช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นโฉปู้ฉุน จ้าวเยว่ หมี่เจิ้นหรือคนอื่นใดในแปดยอดฝีมือล้ำสวรรค์นี้พวกเขาต่างก็ได้เย่หยวนช่วยเหลือไว้ทั้งสิ้น!

นี่มันน่าทึ่งจนน่ากลัว!

จะบอกว่ากองทัพเจ้าโลกอันยิ่งใหญ่ในวันนี้มันถูกสร้างขึ้นมาจากน้ำมือของเย่หยวนอย่างสิ้นเชิงก็ว่าได้!

หมี่เทียนต้องสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าวขึ้นตาม “ใช่ เจ้าเด็กคนนี้มันน่าทึ่งจริงๆ!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3106 นายน้อยผู้น่าทึ่ง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3106 นายน้อยผู้น่าทึ่ง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฟุบ!

ปราณดาบนั้นพุ่งขึ้นฟ้าก่อนจะตามมาด้วยเสียงระเบิดดังลั่น

ประตูแห่งชีวานิรันดร์บานหนึ่งมันเปิดออก พร้อมด้วยพลังงานรุนแรงมหาศาลที่ไหลเข้ามาสู่ร่างกายของโฉปู้ฉุน

พลังศักดิ์สิทธิ์ไหลออกมาราวสายน้ำทำให้คลื่นพลังจากร่างของโฉปู้ฉุนยิ่งใหญ่และทรงพลังขึ้นไปอีกนับเท่าตัว

เขานั้นลอยตัวอยู่กลางอากาศราวกับว่าเขานั้นคือสวรรค์

การกระทำของเขาทุกสิ่งอย่างในเวลานี้มันคือเต๋า!

นี่คือล้ำสวรรค์!

“โฉปู้ฉุนนั้นช่างเก่งกาจล้ำเลิศเสียจริงๆ! เขานั้นกลับเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ได้ด้วยเพียงดาบเดียว!”

“ดาบเดียวบรรลุสามอาณาจักรในตอนนั้นแล้วยังมาตอนนี้ที่ใช้ดาบเดียวเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์อีก! เจ้าโลก ปู้ฉุนนั้นช่างเหมือนดั่งเทพแท้ๆ!”

“หากมิใช่เพราะเกิดมาช้าไปหน่อยแล้วเจ้าโลกปู้ฉุนนั้นคงจะก้าวขึ้นไปถึงระดับของบรรพบุรุษเผ่าเลือดมันแน่ น่าเสียดายจริงๆ!”

โฉปู้ฉุนนั้นเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ได้ด้วยดาบเดียวบรรลุสู่อาณาจักรล้ำสวรรค์ไป

นั่นมันทำให้คนทั้งสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน

เพราะอาณาจักรล้ำสวรรค์นั้นมันเป็นตัวตนที่แสนๆ ปีจะเกิดขึ้นมาสักคนหรือไม่ยังไม่ทราบได้!

แม้ว่ายอดเจ้าโลกนั้นจะทำลายสามผนึกลงได้…ถึงจะมีกำลังแข็งแกร่งมหาศาลแต่การเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันย่อมจะยากกว่าสามผนึกใดๆ สิ้นเชิง!

ยอดฝีมือล้ำสวรรค์นั้นมันมีเพียงแค่หยิบมือบนสวรรค์นี้

สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นเดิมทีไม่มีแม้แต่ยอดเจ้าโลกสักคน ไม่ต้องถามเลยว่าพวกเขาเคยได้เห็นการถือกำเนิดของเจ้าโลกล้ำสวรรค์หรือไม่

สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดในตอนนี้มันมีเจ้าโลกอยู่ถึงหกคน แต่ว่าคนทั้งหกนั้นต่างเป็นคนเผ่าภูติแท้จากสวรรค์อื่นสิ้น

ด้วยโฉปู้ฉุนที่บรรลุขึ้นมานี้มันทำให้สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมีเจ้าโลกล้ำสวรรค์คนแรกในความเป็นจริงขึ้นมาได้ มันเป็นเรื่องใหญ่แก่จิตใจของคนทั้งหลายมากนัก

เมื่อประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นค่อยๆ จางหายไปร่างกายของโฉปู้ฉุนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลขึ้น

สภาพของเขาในตอนนี้มันเหมือนเป็นดาบใหญ่ที่ปักลงกลางฟ้าดินทำให้คนทั้งหลายที่ได้เห็นต้องขนลุกตั้งอย่างไม่อาจห้ามตัว

จากนั้นเขาก็พุ่งตัวเข้าไปหาเย่หยวนอีกครั้งหนึ่ง

“ข้าแพ้แล้ว!”

