Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3119 เทพเจ้าแห่งการรังสรรค์! (ตอนอวสาน)

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3119 เทพเจ้าแห่งการรังสรรค์! (ตอนอวสาน) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ดาบเดียวของเย่หยวนนั้นกลับทำลายประตูแห่งชีวานิรันดร์ลง?

พวกเขานั้นไม่อาจจะคิดตามได้เลยในเวลานี้

“มัน…จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป? ประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นหายไปแล้ว เรา…เราจะเป็นอย่างไร? แล้วมัน…มันจะ…มันคืออะไร?” ศิลาโลหิตนั้นมองดูเย่หยวนอย่างมึนงงและบ่นพึมพำขึ้นมา

ประตูแห่งชีวานิรันดร์หายไปเช่นนี้แล้วมันย่อมจะทำให้เขาตกตื่นขึ้นอย่างมาก

เพราะว่าโลกที่เขารู้จักนั้นมันดูไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

และเย่หยวนนี่มันกลายเป็นตัวตนระดับใดไปแล้ว?

เย่หยวนนั้นขมวดคิ้วแน่นก่อนที่จู่ๆ ด้านหลังของเขามันจะมีประตูแห่งชีวานิรันดร์อีกบานปรากฏขึ้น

แต่ว่าประตูแห่งชีวานิรันดร์นี้มันพุ่งเข้ามาในร่างของเขาอย่างรวดเร็ว

เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ทันทีว่าในจุดตันเถียนของเขานั้นมันมีอะไรบางอย่างปรากฏขึ้น

“นี่มัน…โลกหรือ?” เย่หยวนนั้นต้องผงะไป

เพราะตั้งแต่ที่เขากลายมาเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตนี้แล้วเขาก็ได้เปลี่ยนโลกใบน้อยภายในตัวเองให้กลายเป็นดาบเต๋าไป

ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่มีโลกภายในอีก

แต่วันนี้ประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันกลับกลายเป็นโลกภายในของเขาไป?

แต่ถ้าจะให้พูดแล้วมันคงเป็นเหมือนเมล็ดของโลกมากกว่าตัวโลกที่สมบูรณ์!

แต่เย่หยวนนั้นสัมผัสได้เลยว่าเมล็ดโลกนี้มันทรงพลังอย่างมากล้น

มันอยู่ในระดับ…เดียวกับสามสิบสามสวรรค์!

และในเวลานั้นเองที่ดาบเต๋าในมือของเขามันกลับกลายเป็นผลึกไป!

จากนั้นผลึกดาบนั้นมันก็พุ่งกลับเข้าร่างของเขาไป

เย่หยวนนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นเพราะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย!

กล้ามเนื้อทุกมัดของเขานั้นมันเหมือนได้เกิดใหม่!

เมื่อร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงจนสมบูรณ์แล้วเย่หยวนก็หันไปมองดูศิลาโลหิตอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายนั้นกลับดูเหมือนแค่มดปลวก

ตอนนี้หากเย่หยวนอยากสังหารนั้นมันไม่ต้องขยับมือเสียด้วยซ้ำไป!

“ข้า…”

เย่หยวนนั้นผงะไปเพราะเขาคิดว่าหลังจบสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะไปแล้วเขายังต้องมาจัดการปัญหากับศิลาโลหิตอีกครั้ง

แต่ตอนนี้เมื่อผ่านสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะมาได้จริงๆ แล้วเขากลับพบว่าอีกฝ่ายนั้นเล็กน้อยไร้ค่าใดๆ

นี่มันน่าตกตะลึงอย่างมาก

ความเปลี่ยนแปลงในร่างของเย่หยวนนี้มันประจักษ์แก่สายตาของทุกผู้คน

ศิลาโลหิตนั้นมองดูเย่หยวนที่มีขนาดร่างเท่ามนุษย์ทั่วไปแต่กลับรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายนั้นเป็นดวงดาวทั้งดวง

ความเปลี่ยนแปลงนี้มันทำให้เขาหวาดกลัวอย่างสุดหัวใจ

ในเวลานั้นเองที่จู่ๆ ห้วงมิติมันก็สั่นไหว

ในความมืดด้านหลังประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันปรากฏสามเงาร่างเดินออกมา

คนทั้งสามนั้นใส่ชุดคลุมยาวพร้อมด้วยเคราขาวยาวลากพื้น ดูราวกับเซียนที่เก็บตัวอยู่ในป่าเขาทำให้คนทั้งหลายไม่อาจจะสัมผัสถึงพลังของคนทั้งสามนี้ได้ชัดเจน

แต่มัน…สัมผัสได้เหมือนเทพลงมาจุติ!

ได้เห็นคนทั้งสามนั้นศิลาโลหิตก็เหมือนได้เห็นฟางเส้นสุดท้ายคุกเข่าลงร้องลั่น “ศิลาโลหิต ทูตแห่งเต๋าสวรรค์ขอคารวะเซียนทั้งสามท่าน! เจ้าบ้านี่มันก้าวผ่านสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะและคิดขึ้นปกครองเต๋าสวรรค์! โปรดลงโทษเจ้าโจรร้ายนี้มันด้วยเถิด!”

แม้ว่าเขานั้นจะไม่รู้ได้ว่าคนทั้งสามนั้นเป็นใครมาจากไหนแต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่งล้ำฟ้าดิน!

หากมันจะมีใครบนโลกนี้ที่หยุดเย่หยวนได้แล้วมันก็คงเป็นคนทั้งสามนี้!

คนทั้งสามนั้นไม่คิดสนใจเสียงร้องของศิลาโลหิตและเดินตรงเข้าไปหาเย่หยวน

เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นและเตรียมตั้งท่ารับมือ

“หยวนซื่อคารวะท่านลุง!”

“หลิงเปาคารวะท่านลุง!”

“เต้าเต๋อคารวะท่านลุง!”

แต่เรื่องราวมันกลับแตกต่างจากความคิดของผู้คนเพราะเซียนทั้งสามคนนั้นกลับก้มลงคุกเข่าต่อหน้าเย่หยวน ราวกับว่าเย่หยวนนั้นเป็นญาติผู้ใหญ่ของตัวเอง

ศิลาโลหิตนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายและขาอ่อนหมดแรงลงทันที เขานั้นไม่เหลือแรงที่จะยืนหยัดอีกต่อไป

สามเซียนล้ำฟ้านั้นกลับมาคุกเข่าเรียกเย่หยวนเป็นลุง!

เรื่องเช่นนี้…

หมี่เทียนและคนอื่นๆ เองก็ต่างเบิกตากว้างขึ้นอย่างตกตะลึง

เย่หยวนนั้นเองก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน เขาคิดไปว่าคนทั้งสามนั้นคงมาเพื่อประกาศโทษแต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายกลับจะคุกเข่าลงกราบเขาแทน

“ลุง?” เย่หยวนขมวดคิ้วถามขึ้น

หยวนซื่อก้มหัวลงตอบ “ขอรับ เราสามพี่น้องนั้นคือผู้ที่ควบคุมดูแลสังสารวัฏให้แก่นายท่าน! ท่านลุงนั้นเป็นผู้ที่ผ่านการทดสอบของสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะและกลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ มีฐานะเท่าเทียมนายท่าน! พวกข้าน้อยย่อมจะต้องเรียกท่านว่าท่านลุง!”

เทพเจ้าแห่งการรังสรรค์!

คำพูดของหยวนซื่อนั้นมันทำให้คนทั้งหลายที่ได้ยินต้องผงะไป

เป็นตอนนี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้รู้ว่าคนทั้งสามนี้เป็นผู้ควบคุมเต๋าสวรรค์อยู่!

และเหนือจากพวกเขาไปนั้นมันยังมีเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์!

ศิลาโลหิตนั้นหมดแรงจะหายใจ!

‘ข้า…ข้าไปท้าทายตัวตนเช่นใดไว้กัน’

เย่หยวนเองก็ตกตะลึงอย่างมากเมื่อได้ยิน

แต่ความเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขานี้ตัวเขาย่อมจะรู้ดีว่าคนทั้งสามนั้นไม่ได้พูดโกหกบิดเบือนใดๆ

“เช่นนั้น…นายของเจ้าเล่า?” เย่หยวนถามขึ้นมา

“ฮ่าๆๆ น้องข้า ข้ารอเจ้ามานานแสนนานในที่สุดเจ้าก็ปรากฏขึ้นมาเสียที! เต๋าของข้า…จะไม่เดียวดายอีกต่อไป!” ก่อนที่เย่หยวนจะทันถามได้จบประโยคมันก็มีอีกร่างหนึ่งเดินออกมาจากความมืดมิดนั้น

ชายหนุ่มคนนี้ดูมีอายุไม่ห่างจากเย่หยวนมากมาย

แต่ว่าเขานั้นคืออะไรกันแน่?

เมื่อคนผู้นี้ก้าวออกมาเขาก็เดินเข้ามาจับมือเย่หยวนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแสนดีใจ

เย่หยวนนั้นมองดูคนผู้มาถึงนี้และกลับรู้สึกเหมือนได้เจอญาติ

ด้วยการตกผลึกของดาบเต๋านั้นร่างกายของเขาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงและมันอยู่ในระดับที่แตกต่างจากคนทั่วไปนัก

เขานั้นอยู่เหนือทุกชีวิต!

แม้แต่ตอนที่พวกหยวนซื่อเดินออกมาเย่หยวนก็ยังไม่รู้สึกว่าพวกเขานั้นอยู่ในระดับเดียวกับตน

มีเพียงแค่ชายหนุ่มตรงหน้าเขานี้เท่านั้นที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นตัวตนในระดับเดียวกัน

“คารวะท่านพี่!”