ไม่มีใครคิดว่าหลังจากโฉปู้ฉุนนั้นบรรลุล้ำสวรรค์มาได้แล้วคำแรกที่เขาพูดออกมากลับจะเป็นการยอมแพ้!

คนทั้งหลายที่ได้ยินนั้นต้องผงะไปเพราะว่าการต่อสู้เมื่อครู่นี้มันดูอย่างไรก็เป็นชัยชนะของโฉปู้ฉุนที่สามารถบรรลุอาณาจักรขึ้นมาได้อย่างยิ่งใหญ่

แต่ตอนนี้เขากลับมายอมแพ้หรือ?

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ท่านและข้านั้นต่างยังมีไม้ตายเก็บไว้มากมาย จะมาพูดเรื่องแพ้ชนะกันทำไม?”

โฉปู้ฉุนนั้นส่ายหัวตอบกลับไปด้วยใบหน้าจริงจัง “ดาบแห่งการปกป้องนั้นมันย่อมจะไม่มีทางเปล่งพลังสูงสุดออกมากับคนของตัวเองได้! แต่เมื่อสักครู่นี้ตอนที่เจ้าและข้านั้นต่อสู้กันอย่างสุดตัวโดยไม่ใช้ไม้ตายออกมานั้นข้าสัมผัสได้ถึงพลังของดาบแห่งการปกป้องอย่างชัดเจน! ครึ่งปีที่เข้าสลักเขานี้ เจ้าเป็นผู้ที่ได้บรรลุอย่างแท้จริง!”

เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องหัวเราะ “ในเมื่อท่านรู้อยู่แล้วว่าดาบแห่งการปกป้องของข้าจะไม่มีวันหันคมเข้าหาคนของตนแล้วท่านจะยังหาผู้ชนะไปเพื่ออะไร? ท่านนั้นคือท่าน ข้านั้นคือข้า เต๋าของเรามันแตกต่างกันก็เท่านั้น!”

โฉปู้ฉุนได้ยินเช่นนั้นก็ต้องผงะไปก่อนจะพยักหน้ารับออกมา “ก็จริง มันเป็นข้าเองที่ยึดติดกับความพ่ายแพ้ชัยชนะมากเกินไป เย่หยวน เจ้าจะเอาอย่างไรต่อ?”

เย่หยวนถอนหายใจยาวออกมาก่อนจะมองไปที่เส้นขอบฟ้า “บรรพบุรุษศิลาโลหิตมันนั้นฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วกว่าที่ข้าคิดนัก! ตอนนี้นอกจากว่ามันจะฟื้นคืนกำลังดั่งเดิมแล้วมันยังพัฒนาฝีมือของตัวเองไปได้มากกว่าเก่า ในอีกไม่ถึงสามปีนี้มันคงจุติขึ้นมาได้สมบูรณ์แน่! การต่อสู้ของสามบรรพบุรุษนั้นมันคงเป็นเขาที่จะชนะในที่สุด!”

เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องโห่ร้องแตกตื่นขึ้น

เพราะสามปีนั้นมันสั้นเกินไป!

สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดตอนนี้มันกำลังพัฒนาขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่ แต่มันก็ยังอยู่ในช่วงแห่งการพัฒนาเท่านั้น

พวกเขานั้นต้องการเวลา!

หมี่เทียนกล่าวขึ้น “ข้านั้นแลกหมัดกับมันเมื่อครู่และสัมผัสได้ว่าพลังของมันเกินกว่าที่คาดคิดไปมากนัก! หากบรรพบุรุษศิลาโลหิตมันจุติขึ้นมาได้จริงๆ แล้วแม้แต่ข้าเองก็คงไม่อาจจะต้านทานมันได้แม้แต่น้อย!”

คนทั้งหลายที่ได้ยินก็ต้องผงะไปด้วยใจสั่น เพราะแม้แต่หมี่เทียนนั้นยังยอมรับว่าตัวเองด้อยกว่านี่มันเท่ากับว่าพวกเขานั้นได้แต่ต้องนั่งรอความตายแล้ว!

ไม่ว่าจะมีเจ้าโลกล้ำสวรรค์มากมายขึ้นแค่ไหนมันก็เปล่าประโยชน์!

พริบตานี้ความสิ้นหวังมันก็ค่อยๆ กัดกินหัวใจผู้คนไป

ความยินดีแห่งชัยชนะใดๆ ก่อนหน้ามันหายไปสิ้น

เย่หยวนตอบกลับหมี่เทียนไป “ผู้อาวุโสหมี่เทียน พี่โฉพวกท่านพานักยุทธสายเลือดทั้งแปดร้อยคนและคนที่เหลือของเรานั้นไปช่วยกอบกู้สวรรค์อื่นๆ เถอะ ได้มากเท่าไหร่ยิ่งดีแต่จำไว้ว่าอย่าบุกลึกเกินไป แม้ว่าเรานั้นจะทรงพลังแต่เผ่าเลือดนั้นมันก็มียอดฝีมือซ่อนตัวอยู่ไม่น้อย! หากพวกมันร่วมมือกันวางแผนดักโจมตีเราแล้วแม้จะเป็นพวกเราเองก็คงรอดกลับมาได้ยาก!”