แม้ว่าเขาจะยังไม่เข้าใจอีกมากแต่เขาก็ยังตอบกลับไป

ชายหนุ่มคนนั้นมองหน้าเย่หยวนอีกครั้งพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง “ข้านั้นมีนามว่าหงจุน ข้านั้นเกิดขึ้นมาก่อนฟ้าดินทั้งหลาย! สามสิบสามสวรรค์นี้เองก็เป็นโลกที่ข้าสร้างขึ้นมา! เจ้านั้นมาจากภพต่ำสุดของมันแต่ตอนนี้เจ้ากลับได้กลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์คนใหม่ จากวันนี้ไปพวกเราจะนับถือกันเป็นพี่น้องไปตลอดกาล! ข้านั้นสร้างสามสิบสามสวรรค์นี้ขึ้นมาและตั้งสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะไว้หวังเพียงแค่ว่ามันจะมีใครก้าวเดินออกมากลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์คนใหม่! แต่มันผ่านมานับล้านๆ ปีก็ยังไม่เคยมีใครได้ขึ้นมาเป็นเทพเจ้าคนใหม่เสียที! แต่ในที่สุดวันนี้มันก็มีเกิดขึ้นมาจนได้!”

แน่นอนว่าการปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวนนั้นมันทำให้หงจุนดีใจอย่างมาก

เพราะในเวลาล้านๆ ปีที่ผ่านมานี้เขาเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์เพียงคนเดียว

ความสูงส่งนั้นมันหนาวเย็นและเดียวดายอย่างมาก!

แต่ตอนนี้เมื่อเย่หยวนได้ขึ้นมาครองบัลลังก์แล้วเขาย่อมจะเหมือนได้คนร่วมเส้นทาง

เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะผงะไปเช่นกัน

ที่แท้แล้วสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะนั้นมันกลับเป็นการทดสอบเพื่อให้ผู้คนได้ก้าวขึ้นมาเป็นเทพเจ้า!

เย่หยวนนั้นนึกย้อนกลับไปจึงถามขึ้นมา “หมายความว่าหากอยากจะขึ้นเป็นเทพเจ้าคนเราจะต้องเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตเท่านั้น?”

หงจุนพยักหน้ารับไปทันที “แน่นอน! เต๋าสวรรค์นั้นมันคือสิ่งที่ข้าสร้างไว้คอยดูแลความสงบเท่านั้น! หากเจ้าไม่กล้าจะขัดขืนเต๋าสวรรค์แล้วมีหรือที่จะกลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ได้? เพราะเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์นั้นคือผู้สร้างกฎขึ้นมา! หากไม่มีความกล้าที่จะแหกกรงออกมาแล้วมันก็จะไม่มีทางกลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ได้! แต่ว่าความกล้าเพียงอย่างเดียวมันก็ไม่พอจะเป็นเทพเจ้าได้ มันต้องมีกำลังที่มากพอด้วย! สามสิบสามทุกข์แห่งหายนะนั้นมันคือการทดสอบที่ข้าตั้งไว้เป็นด่านสุดท้าย! มีเพียงแค่คนที่ผ่านด่านนี้มาได้เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์มาเป็นน้องข้า! แต่ในอดีตนับล้านๆ ปีที่ผ่านมานั้นยอดอัจฉริยะทั้งหลายกลับตายลงไปสิ้นเพราะมัน!”

ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องผงะไปที่แท้แล้วมันเป็นแค่การทดสอบ!

ความตกตะลึงในหัวใจของผู้คนในตอนนี้มันเกิดกว่าที่จะอธิบายออกมาได้!

เพราะไม่มีใครเคยคิดมาก่อนเลยว่าการบ่มเพาะนอกรีตนั้นมันจะเป็นหนทางชี้สู่สวรรค์ที่ถูกต้อง!

ผู้ทำตามสวรรค์เจริญยิ่งใหญ่ ผู้ท้าทายสวรรค์นั้นพบเจอแต่หายนะ มันกลายเป็นแค่เรื่องตลกของผู้อ่อนแอไปทันที!

“ที่แท้มันเป็นเช่นนั้น! ที่แท้เรื่องราวมันเป็นเช่นนี้! การท้าทายสวรรค์นั้นมันคือเต๋าที่แท้จริงของชีวิต!” บนท้องฟ้านั้นหยางชิงร้องลั่นขึ้นมา

จากนั้นมันก็เกิดแรงระเบิดรุนแรงออกมาจากร่างของเขา

พร้อมด้วยพลังในร่างของเขาที่ตกฮวบลงอย่างรวดเร็ว

เย่หยวนมองดูหยางชิงด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น

หงจุนนั้นได้แต่ต้องยิ้ม “เจ้าเด็กคนนี้มันกล้า!”

เย่หยวนนั้นกังวลอยู่ไม่น้อยเพราะว่าเส้นทางของผู้บ่มเพาะนอกรีตนั้นมันไม่ง่ายดาย!

มีเพียงแค่หนึ่งในพันยุคสมัย ในเวลากว่าล้านๆ ปีที่จะเกิดเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์คนใหม่อย่างเย่หยวนขึ้นมา!

เส้นทางของการบ่มเพาะนอกรีตนั้นมันเต็มไปด้วยขวากหนาม

พลาดไปเพียงนิดมันหมายถึงชีวิตทันที

คนมากมายตั้งแต่อดีตปัจจุบันนั้นพวกเขาจะไม่คิดเช่นหยางชิงนี้บ้างหรือ?

แต่มันไม่มีใครกล้าลอง!

เพราะตั้งแต่บรรพกาลมานั้นมันมีเพียงแค่เย่หยวนคนเดียวที่ทำได้สำเร็จ!

ไม่นานนักพลังบ่มเพาะของหยางชิงก็จางหายไปหมดสิ้น ตอนนี้เขามีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นต้น!

เริ่มใหม่กันตั้งแต่ต้น!

“เย่หยวน ข้า หยางชิงผู้นี้คือคู่ปรับตลอดกาลของเจ้า! หากเจ้าเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ได้ ข้าก็เป็นได้!” หยางชิงชี้หอกขึ้นฟ้าและหัวเราะลั่นขึ้นมา

เย่หยวนได้แต่ต้องสูดลมหายใจเข้าลึกและตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ได้ ข้าจะรอเจ้า! วันใดที่เจ้าได้เป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์แล้วเรามาสู้กันใหม่!”

“ฮ่าๆๆ”

หยางชิงหัวเราะลั่นก่อนจะเดินหายลับขอบฟ้าไป

เมื่อเห็นหยางชิงเดินหายลับไปนั้นเย่หยวนก็หันกลับมา “ท่านพี่ เย่หยวนมีเรื่องอยากจะขอร้อง!”

หงจุนนั้นยกมือขึ้นเปิดห้วงมิติด้านหลังด้วยรอยยิ้ม

จากนั้นมันก็มีเงาร่างหนึ่งเดินออกมาจากห้วงมิติ

เมื่อได้เห็นคนผู้นี้ตัวเยวี่ยเมิ่งลี่ก็ยิ้มกว้างวิ่งเข้าไปกอดนางทันที

“พี่หลินเสวีย! พี่…พี่กลับมาแล้ว!” น้ำตาไหลลงมานองหน้านางทันที

เมื่อเย่หยวนได้เห็นมู่หลินเสวียอีกครั้งจิตใจของเขาก็ต้องสั่นไหว

ความยากลำบากของเขาทั้งหมดนั้นมันเพื่อมู่หลินเสวีย!

หงจุนนั้นยิ้มอ่อนๆ ขึ้นกล่าว “ตอนที่วิญญาณของเจ้าแยกตัวออกไปเรียนรู้ยอดเต๋าจากทุกมุมสวรรค์นั้นข้าก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าคงก้าวขึ้นมาเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ได้แล้ว! เพราะฉะนั้นตอนที่สงครามเผ่าเลือดเริ่มต้นขึ้นข้าจึงได้ไปเอาตัวนางมาไว้ในที่ปลอดภัย นอกจากนั้นข้ายังได้ซ่อมแซมรากวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ของนางให้แล้วด้วย! นี่ถือว่าเป็นของขวัญพบหน้ากันจากพี่เจ้าแล้วกัน!”

เย่หยวนหันไปมองหงจุนพร้อมยกมือขึ้นคารวะทันที “ขอบคุณท่านพี่!”

โลกนี้มันถูกสร้างขึ้นมาจากมือหงจุนแต่เขาก็ไม่คิดจะเข้าไปแทรกแซงความเป็นไปของโลกใดๆ

หากมิใช่เพราะเย่หยวนแล้วเขาย่อมจะไม่คิดปกป้องมู่หลินเสวียแม้แต่น้อย

เย่หยวนมองดูหน้าของมู่หลินเสวียแต่ไม่รู้จะพูดกล่าวอะไรออกมา

มู่หลินเสวียนั้นยังคงสีหน้าเย็นเยือกไว้เช่นเดิมแม้จะได้เจอเย่หยวนอีกครั้งก็ตาม

“หลิน…หลินเสวีย” ตอนนี้ไม่รู้เพราะอะไรแต่เสียงของเย่หยวนนั้นมันกลับสั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

แต่วินาทีจากนั้นมู่หลินเสวียก็ยิ้มกว้างขึ้นมาอย่างหวานหอมราวกับรอยยิ้มนั้นมันต้องการจะละลายโลกทั้งใบลง

“ยินดีด้วยเย่หยวน!”

เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นด้วยความรู้สึกผิดมากมายที่บ่มอยู่ในอก เขาต้องร้องขึ้นกล่าว “หลินเสวีย ข้าขอโทษ! ข้า…”

มู่หลินเสวียนั้นยิ้มตอบกลับไป “เจ้าไม่ต้องขอโทษข้าหรอก ลี่เอ๋อน้องข้า ข้าขออวยพรให้พวกเจ้าทั้งสองรักกันไปชั่วนิรันดร์เถอะ!”

เยวี่ยเมิ่งลี่ที่ได้ยินคำพูดนั้นต้องผงะอ้าปากค้างก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยเสียงสั่นๆ “พี่หลินเสวีย พี่…พี่เข้าใจผิดแล้ว! ข้าขอโทษ…”

แต่มู่หลินเสวียนั้นกลับมือขึ้นลูบหัวเยวี่ยเมิ่งลี่ด้วยรอยยิ้มบางๆ “นังเด็กโง่ ข้านั้นเห็นและรู้ถึงทุกสิ่งอย่างที่เจ้าทำเพื่อเย่หยวน เจ้านั้นไม่ต้องขอโทษใครทั้งสิ้น เจ้าไม่ต้องรู้สึกผิดใดๆ แม้แต่น้อย คนที่ข้ารักนั้นมันคือจี้ฉิงหยุน มิใช่เย่หยวนคนนี้! เขานั้นเป็นของเจ้า เขานั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้า!”

หลังพูดจบนางก็หันไปหาหงจุนอย่างไม่รอให้เยวี่ยเมิ่งลี่ได้ตอบกลับ “ข้าน้อยขอให้ท่านหงจุนช่วยส่งข้ากลับเข้าสู่สังสารวัฏด้วยเถอะ!”

เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องผงะร้องลั่นขึ้นมา “ไม่ได้นะ!”

มู่หลินเสวียนั้นหันกลับมามองหน้าเย่หยวน

แม้ว่าตอนนี้เย่หยวนจะเป็นถึงเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ไปแล้วแต่สายตาของมู่หลินเสวียนั้นมันกลับทำให้เขารู้สึกใจหายวาบไป

“เจ้า…ทำไมกัน!” เย่หยวนได้แต่ยิ้มแห้งๆ ถามออกไป

มู่หลินเสวียตอบกลับมาเบาๆ “เจ้าเองก็น่าจะรู้ว่าต่อให้เจ้าจะเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ไปแล้ว มันก็ยังมีบางสิ่งที่เจ้าไม่อาจควบคุมได้!”

หงจุนที่ได้ข้างนั้นต้องกล่าวขึ้นมาเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า “ลองถามตัวเองดูว่าสิ่งใดคือความรักและชีวิตกับความตาย! เจ้าพูดถูกแล้วต่อให้จะเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์นั้นมันก็ยังมีหลายสิ่งที่ไม่อาจควบคุมได้! อ่า เจ้าคิดดีแล้วใช่หรือไม่?”

มู่หลินเสวียพยักหน้ารับ “ข้าคิดมาดีมากแล้ว!”

หงจุนพยักหน้ารับ “ได้ เช่นนั้นในเมื่อเจ้าอยากจะไปข้าก็…จะไปส่งเจ้าให้แล้วกัน!”

จากนั้นมันก็ปรากฏหลุมดำขึ้นมาบนท้องฟ้า

เย่หยวนนั้นสัมผัสได้เลยว่านี่มันคือยอดเต๋าแห่งวังสารวัฏ

แน่นอนว่านี่มันย่อมจะเป็นประตูแห่งการเกิดใหม่!

มู่หลินเสวียก้มหัวลงกล่าว “ขอบพระคุณท่านหงจุน!”

พูดจบนางก็เดินเข้าไปในหลุมดำนั้น

เยวี่ยเมิ่งลี่ได้แต่ต้องวิ่งเข้ามาเขย่าตัวเย่หยวน “พี่หยวน ทำไมพี่ไม่หยุดนางไว้?”

เย่หยวนถอนหายใจยาวตอบกลับไป “ข้าหยุดไม่ได้!”

“เช่นนั้น…เราจะทำอย่างไรกันดี?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้านั้นเคยได้ไปเกิดใหม่ครั้งหนึ่งและนางก็ได้ไปเกิดใหม่แล้ว ครั้งนี้…มันคงถือว่าเราเท่าเทียมกันแล้ว? ลี่เอ๋อหลังจากเราแต่งงานและจัดการเรื่องราวทั้งหลายจบแล้วเราจะไปออกตามหานางกัน!”

ทุกสิ่งอย่างมันสงบลงไปแต่ศิลาโลหิตนั้นกลับต้องคุกเข่าก้มหัวโขกพื้นต่อหน้าเย่หยวน

“เฒ่า…เฒ่าผู้นี้มีตาหามีแววไม่ไปลบหลู่ท่านเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์! โปรด…ได้โปรดเถิดท่านเทพ ช่วยไว้ชีวิตข้าด้วย!” ศิลาโลหิตกล่าวขึ้นมาด้วยตัวสั่น

เย่หยวนมองดูเขาอย่างไม่คิดสงสารแม้แต่น้อย “ทำเรื่องชั่วช้าไว้มากมันก็มีแต่ต้องรอกรรมตายสนอง! ข้าบอกเจ้าไว้แล้วว่าสวรรค์นั้นจะไม่ทนรับตัวเจ้าไว้! เจ้าคิดว่าแค่ควบคุมเต๋าเดียวได้แล้วจะควบคุมฟ้าดินได้หรือ?”

“ข้า…ข้า…คนร้ายผู้นี้จะขอกลับตัวรับใช้สวรรค์ไปตลอดชีวิต!” ศิลาโลหิตร้องขึ้นอย่างลนลาน

เขานั้นวางแผนไว้นานนับแสนๆ ปีกว่าจะมีวันนี้ได้

เขายังไม่อยากตาย!

แต่ว่าเย่หยวนย่อมไม่คิดจะปล่อยเขาไว้และยกมือขึ้นมาปัดเบาๆ เหมือนแค่ปัดเศษฝุ่นแต่ร่างของศิลาโลหิตมันก็หายไปจากโลกหล้าทันที

หวูเทียนและหลุนฮวยนั้นต้องนั่งคุกเข่าด้วยตัวสั่นเทิ้มอย่างไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ

เย่หยวนมองดูคนทั้งสองก่อนจะกล่าวขึ้น “จากวันนี้ไปพวกเจ้าจงอย่าได้ขึ้นอำนาจปกครองใดๆ อีกและห้ามคิดจะเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ให้สุดด้วย! ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้เจ้าจะเปิดได้เจ้าก็จะได้มาเจอกันข้าคนนี้!”

คนทั้งสองนั้นต้องพยักหน้ารับอย่างไม่มีหยุดเหมือนนักโทษที่ได้รับการอภัยโทษ

เมื่อจบเรื่องราวตรงหน้าไปแล้วหงจุนนั้นก็ยกมือขึ้นมาเปิดใช้งานกลไกสวรรค์ซ่อมแซมสามสิบสามสวรรค์ให้กลับมาเป็นปกติในพริบตา

เมื่อซ่อมแซมเสร็จสิ้นแล้วแน่นอนว่าสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมันย่อมจะกลายเป็นสวรรค์ระดับสูงที่สุดในสามสิบสามสวรรค์ไป

“น้องข้า แม้ว่าเจ้านั้นจะรับรู้ถึงการสร้างโลกได้แล้วแต่เจ้านั้นยังไม่รู้วิธีทำมัน เจ้ากลับไปวังสวรรค์กับข้าก่อนแล้วข้าจะสอนวิธีการสร้างสวรรค์ให้แก่เจ้า! ส่วนญาติหรือสหายของเจ้าทั้งหลายนั้นค่อยรอให้เจ้าสร้างสวรรค์แรกได้ก่อนแล้วค่อยพาพวกเขาไปอยู่ที่แห่งนั้นก็ย่อมได้!” หงจุนกล่าวขึ้น

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ย่อมได้พี่หงจุน เพียงแค่ก่อนจะเริ่มเรื่องนั้นกันข้าขอกลับไปจัดการเรื่องราวในโลกของตัวเองก่อนจะได้หรือไม่?”

หงจุนพยักหน้ารับ “ย่อมได้ เช่นนั้นข้าจะเปิดประตูวังสวรรค์ไว้รอเจ้าเสมอ!”

พูดจบหงจุนนั้นก็เดินผ่านประตูแห่งชีวานิรันดร์ไป

วังสวรรค์นั้นมันอยู่หลังประตูแห่งชีวานิรันดร์นี้

แต่ว่าทั้งวังนั้นมันมีเพียงแค่หงจุนอาศัยอยู่คนเดียวอย่างเดียวดาย!