หมี่เทียนตอบกลับไป “แต่เฒ่าคนนี้สั่งการจ้าวเยว่มันไม่ได้!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “วางใจเถอะ ข้านั้นได้ศึกษามหาค่ายกลโลหิตเมฆาทำให้ได้ความรู้ใหม่มาและน่าจะพอฟื้นคืนสภาพของพวกเขากลับมาได้แล้ว”

หมี่เทียนนั้นเลิกคิ้วขึ้นสูงก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ได้เช่นนั้นก็เยี่ยม!”

โฉปู้ฉุนนั้นกล่าวขึ้นถามต่อ “แล้วตัวเจ้าเองเล่า?”

เย่หยวนตอบกลับไปด้วยหน้าเครียด “หลังจากข้ารักษาพวกเขาแล้วข้าจะขอเก็บตัวเตรียมบรรลุเจ้าโลก!”

หมี่เทียนที่ได้ยินก็ต้องกัดฟันถามไป “เจ้า…มั่นใจแค่ไหน?”

เย่หยวนส่ายหัวออกมา

โฉปู้ฉุนนั้นกล่าวขึ้นต่อ “เจ้านั้นคือความหวังสุดท้ายของเรา! ตราบเท่าที่เจ้าบรรลุเจ้าโลกได้นั้นเราคงพอต่อสู้กับบรรพบุรุษศิลาโลหิตมันได้! หากเจ้าตายลงแล้วทุกสิ่งอย่างก็คงจบกัน! เจ้านั้นต้องระวังเต๋าทุกข์ครั้งนี้ให้มาก!”

เย่หยวนตอบกลับไปอย่างหนักแน่น “เวลานั้นไม่คอยท่า! ข้านั้นมีเลือดต้นของบรรพบุรุษศิลาโลหิตมันและพอสัมผัสถึงพลังของมันได้บ้าง ตอนนี้มันแข็งแกร่งกว่าตอนที่อยู่ในวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตไปสิ้นเชิงแล้ว! หากมันจุติขึ้นมาได้จริงๆ มันคงมีพลังก้าวผ่านล้ำสวรรค์ไป! ถึงตอนนั้นแม้ว่าข้าจะบรรลุเจ้าโลกได้มันก็ยังไม่แน่หรอกว่าจะเอาชนะมันได้! เรานั้นได้แต่ต้องพยายามให้สุดตัว ทำได้เท่าไหร่ก็ทำเท่านั้น ที่เหลือมีแต่ต้องพึ่งโชคชะตาแล้ว!”

คนทั้งหลายที่ได้ยินนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่นขึ้นมามองดูหน้ากันอย่างตกลงใจ

สงครามเริ่มขึ้นอีกครั้งด้วยการนำของหมี่เทียนที่พากองทัพเคลื่อนออกจากสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด

ในแนวหน้าของกองกำลังนี้มันมียอดฝีมือล้ำสวรรค์อยู่ถึงแปดคนด้วยกัน มันช่างเป็นกองทัพที่ยิ่งใหญ่มากนัก!

คนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นคงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝันไป

ยอดฝีมือล้ำสวรรค์แปดนั้นมันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึงในอดีต

แต่เย่หยวนกลับสร้างกองทัพนี้ขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง!

“เจ้าเป็นอย่างไรบ้างจ้าวเยว่?” หมี่เทียนหันไปถามจ้าวเยว่

จ้าวเยว่ในตอนนี้มีร่างกายสูงใหญ่ของคนพร้อมด้วยสายตาที่เฉียบคมหนักแน่น ไม่มีรูปร่างของสัตว์ ประหลาดใดๆ อีก

บนโลกนี้มันไม่มีสิ่งใดที่ไม่อาจหลอมได้!