แต่ตอนนี้เย่หยวนยังมีเรื่องให้ทำอีกมาก

อย่างเช่นกันคืนชีพให้พ่อของเขาจี้เฉินหยัง

วันนี้มันเป็นวันที่จี้เฉินหยังได้คืนชีพกลับมา

และด้วยความสามารถของเย่หยวนในตอนนี้เขาย่อมจะฟื้นคืนความทรงจำให้จี้เฉินหยังได้ไม่ยาก

ในภพเบื้องล่างนั้นตระกูลเย่ได้กลายเป็นตระกูลใหญ่มีตระกูลสาขามากมายเกินนับได้

แต่ก่อนนั้นเย่หยวนได้ผนึกโลกนี้ไว้ไม่ให้มีใครสามารถบรรลุขึ้นไปภพเบื้องบนได้

ในบ้านตระกูลเย่นั้นเย่หยวนได้พบหน้าน้องสาวและหนุ่มสาวรุ่นใหม่ของตระกูลเย่มากมาย

แต่เขานั้นยังไม่กล้าจะบอกพูดความจริงออกไป

ทุกสิ่งอย่างมันต้องรอให้การสร้างสวรรค์ของเขาเสร็จสิ้นก่อน

ในบ้านตระกูลเย่นั้นในที่สุดเย่หยวนก็ได้บอกเรื่องราวความจริงเกี่ยวกับตัวเองให้เย่ฮานและเหรินหงหลินฟัง

ก่อนนั้นเขาไม่กล้าจะบอกเพราะกลัวพวกท่านทั้งสองจะรับไม่ได้

แต่ตอนนี้มันมิใช่แล้ว

เขานั้นได้ช่วยฟื้นคืนชีพตัวเย่หยวนที่แท้จริงผู้ที่เข้าสู่สังสารวัฏไปแล้วให้แก่เย่ฮานและเหรินหงหลินพร้อมคืน ความทรงจำทั้งหลายให้กลับมาสมบูรณ์

ในที่สุดบ้านตระกูลเย่ก็กลับมาพร้อมหน้ากันจริงๆ เสียที

หลังจากที่คืนชีพให้แก่จี้เฉินหยังได้แล้วในที่สุดเย่หยวนก็ได้กอดพ่อแม่พร้อมหน้าเป็นครั้งแรก

จากนั้นเย่หยวนก็ได้ใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบในโลกนั้นไปอีกยาวนานนับร้อยปี

หลังจากนั้นหนึ่งร้อยปีในที่สุดเย่หยวนก็ตัดสินใจพาเยวี่ยเมิ่งลี่ออกเดินทางตามหามู่หลินเสวียที่ได้ไปเกิดใหม่ ต่อไป…
…………………………

จบบริบูรณ์

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3119 เทพเจ้าแห่งการรังสรรค์! (ตอนอวสาน)

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3119 เทพเจ้าแห่งการรังสรรค์! (ตอนอวสาน) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ดาบเดียวของเย่หยวนนั้นกลับทำลายประตูแห่งชีวานิรันดร์ลง?

พวกเขานั้นไม่อาจจะคิดตามได้เลยในเวลานี้

“มัน…จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป? ประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นหายไปแล้ว เรา…เราจะเป็นอย่างไร? แล้วมัน…มันจะ…มันคืออะไร?” ศิลาโลหิตนั้นมองดูเย่หยวนอย่างมึนงงและบ่นพึมพำขึ้นมา

ประตูแห่งชีวานิรันดร์หายไปเช่นนี้แล้วมันย่อมจะทำให้เขาตกตื่นขึ้นอย่างมาก

เพราะว่าโลกที่เขารู้จักนั้นมันดูไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

และเย่หยวนนี่มันกลายเป็นตัวตนระดับใดไปแล้ว?

เย่หยวนนั้นขมวดคิ้วแน่นก่อนที่จู่ๆ ด้านหลังของเขามันจะมีประตูแห่งชีวานิรันดร์อีกบานปรากฏขึ้น

แต่ว่าประตูแห่งชีวานิรันดร์นี้มันพุ่งเข้ามาในร่างของเขาอย่างรวดเร็ว

เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ทันทีว่าในจุดตันเถียนของเขานั้นมันมีอะไรบางอย่างปรากฏขึ้น

“นี่มัน…โลกหรือ?” เย่หยวนนั้นต้องผงะไป

เพราะตั้งแต่ที่เขากลายมาเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตนี้แล้วเขาก็ได้เปลี่ยนโลกใบน้อยภายในตัวเองให้กลายเป็นดาบเต๋าไป

ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่มีโลกภายในอีก

แต่วันนี้ประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันกลับกลายเป็นโลกภายในของเขาไป?

แต่ถ้าจะให้พูดแล้วมันคงเป็นเหมือนเมล็ดของโลกมากกว่าตัวโลกที่สมบูรณ์!

แต่เย่หยวนนั้นสัมผัสได้เลยว่าเมล็ดโลกนี้มันทรงพลังอย่างมากล้น

มันอยู่ในระดับ…เดียวกับสามสิบสามสวรรค์!

และในเวลานั้นเองที่ดาบเต๋าในมือของเขามันกลับกลายเป็นผลึกไป!

จากนั้นผลึกดาบนั้นมันก็พุ่งกลับเข้าร่างของเขาไป

เย่หยวนนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นเพราะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย!

กล้ามเนื้อทุกมัดของเขานั้นมันเหมือนได้เกิดใหม่!

เมื่อร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงจนสมบูรณ์แล้วเย่หยวนก็หันไปมองดูศิลาโลหิตอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายนั้นกลับดูเหมือนแค่มดปลวก

ตอนนี้หากเย่หยวนอยากสังหารนั้นมันไม่ต้องขยับมือเสียด้วยซ้ำไป!

“ข้า…”

เย่หยวนนั้นผงะไปเพราะเขาคิดว่าหลังจบสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะไปแล้วเขายังต้องมาจัดการปัญหากับศิลาโลหิตอีกครั้ง

แต่ตอนนี้เมื่อผ่านสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะมาได้จริงๆ แล้วเขากลับพบว่าอีกฝ่ายนั้นเล็กน้อยไร้ค่าใดๆ

นี่มันน่าตกตะลึงอย่างมาก

ความเปลี่ยนแปลงในร่างของเย่หยวนนี้มันประจักษ์แก่สายตาของทุกผู้คน

ศิลาโลหิตนั้นมองดูเย่หยวนที่มีขนาดร่างเท่ามนุษย์ทั่วไปแต่กลับรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายนั้นเป็นดวงดาวทั้งดวง

ความเปลี่ยนแปลงนี้มันทำให้เขาหวาดกลัวอย่างสุดหัวใจ

ในเวลานั้นเองที่จู่ๆ ห้วงมิติมันก็สั่นไหว

ในความมืดด้านหลังประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันปรากฏสามเงาร่างเดินออกมา

คนทั้งสามนั้นใส่ชุดคลุมยาวพร้อมด้วยเคราขาวยาวลากพื้น ดูราวกับเซียนที่เก็บตัวอยู่ในป่าเขาทำให้คนทั้งหลายไม่อาจจะสัมผัสถึงพลังของคนทั้งสามนี้ได้ชัดเจน

แต่มัน…สัมผัสได้เหมือนเทพลงมาจุติ!

ได้เห็นคนทั้งสามนั้นศิลาโลหิตก็เหมือนได้เห็นฟางเส้นสุดท้ายคุกเข่าลงร้องลั่น “ศิลาโลหิต ทูตแห่งเต๋าสวรรค์ขอคารวะเซียนทั้งสามท่าน! เจ้าบ้านี่มันก้าวผ่านสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะและคิดขึ้นปกครองเต๋าสวรรค์! โปรดลงโทษเจ้าโจรร้ายนี้มันด้วยเถิด!”

แม้ว่าเขานั้นจะไม่รู้ได้ว่าคนทั้งสามนั้นเป็นใครมาจากไหนแต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่งล้ำฟ้าดิน!

หากมันจะมีใครบนโลกนี้ที่หยุดเย่หยวนได้แล้วมันก็คงเป็นคนทั้งสามนี้!

คนทั้งสามนั้นไม่คิดสนใจเสียงร้องของศิลาโลหิตและเดินตรงเข้าไปหาเย่หยวน

เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นและเตรียมตั้งท่ารับมือ

“หยวนซื่อคารวะท่านลุง!”

“หลิงเปาคารวะท่านลุง!”

“เต้าเต๋อคารวะท่านลุง!”

แต่เรื่องราวมันกลับแตกต่างจากความคิดของผู้คนเพราะเซียนทั้งสามคนนั้นกลับก้มลงคุกเข่าต่อหน้าเย่หยวน ราวกับว่าเย่หยวนนั้นเป็นญาติผู้ใหญ่ของตัวเอง

ศิลาโลหิตนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายและขาอ่อนหมดแรงลงทันที เขานั้นไม่เหลือแรงที่จะยืนหยัดอีกต่อไป

สามเซียนล้ำฟ้านั้นกลับมาคุกเข่าเรียกเย่หยวนเป็นลุง!

เรื่องเช่นนี้…

หมี่เทียนและคนอื่นๆ เองก็ต่างเบิกตากว้างขึ้นอย่างตกตะลึง

เย่หยวนนั้นเองก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน เขาคิดไปว่าคนทั้งสามนั้นคงมาเพื่อประกาศโทษแต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายกลับจะคุกเข่าลงกราบเขาแทน

“ลุง?” เย่หยวนขมวดคิ้วถามขึ้น

หยวนซื่อก้มหัวลงตอบ “ขอรับ เราสามพี่น้องนั้นคือผู้ที่ควบคุมดูแลสังสารวัฏให้แก่นายท่าน! ท่านลุงนั้นเป็นผู้ที่ผ่านการทดสอบของสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะและกลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ มีฐานะเท่าเทียมนายท่าน! พวกข้าน้อยย่อมจะต้องเรียกท่านว่าท่านลุง!”

เทพเจ้าแห่งการรังสรรค์!

คำพูดของหยวนซื่อนั้นมันทำให้คนทั้งหลายที่ได้ยินต้องผงะไป

เป็นตอนนี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้รู้ว่าคนทั้งสามนี้เป็นผู้ควบคุมเต๋าสวรรค์อยู่!

และเหนือจากพวกเขาไปนั้นมันยังมีเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์!

ศิลาโลหิตนั้นหมดแรงจะหายใจ!

‘ข้า…ข้าไปท้าทายตัวตนเช่นใดไว้กัน’

เย่หยวนเองก็ตกตะลึงอย่างมากเมื่อได้ยิน

แต่ความเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขานี้ตัวเขาย่อมจะรู้ดีว่าคนทั้งสามนั้นไม่ได้พูดโกหกบิดเบือนใดๆ

“เช่นนั้น…นายของเจ้าเล่า?” เย่หยวนถามขึ้นมา

“ฮ่าๆๆ น้องข้า ข้ารอเจ้ามานานแสนนานในที่สุดเจ้าก็ปรากฏขึ้นมาเสียที! เต๋าของข้า…จะไม่เดียวดายอีกต่อไป!” ก่อนที่เย่หยวนจะทันถามได้จบประโยคมันก็มีอีกร่างหนึ่งเดินออกมาจากความมืดมิดนั้น

ชายหนุ่มคนนี้ดูมีอายุไม่ห่างจากเย่หยวนมากมาย

แต่ว่าเขานั้นคืออะไรกันแน่?

เมื่อคนผู้นี้ก้าวออกมาเขาก็เดินเข้ามาจับมือเย่หยวนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแสนดีใจ

เย่หยวนนั้นมองดูคนผู้มาถึงนี้และกลับรู้สึกเหมือนได้เจอญาติ

ด้วยการตกผลึกของดาบเต๋านั้นร่างกายของเขาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงและมันอยู่ในระดับที่แตกต่างจากคนทั่วไปนัก

เขานั้นอยู่เหนือทุกชีวิต!

แม้แต่ตอนที่พวกหยวนซื่อเดินออกมาเย่หยวนก็ยังไม่รู้สึกว่าพวกเขานั้นอยู่ในระดับเดียวกับตน

มีเพียงแค่ชายหนุ่มตรงหน้าเขานี้เท่านั้นที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นตัวตนในระดับเดียวกัน

“คารวะท่านพี่!”

แม้ว่าเขาจะยังไม่เข้าใจอีกมากแต่เขาก็ยังตอบกลับไป

ชายหนุ่มคนนั้นมองหน้าเย่หยวนอีกครั้งพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง “ข้านั้นมีนามว่าหงจุน ข้านั้นเกิดขึ้นมาก่อนฟ้าดินทั้งหลาย! สามสิบสามสวรรค์นี้เองก็เป็นโลกที่ข้าสร้างขึ้นมา! เจ้านั้นมาจากภพต่ำสุดของมันแต่ตอนนี้เจ้ากลับได้กลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์คนใหม่ จากวันนี้ไปพวกเราจะนับถือกันเป็นพี่น้องไปตลอดกาล! ข้านั้นสร้างสามสิบสามสวรรค์นี้ขึ้นมาและตั้งสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะไว้หวังเพียงแค่ว่ามันจะมีใครก้าวเดินออกมากลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์คนใหม่! แต่มันผ่านมานับล้านๆ ปีก็ยังไม่เคยมีใครได้ขึ้นมาเป็นเทพเจ้าคนใหม่เสียที! แต่ในที่สุดวันนี้มันก็มีเกิดขึ้นมาจนได้!”

แน่นอนว่าการปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวนนั้นมันทำให้หงจุนดีใจอย่างมาก

เพราะในเวลาล้านๆ ปีที่ผ่านมานี้เขาเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์เพียงคนเดียว

ความสูงส่งนั้นมันหนาวเย็นและเดียวดายอย่างมาก!

แต่ตอนนี้เมื่อเย่หยวนได้ขึ้นมาครองบัลลังก์แล้วเขาย่อมจะเหมือนได้คนร่วมเส้นทาง

เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะผงะไปเช่นกัน

ที่แท้แล้วสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะนั้นมันกลับเป็นการทดสอบเพื่อให้ผู้คนได้ก้าวขึ้นมาเป็นเทพเจ้า!

เย่หยวนนั้นนึกย้อนกลับไปจึงถามขึ้นมา “หมายความว่าหากอยากจะขึ้นเป็นเทพเจ้าคนเราจะต้องเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตเท่านั้น?”

หงจุนพยักหน้ารับไปทันที “แน่นอน! เต๋าสวรรค์นั้นมันคือสิ่งที่ข้าสร้างไว้คอยดูแลความสงบเท่านั้น! หากเจ้าไม่กล้าจะขัดขืนเต๋าสวรรค์แล้วมีหรือที่จะกลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ได้? เพราะเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์นั้นคือผู้สร้างกฎขึ้นมา! หากไม่มีความกล้าที่จะแหกกรงออกมาแล้วมันก็จะไม่มีทางกลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ได้! แต่ว่าความกล้าเพียงอย่างเดียวมันก็ไม่พอจะเป็นเทพเจ้าได้ มันต้องมีกำลังที่มากพอด้วย! สามสิบสามทุกข์แห่งหายนะนั้นมันคือการทดสอบที่ข้าตั้งไว้เป็นด่านสุดท้าย! มีเพียงแค่คนที่ผ่านด่านนี้มาได้เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์มาเป็นน้องข้า! แต่ในอดีตนับล้านๆ ปีที่ผ่านมานั้นยอดอัจฉริยะทั้งหลายกลับตายลงไปสิ้นเพราะมัน!”

ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องผงะไปที่แท้แล้วมันเป็นแค่การทดสอบ!

ความตกตะลึงในหัวใจของผู้คนในตอนนี้มันเกิดกว่าที่จะอธิบายออกมาได้!

เพราะไม่มีใครเคยคิดมาก่อนเลยว่าการบ่มเพาะนอกรีตนั้นมันจะเป็นหนทางชี้สู่สวรรค์ที่ถูกต้อง!

ผู้ทำตามสวรรค์เจริญยิ่งใหญ่ ผู้ท้าทายสวรรค์นั้นพบเจอแต่หายนะ มันกลายเป็นแค่เรื่องตลกของผู้อ่อนแอไปทันที!

“ที่แท้มันเป็นเช่นนั้น! ที่แท้เรื่องราวมันเป็นเช่นนี้! การท้าทายสวรรค์นั้นมันคือเต๋าที่แท้จริงของชีวิต!” บนท้องฟ้านั้นหยางชิงร้องลั่นขึ้นมา

จากนั้นมันก็เกิดแรงระเบิดรุนแรงออกมาจากร่างของเขา

พร้อมด้วยพลังในร่างของเขาที่ตกฮวบลงอย่างรวดเร็ว

เย่หยวนมองดูหยางชิงด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น

หงจุนนั้นได้แต่ต้องยิ้ม “เจ้าเด็กคนนี้มันกล้า!”

เย่หยวนนั้นกังวลอยู่ไม่น้อยเพราะว่าเส้นทางของผู้บ่มเพาะนอกรีตนั้นมันไม่ง่ายดาย!

มีเพียงแค่หนึ่งในพันยุคสมัย ในเวลากว่าล้านๆ ปีที่จะเกิดเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์คนใหม่อย่างเย่หยวนขึ้นมา!

เส้นทางของการบ่มเพาะนอกรีตนั้นมันเต็มไปด้วยขวากหนาม

พลาดไปเพียงนิดมันหมายถึงชีวิตทันที

คนมากมายตั้งแต่อดีตปัจจุบันนั้นพวกเขาจะไม่คิดเช่นหยางชิงนี้บ้างหรือ?

แต่มันไม่มีใครกล้าลอง!

เพราะตั้งแต่บรรพกาลมานั้นมันมีเพียงแค่เย่หยวนคนเดียวที่ทำได้สำเร็จ!

ไม่นานนักพลังบ่มเพาะของหยางชิงก็จางหายไปหมดสิ้น ตอนนี้เขามีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นต้น!

เริ่มใหม่กันตั้งแต่ต้น!

“เย่หยวน ข้า หยางชิงผู้นี้คือคู่ปรับตลอดกาลของเจ้า! หากเจ้าเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ได้ ข้าก็เป็นได้!” หยางชิงชี้หอกขึ้นฟ้าและหัวเราะลั่นขึ้นมา

เย่หยวนได้แต่ต้องสูดลมหายใจเข้าลึกและตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ได้ ข้าจะรอเจ้า! วันใดที่เจ้าได้เป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์แล้วเรามาสู้กันใหม่!”

“ฮ่าๆๆ”

หยางชิงหัวเราะลั่นก่อนจะเดินหายลับขอบฟ้าไป

เมื่อเห็นหยางชิงเดินหายลับไปนั้นเย่หยวนก็หันกลับมา “ท่านพี่ เย่หยวนมีเรื่องอยากจะขอร้อง!”

หงจุนนั้นยกมือขึ้นเปิดห้วงมิติด้านหลังด้วยรอยยิ้ม

จากนั้นมันก็มีเงาร่างหนึ่งเดินออกมาจากห้วงมิติ

เมื่อได้เห็นคนผู้นี้ตัวเยวี่ยเมิ่งลี่ก็ยิ้มกว้างวิ่งเข้าไปกอดนางทันที

“พี่หลินเสวีย! พี่…พี่กลับมาแล้ว!” น้ำตาไหลลงมานองหน้านางทันที

เมื่อเย่หยวนได้เห็นมู่หลินเสวียอีกครั้งจิตใจของเขาก็ต้องสั่นไหว

ความยากลำบากของเขาทั้งหมดนั้นมันเพื่อมู่หลินเสวีย!