เย่หยวนนั้นปรับแก่นเลือดของเผ่าเลือดนั้นเข้ากับสมุนไพรสวรรค์โกลาหลที่ได้มาจากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตเพื่อหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นมารักษาจ้าวเยว่ได้ในที่สุด

ในตอนนี้เขานั้นกลับมามีสติสัมปชัญญะครบถ้วนและกลายเป็นแม่ทัพของนักยุทธสายเลือดทั้งแปดร้อยคนไป

นอกจากนั้นแล้วพลังของเขายังเหนือล้ำกว่าพวกหลงเจี้ยนทั้งหลายไปขั้นหนึ่ง

ขณะที่กำลังเรียกระดมกองทัพนั้นหมี่เทียนก็ได้เห็นสีหน้าของจ้าวเยว่ที่เปี่ยมล้นไปด้วยอารมณ์หลากหลายจึงอดถามขึ้นไม่ได้

“นายน้อยช่างเป็นคนที่น่าทึ่งนัก!” จ้าวเยว่

หมี่เทียนที่ได้ยินก็ต้องผงะไปเพราะไม่คิดว่าเขาจะตอบกลับมาเช่นนี้

เขานั้นรู้ดีว่าจ้าวเยว่นั้นเป็นแค่นักยุทธตัวน้อยคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้เขายังเป็นแค่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์

แต่ตอนนี้เมื่อได้สติกลับมาอีกครั้งเขากลับพบว่าตัวเองกลายเป็นยอดฝีมือล้ำสวรรค์ไป นอกจากนั้นยังกลายเป็นแม่ทัพที่นำกองทัพเจ้าโลกนับร้อยๆ หมี่เทียนคิดไปเสียว่าเขานั้นจะตื่นเต้นดีใจ

แต่จ้าวเยว่นั้นกลับรู้สึกเคารพเชิดชูเย่หยวนอย่างมากแทน

หลังจากใช้เวลาหลายเดือนในการช่วยรักษาจ้าวเยว่และพวกนั้นเย่หยวนก็ปลีกตัวออกไปเก็บตัวในที่สุด

พวกเขารู้ดีว่าเย่หยวนนั้นกำลังเตรียมตัวเผชิญหน้ากับความตาย!

วันใดที่เขาออกมาจากการเก็บตัวนั้นมันจะเป็นวันที่เขาเรียกเต๋าทุกข์!

เมื่อถึงเวลานั้นฟ้าดินคงได้เปลี่ยนสีแน่!

“หือ เจ้าหมายความว่าอย่างไรหรือ?” หมี่เทียนยิ้มถามขึ้นต่อ

จ้าวเยว่ตอบกลับไปอย่างไม่ลังเล “ภาพตรงหน้านี้มันเกิดขึ้นมาได้เพราะนายน้อยสิ้น! ก่อนนั้นตอนที่วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตไล่โจมตีสวรรค์ทั้งหลายมันก็คงไม่ได้ยิ่งใหญ่ไปกว่านี้แน่! แต่ว่ายอดฝีมือของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้นมันเป็นยอดอัจฉริยะที่เก็บเกี่ยวมานานแสนนาน แต่พวกเรานั้นเป็นแค่ขยะไม่มีอะไรดี! นายน้อยนั้นกลับเปลี่ยนขยะอย่างพวกเราให้กลายเป็นของวิเศษ กลายเป็นยอดฝีมือล้ำหน้าใครๆ! หากไม่มีนายน้อยแล้วข้าว่ามันก็คงไม่มีพวกเรา ยอดฝีมือล้ำสวรรค์ทั้งแปดนี้เช่นกัน ไม่ต้องไปพูดถึงเจ้าโลกที่อยู่ด้านหลังเราเลย! เพราะฉะนั้นข้าจึงได้แต่รู้สึกซาบซึ้งในคุณของนายน้อยอย่างมากล้นนัก!”

หมี่เทียนนั้นได้แต่ต้องพยักหน้ารับตาม!

เพราะแม้ว่าเขานั้นจะเป็นยอดฝีมือล้ำสวรรค์คนหนึ่งอยู่แล้วแต่หากไม่ได้เย่หยวนช่วยพากลับไปคืนชีพที่คงคา นิรันดร์ ตอนนี้อย่าว่าแต่ล้ำสวรรค์ แม้แต่ร่างกายเขาก็ไม่มีมันเสียด้วยซ้ำไป

แน่นอนว่าหากไม่ได้เย่หยวนพวกหลงเจี้ยนเองก็คงไม่มีทางจะบรรลุล้ำสวรรค์มาได้เช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นโฉปู้ฉุน จ้าวเยว่ หมี่เจิ้นหรือคนอื่นใดในแปดยอดฝีมือล้ำสวรรค์นี้พวกเขาต่างก็ได้เย่หยวนช่วยเหลือไว้ทั้งสิ้น!

นี่มันน่าทึ่งจนน่ากลัว!

จะบอกว่ากองทัพเจ้าโลกอันยิ่งใหญ่ในวันนี้มันถูกสร้างขึ้นมาจากน้ำมือของเย่หยวนอย่างสิ้นเชิงก็ว่าได้!

หมี่เทียนต้องสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าวขึ้นตาม “ใช่ เจ้าเด็กคนนี้มันน่าทึ่งจริงๆ!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+