หงจุนนั้นยิ้มอ่อนๆ ขึ้นกล่าว “ตอนที่วิญญาณของเจ้าแยกตัวออกไปเรียนรู้ยอดเต๋าจากทุกมุมสวรรค์นั้นข้าก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าคงก้าวขึ้นมาเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ได้แล้ว! เพราะฉะนั้นตอนที่สงครามเผ่าเลือดเริ่มต้นขึ้นข้าจึงได้ไปเอาตัวนางมาไว้ในที่ปลอดภัย นอกจากนั้นข้ายังได้ซ่อมแซมรากวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ของนางให้แล้วด้วย! นี่ถือว่าเป็นของขวัญพบหน้ากันจากพี่เจ้าแล้วกัน!”

เย่หยวนหันไปมองหงจุนพร้อมยกมือขึ้นคารวะทันที “ขอบคุณท่านพี่!”

โลกนี้มันถูกสร้างขึ้นมาจากมือหงจุนแต่เขาก็ไม่คิดจะเข้าไปแทรกแซงความเป็นไปของโลกใดๆ

หากมิใช่เพราะเย่หยวนแล้วเขาย่อมจะไม่คิดปกป้องมู่หลินเสวียแม้แต่น้อย

เย่หยวนมองดูหน้าของมู่หลินเสวียแต่ไม่รู้จะพูดกล่าวอะไรออกมา

มู่หลินเสวียนั้นยังคงสีหน้าเย็นเยือกไว้เช่นเดิมแม้จะได้เจอเย่หยวนอีกครั้งก็ตาม

“หลิน…หลินเสวีย” ตอนนี้ไม่รู้เพราะอะไรแต่เสียงของเย่หยวนนั้นมันกลับสั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

แต่วินาทีจากนั้นมู่หลินเสวียก็ยิ้มกว้างขึ้นมาอย่างหวานหอมราวกับรอยยิ้มนั้นมันต้องการจะละลายโลกทั้งใบลง

“ยินดีด้วยเย่หยวน!”

เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นด้วยความรู้สึกผิดมากมายที่บ่มอยู่ในอก เขาต้องร้องขึ้นกล่าว “หลินเสวีย ข้าขอโทษ! ข้า…”

มู่หลินเสวียนั้นยิ้มตอบกลับไป “เจ้าไม่ต้องขอโทษข้าหรอก ลี่เอ๋อน้องข้า ข้าขออวยพรให้พวกเจ้าทั้งสองรักกันไปชั่วนิรันดร์เถอะ!”

เยวี่ยเมิ่งลี่ที่ได้ยินคำพูดนั้นต้องผงะอ้าปากค้างก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยเสียงสั่นๆ “พี่หลินเสวีย พี่…พี่เข้าใจผิดแล้ว! ข้าขอโทษ…”

แต่มู่หลินเสวียนั้นกลับมือขึ้นลูบหัวเยวี่ยเมิ่งลี่ด้วยรอยยิ้มบางๆ “นังเด็กโง่ ข้านั้นเห็นและรู้ถึงทุกสิ่งอย่างที่เจ้าทำเพื่อเย่หยวน เจ้านั้นไม่ต้องขอโทษใครทั้งสิ้น เจ้าไม่ต้องรู้สึกผิดใดๆ แม้แต่น้อย คนที่ข้ารักนั้นมันคือจี้ฉิงหยุน มิใช่เย่หยวนคนนี้! เขานั้นเป็นของเจ้า เขานั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้า!”

หลังพูดจบนางก็หันไปหาหงจุนอย่างไม่รอให้เยวี่ยเมิ่งลี่ได้ตอบกลับ “ข้าน้อยขอให้ท่านหงจุนช่วยส่งข้ากลับเข้าสู่สังสารวัฏด้วยเถอะ!”

เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องผงะร้องลั่นขึ้นมา “ไม่ได้นะ!”

มู่หลินเสวียนั้นหันกลับมามองหน้าเย่หยวน

แม้ว่าตอนนี้เย่หยวนจะเป็นถึงเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ไปแล้วแต่สายตาของมู่หลินเสวียนั้นมันกลับทำให้เขารู้สึกใจหายวาบไป

“เจ้า…ทำไมกัน!” เย่หยวนได้แต่ยิ้มแห้งๆ ถามออกไป

มู่หลินเสวียตอบกลับมาเบาๆ “เจ้าเองก็น่าจะรู้ว่าต่อให้เจ้าจะเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ไปแล้ว มันก็ยังมีบางสิ่งที่เจ้าไม่อาจควบคุมได้!”

หงจุนที่ได้ข้างนั้นต้องกล่าวขึ้นมาเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า “ลองถามตัวเองดูว่าสิ่งใดคือความรักและชีวิตกับความตาย! เจ้าพูดถูกแล้วต่อให้จะเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์นั้นมันก็ยังมีหลายสิ่งที่ไม่อาจควบคุมได้! อ่า เจ้าคิดดีแล้วใช่หรือไม่?”

มู่หลินเสวียพยักหน้ารับ “ข้าคิดมาดีมากแล้ว!”

หงจุนพยักหน้ารับ “ได้ เช่นนั้นในเมื่อเจ้าอยากจะไปข้าก็…จะไปส่งเจ้าให้แล้วกัน!”

จากนั้นมันก็ปรากฏหลุมดำขึ้นมาบนท้องฟ้า

เย่หยวนนั้นสัมผัสได้เลยว่านี่มันคือยอดเต๋าแห่งวังสารวัฏ

แน่นอนว่านี่มันย่อมจะเป็นประตูแห่งการเกิดใหม่!

มู่หลินเสวียก้มหัวลงกล่าว “ขอบพระคุณท่านหงจุน!”

พูดจบนางก็เดินเข้าไปในหลุมดำนั้น

เยวี่ยเมิ่งลี่ได้แต่ต้องวิ่งเข้ามาเขย่าตัวเย่หยวน “พี่หยวน ทำไมพี่ไม่หยุดนางไว้?”

เย่หยวนถอนหายใจยาวตอบกลับไป “ข้าหยุดไม่ได้!”

“เช่นนั้น…เราจะทำอย่างไรกันดี?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้านั้นเคยได้ไปเกิดใหม่ครั้งหนึ่งและนางก็ได้ไปเกิดใหม่แล้ว ครั้งนี้…มันคงถือว่าเราเท่าเทียมกันแล้ว? ลี่เอ๋อหลังจากเราแต่งงานและจัดการเรื่องราวทั้งหลายจบแล้วเราจะไปออกตามหานางกัน!”

ทุกสิ่งอย่างมันสงบลงไปแต่ศิลาโลหิตนั้นกลับต้องคุกเข่าก้มหัวโขกพื้นต่อหน้าเย่หยวน

“เฒ่า…เฒ่าผู้นี้มีตาหามีแววไม่ไปลบหลู่ท่านเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์! โปรด…ได้โปรดเถิดท่านเทพ ช่วยไว้ชีวิตข้าด้วย!” ศิลาโลหิตกล่าวขึ้นมาด้วยตัวสั่น

เย่หยวนมองดูเขาอย่างไม่คิดสงสารแม้แต่น้อย “ทำเรื่องชั่วช้าไว้มากมันก็มีแต่ต้องรอกรรมตายสนอง! ข้าบอกเจ้าไว้แล้วว่าสวรรค์นั้นจะไม่ทนรับตัวเจ้าไว้! เจ้าคิดว่าแค่ควบคุมเต๋าเดียวได้แล้วจะควบคุมฟ้าดินได้หรือ?”

“ข้า…ข้า…คนร้ายผู้นี้จะขอกลับตัวรับใช้สวรรค์ไปตลอดชีวิต!” ศิลาโลหิตร้องขึ้นอย่างลนลาน

เขานั้นวางแผนไว้นานนับแสนๆ ปีกว่าจะมีวันนี้ได้

เขายังไม่อยากตาย!

แต่ว่าเย่หยวนย่อมไม่คิดจะปล่อยเขาไว้และยกมือขึ้นมาปัดเบาๆ เหมือนแค่ปัดเศษฝุ่นแต่ร่างของศิลาโลหิตมันก็หายไปจากโลกหล้าทันที

หวูเทียนและหลุนฮวยนั้นต้องนั่งคุกเข่าด้วยตัวสั่นเทิ้มอย่างไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ

เย่หยวนมองดูคนทั้งสองก่อนจะกล่าวขึ้น “จากวันนี้ไปพวกเจ้าจงอย่าได้ขึ้นอำนาจปกครองใดๆ อีกและห้ามคิดจะเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ให้สุดด้วย! ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้เจ้าจะเปิดได้เจ้าก็จะได้มาเจอกันข้าคนนี้!”

คนทั้งสองนั้นต้องพยักหน้ารับอย่างไม่มีหยุดเหมือนนักโทษที่ได้รับการอภัยโทษ

เมื่อจบเรื่องราวตรงหน้าไปแล้วหงจุนนั้นก็ยกมือขึ้นมาเปิดใช้งานกลไกสวรรค์ซ่อมแซมสามสิบสามสวรรค์ให้กลับมาเป็นปกติในพริบตา

เมื่อซ่อมแซมเสร็จสิ้นแล้วแน่นอนว่าสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมันย่อมจะกลายเป็นสวรรค์ระดับสูงที่สุดในสามสิบสามสวรรค์ไป

“น้องข้า แม้ว่าเจ้านั้นจะรับรู้ถึงการสร้างโลกได้แล้วแต่เจ้านั้นยังไม่รู้วิธีทำมัน เจ้ากลับไปวังสวรรค์กับข้าก่อนแล้วข้าจะสอนวิธีการสร้างสวรรค์ให้แก่เจ้า! ส่วนญาติหรือสหายของเจ้าทั้งหลายนั้นค่อยรอให้เจ้าสร้างสวรรค์แรกได้ก่อนแล้วค่อยพาพวกเขาไปอยู่ที่แห่งนั้นก็ย่อมได้!” หงจุนกล่าวขึ้น

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ย่อมได้พี่หงจุน เพียงแค่ก่อนจะเริ่มเรื่องนั้นกันข้าขอกลับไปจัดการเรื่องราวในโลกของตัวเองก่อนจะได้หรือไม่?”

หงจุนพยักหน้ารับ “ย่อมได้ เช่นนั้นข้าจะเปิดประตูวังสวรรค์ไว้รอเจ้าเสมอ!”

พูดจบหงจุนนั้นก็เดินผ่านประตูแห่งชีวานิรันดร์ไป

วังสวรรค์นั้นมันอยู่หลังประตูแห่งชีวานิรันดร์นี้

แต่ว่าทั้งวังนั้นมันมีเพียงแค่หงจุนอาศัยอยู่คนเดียวอย่างเดียวดาย!

แต่ตอนนี้เย่หยวนยังมีเรื่องให้ทำอีกมาก

อย่างเช่นกันคืนชีพให้พ่อของเขาจี้เฉินหยัง

วันนี้มันเป็นวันที่จี้เฉินหยังได้คืนชีพกลับมา

และด้วยความสามารถของเย่หยวนในตอนนี้เขาย่อมจะฟื้นคืนความทรงจำให้จี้เฉินหยังได้ไม่ยาก

ในภพเบื้องล่างนั้นตระกูลเย่ได้กลายเป็นตระกูลใหญ่มีตระกูลสาขามากมายเกินนับได้

แต่ก่อนนั้นเย่หยวนได้ผนึกโลกนี้ไว้ไม่ให้มีใครสามารถบรรลุขึ้นไปภพเบื้องบนได้

ในบ้านตระกูลเย่นั้นเย่หยวนได้พบหน้าน้องสาวและหนุ่มสาวรุ่นใหม่ของตระกูลเย่มากมาย

แต่เขานั้นยังไม่กล้าจะบอกพูดความจริงออกไป

ทุกสิ่งอย่างมันต้องรอให้การสร้างสวรรค์ของเขาเสร็จสิ้นก่อน

ในบ้านตระกูลเย่นั้นในที่สุดเย่หยวนก็ได้บอกเรื่องราวความจริงเกี่ยวกับตัวเองให้เย่ฮานและเหรินหงหลินฟัง

ก่อนนั้นเขาไม่กล้าจะบอกเพราะกลัวพวกท่านทั้งสองจะรับไม่ได้

แต่ตอนนี้มันมิใช่แล้ว

เขานั้นได้ช่วยฟื้นคืนชีพตัวเย่หยวนที่แท้จริงผู้ที่เข้าสู่สังสารวัฏไปแล้วให้แก่เย่ฮานและเหรินหงหลินพร้อมคืน ความทรงจำทั้งหลายให้กลับมาสมบูรณ์

ในที่สุดบ้านตระกูลเย่ก็กลับมาพร้อมหน้ากันจริงๆ เสียที

หลังจากที่คืนชีพให้แก่จี้เฉินหยังได้แล้วในที่สุดเย่หยวนก็ได้กอดพ่อแม่พร้อมหน้าเป็นครั้งแรก

จากนั้นเย่หยวนก็ได้ใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบในโลกนั้นไปอีกยาวนานนับร้อยปี

หลังจากนั้นหนึ่งร้อยปีในที่สุดเย่หยวนก็ตัดสินใจพาเยวี่ยเมิ่งลี่ออกเดินทางตามหามู่หลินเสวียที่ได้ไปเกิดใหม่ ต่อไป…
…………………………

จบบริบูรณ์

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3119 เทพเจ้าแห่งการรังสรรค์! (ตอนอวสาน)

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3119 เทพเจ้าแห่งการรังสรรค์! (ตอนอวสาน) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ดาบเดียวของเย่หยวนนั้นกลับทำลายประตูแห่งชีวานิรันดร์ลง?

พวกเขานั้นไม่อาจจะคิดตามได้เลยในเวลานี้

“มัน…จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป? ประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นหายไปแล้ว เรา…เราจะเป็นอย่างไร? แล้วมัน…มันจะ…มันคืออะไร?” ศิลาโลหิตนั้นมองดูเย่หยวนอย่างมึนงงและบ่นพึมพำขึ้นมา

ประตูแห่งชีวานิรันดร์หายไปเช่นนี้แล้วมันย่อมจะทำให้เขาตกตื่นขึ้นอย่างมาก

เพราะว่าโลกที่เขารู้จักนั้นมันดูไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

และเย่หยวนนี่มันกลายเป็นตัวตนระดับใดไปแล้ว?

เย่หยวนนั้นขมวดคิ้วแน่นก่อนที่จู่ๆ ด้านหลังของเขามันจะมีประตูแห่งชีวานิรันดร์อีกบานปรากฏขึ้น

แต่ว่าประตูแห่งชีวานิรันดร์นี้มันพุ่งเข้ามาในร่างของเขาอย่างรวดเร็ว

เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ทันทีว่าในจุดตันเถียนของเขานั้นมันมีอะไรบางอย่างปรากฏขึ้น

“นี่มัน…โลกหรือ?” เย่หยวนนั้นต้องผงะไป

เพราะตั้งแต่ที่เขากลายมาเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตนี้แล้วเขาก็ได้เปลี่ยนโลกใบน้อยภายในตัวเองให้กลายเป็นดาบเต๋าไป

ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่มีโลกภายในอีก

แต่วันนี้ประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันกลับกลายเป็นโลกภายในของเขาไป?

แต่ถ้าจะให้พูดแล้วมันคงเป็นเหมือนเมล็ดของโลกมากกว่าตัวโลกที่สมบูรณ์!

แต่เย่หยวนนั้นสัมผัสได้เลยว่าเมล็ดโลกนี้มันทรงพลังอย่างมากล้น

มันอยู่ในระดับ…เดียวกับสามสิบสามสวรรค์!

และในเวลานั้นเองที่ดาบเต๋าในมือของเขามันกลับกลายเป็นผลึกไป!

จากนั้นผลึกดาบนั้นมันก็พุ่งกลับเข้าร่างของเขาไป

เย่หยวนนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นเพราะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย!

กล้ามเนื้อทุกมัดของเขานั้นมันเหมือนได้เกิดใหม่!

เมื่อร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงจนสมบูรณ์แล้วเย่หยวนก็หันไปมองดูศิลาโลหิตอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายนั้นกลับดูเหมือนแค่มดปลวก

ตอนนี้หากเย่หยวนอยากสังหารนั้นมันไม่ต้องขยับมือเสียด้วยซ้ำไป!

“ข้า…”

เย่หยวนนั้นผงะไปเพราะเขาคิดว่าหลังจบสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะไปแล้วเขายังต้องมาจัดการปัญหากับศิลาโลหิตอีกครั้ง

แต่ตอนนี้เมื่อผ่านสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะมาได้จริงๆ แล้วเขากลับพบว่าอีกฝ่ายนั้นเล็กน้อยไร้ค่าใดๆ

นี่มันน่าตกตะลึงอย่างมาก

ความเปลี่ยนแปลงในร่างของเย่หยวนนี้มันประจักษ์แก่สายตาของทุกผู้คน

ศิลาโลหิตนั้นมองดูเย่หยวนที่มีขนาดร่างเท่ามนุษย์ทั่วไปแต่กลับรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายนั้นเป็นดวงดาวทั้งดวง

ความเปลี่ยนแปลงนี้มันทำให้เขาหวาดกลัวอย่างสุดหัวใจ

ในเวลานั้นเองที่จู่ๆ ห้วงมิติมันก็สั่นไหว

ในความมืดด้านหลังประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันปรากฏสามเงาร่างเดินออกมา

คนทั้งสามนั้นใส่ชุดคลุมยาวพร้อมด้วยเคราขาวยาวลากพื้น ดูราวกับเซียนที่เก็บตัวอยู่ในป่าเขาทำให้คนทั้งหลายไม่อาจจะสัมผัสถึงพลังของคนทั้งสามนี้ได้ชัดเจน

แต่มัน…สัมผัสได้เหมือนเทพลงมาจุติ!

ได้เห็นคนทั้งสามนั้นศิลาโลหิตก็เหมือนได้เห็นฟางเส้นสุดท้ายคุกเข่าลงร้องลั่น “ศิลาโลหิต ทูตแห่งเต๋าสวรรค์ขอคารวะเซียนทั้งสามท่าน! เจ้าบ้านี่มันก้าวผ่านสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะและคิดขึ้นปกครองเต๋าสวรรค์! โปรดลงโทษเจ้าโจรร้ายนี้มันด้วยเถิด!”

แม้ว่าเขานั้นจะไม่รู้ได้ว่าคนทั้งสามนั้นเป็นใครมาจากไหนแต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่งล้ำฟ้าดิน!

หากมันจะมีใครบนโลกนี้ที่หยุดเย่หยวนได้แล้วมันก็คงเป็นคนทั้งสามนี้!

คนทั้งสามนั้นไม่คิดสนใจเสียงร้องของศิลาโลหิตและเดินตรงเข้าไปหาเย่หยวน

เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นและเตรียมตั้งท่ารับมือ

“หยวนซื่อคารวะท่านลุง!”

“หลิงเปาคารวะท่านลุง!”

“เต้าเต๋อคารวะท่านลุง!”

แต่เรื่องราวมันกลับแตกต่างจากความคิดของผู้คนเพราะเซียนทั้งสามคนนั้นกลับก้มลงคุกเข่าต่อหน้าเย่หยวน ราวกับว่าเย่หยวนนั้นเป็นญาติผู้ใหญ่ของตัวเอง

ศิลาโลหิตนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายและขาอ่อนหมดแรงลงทันที เขานั้นไม่เหลือแรงที่จะยืนหยัดอีกต่อไป

สามเซียนล้ำฟ้านั้นกลับมาคุกเข่าเรียกเย่หยวนเป็นลุง!

เรื่องเช่นนี้…

หมี่เทียนและคนอื่นๆ เองก็ต่างเบิกตากว้างขึ้นอย่างตกตะลึง

เย่หยวนนั้นเองก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน เขาคิดไปว่าคนทั้งสามนั้นคงมาเพื่อประกาศโทษแต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายกลับจะคุกเข่าลงกราบเขาแทน

“ลุง?” เย่หยวนขมวดคิ้วถามขึ้น

หยวนซื่อก้มหัวลงตอบ “ขอรับ เราสามพี่น้องนั้นคือผู้ที่ควบคุมดูแลสังสารวัฏให้แก่นายท่าน! ท่านลุงนั้นเป็นผู้ที่ผ่านการทดสอบของสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะและกลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ มีฐานะเท่าเทียมนายท่าน! พวกข้าน้อยย่อมจะต้องเรียกท่านว่าท่านลุง!”

เทพเจ้าแห่งการรังสรรค์!

คำพูดของหยวนซื่อนั้นมันทำให้คนทั้งหลายที่ได้ยินต้องผงะไป

เป็นตอนนี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้รู้ว่าคนทั้งสามนี้เป็นผู้ควบคุมเต๋าสวรรค์อยู่!

และเหนือจากพวกเขาไปนั้นมันยังมีเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์!

ศิลาโลหิตนั้นหมดแรงจะหายใจ!

‘ข้า…ข้าไปท้าทายตัวตนเช่นใดไว้กัน’

เย่หยวนเองก็ตกตะลึงอย่างมากเมื่อได้ยิน

แต่ความเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขานี้ตัวเขาย่อมจะรู้ดีว่าคนทั้งสามนั้นไม่ได้พูดโกหกบิดเบือนใดๆ

“เช่นนั้น…นายของเจ้าเล่า?” เย่หยวนถามขึ้นมา

“ฮ่าๆๆ น้องข้า ข้ารอเจ้ามานานแสนนานในที่สุดเจ้าก็ปรากฏขึ้นมาเสียที! เต๋าของข้า…จะไม่เดียวดายอีกต่อไป!” ก่อนที่เย่หยวนจะทันถามได้จบประโยคมันก็มีอีกร่างหนึ่งเดินออกมาจากความมืดมิดนั้น

ชายหนุ่มคนนี้ดูมีอายุไม่ห่างจากเย่หยวนมากมาย

แต่ว่าเขานั้นคืออะไรกันแน่?

เมื่อคนผู้นี้ก้าวออกมาเขาก็เดินเข้ามาจับมือเย่หยวนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแสนดีใจ

เย่หยวนนั้นมองดูคนผู้มาถึงนี้และกลับรู้สึกเหมือนได้เจอญาติ

ด้วยการตกผลึกของดาบเต๋านั้นร่างกายของเขาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงและมันอยู่ในระดับที่แตกต่างจากคนทั่วไปนัก

เขานั้นอยู่เหนือทุกชีวิต!

แม้แต่ตอนที่พวกหยวนซื่อเดินออกมาเย่หยวนก็ยังไม่รู้สึกว่าพวกเขานั้นอยู่ในระดับเดียวกับตน

มีเพียงแค่ชายหนุ่มตรงหน้าเขานี้เท่านั้นที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นตัวตนในระดับเดียวกัน

“คารวะท่านพี่!”

แม้ว่าเขาจะยังไม่เข้าใจอีกมากแต่เขาก็ยังตอบกลับไป

ชายหนุ่มคนนั้นมองหน้าเย่หยวนอีกครั้งพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง “ข้านั้นมีนามว่าหงจุน ข้านั้นเกิดขึ้นมาก่อนฟ้าดินทั้งหลาย! สามสิบสามสวรรค์นี้เองก็เป็นโลกที่ข้าสร้างขึ้นมา! เจ้านั้นมาจากภพต่ำสุดของมันแต่ตอนนี้เจ้ากลับได้กลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์คนใหม่ จากวันนี้ไปพวกเราจะนับถือกันเป็นพี่น้องไปตลอดกาล! ข้านั้นสร้างสามสิบสามสวรรค์นี้ขึ้นมาและตั้งสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะไว้หวังเพียงแค่ว่ามันจะมีใครก้าวเดินออกมากลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์คนใหม่! แต่มันผ่านมานับล้านๆ ปีก็ยังไม่เคยมีใครได้ขึ้นมาเป็นเทพเจ้าคนใหม่เสียที! แต่ในที่สุดวันนี้มันก็มีเกิดขึ้นมาจนได้!”

แน่นอนว่าการปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวนนั้นมันทำให้หงจุนดีใจอย่างมาก

เพราะในเวลาล้านๆ ปีที่ผ่านมานี้เขาเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์เพียงคนเดียว

ความสูงส่งนั้นมันหนาวเย็นและเดียวดายอย่างมาก!

แต่ตอนนี้เมื่อเย่หยวนได้ขึ้นมาครองบัลลังก์แล้วเขาย่อมจะเหมือนได้คนร่วมเส้นทาง

เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะผงะไปเช่นกัน

ที่แท้แล้วสามสิบสามทุกข์แห่งหายนะนั้นมันกลับเป็นการทดสอบเพื่อให้ผู้คนได้ก้าวขึ้นมาเป็นเทพเจ้า!

เย่หยวนนั้นนึกย้อนกลับไปจึงถามขึ้นมา “หมายความว่าหากอยากจะขึ้นเป็นเทพเจ้าคนเราจะต้องเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตเท่านั้น?”

หงจุนพยักหน้ารับไปทันที “แน่นอน! เต๋าสวรรค์นั้นมันคือสิ่งที่ข้าสร้างไว้คอยดูแลความสงบเท่านั้น! หากเจ้าไม่กล้าจะขัดขืนเต๋าสวรรค์แล้วมีหรือที่จะกลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ได้? เพราะเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์นั้นคือผู้สร้างกฎขึ้นมา! หากไม่มีความกล้าที่จะแหกกรงออกมาแล้วมันก็จะไม่มีทางกลายเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ได้! แต่ว่าความกล้าเพียงอย่างเดียวมันก็ไม่พอจะเป็นเทพเจ้าได้ มันต้องมีกำลังที่มากพอด้วย! สามสิบสามทุกข์แห่งหายนะนั้นมันคือการทดสอบที่ข้าตั้งไว้เป็นด่านสุดท้าย! มีเพียงแค่คนที่ผ่านด่านนี้มาได้เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์มาเป็นน้องข้า! แต่ในอดีตนับล้านๆ ปีที่ผ่านมานั้นยอดอัจฉริยะทั้งหลายกลับตายลงไปสิ้นเพราะมัน!”

ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องผงะไปที่แท้แล้วมันเป็นแค่การทดสอบ!

ความตกตะลึงในหัวใจของผู้คนในตอนนี้มันเกิดกว่าที่จะอธิบายออกมาได้!

เพราะไม่มีใครเคยคิดมาก่อนเลยว่าการบ่มเพาะนอกรีตนั้นมันจะเป็นหนทางชี้สู่สวรรค์ที่ถูกต้อง!

ผู้ทำตามสวรรค์เจริญยิ่งใหญ่ ผู้ท้าทายสวรรค์นั้นพบเจอแต่หายนะ มันกลายเป็นแค่เรื่องตลกของผู้อ่อนแอไปทันที!

“ที่แท้มันเป็นเช่นนั้น! ที่แท้เรื่องราวมันเป็นเช่นนี้! การท้าทายสวรรค์นั้นมันคือเต๋าที่แท้จริงของชีวิต!” บนท้องฟ้านั้นหยางชิงร้องลั่นขึ้นมา

จากนั้นมันก็เกิดแรงระเบิดรุนแรงออกมาจากร่างของเขา

พร้อมด้วยพลังในร่างของเขาที่ตกฮวบลงอย่างรวดเร็ว

เย่หยวนมองดูหยางชิงด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น

หงจุนนั้นได้แต่ต้องยิ้ม “เจ้าเด็กคนนี้มันกล้า!”

เย่หยวนนั้นกังวลอยู่ไม่น้อยเพราะว่าเส้นทางของผู้บ่มเพาะนอกรีตนั้นมันไม่ง่ายดาย!

มีเพียงแค่หนึ่งในพันยุคสมัย ในเวลากว่าล้านๆ ปีที่จะเกิดเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์คนใหม่อย่างเย่หยวนขึ้นมา!

เส้นทางของการบ่มเพาะนอกรีตนั้นมันเต็มไปด้วยขวากหนาม

พลาดไปเพียงนิดมันหมายถึงชีวิตทันที

คนมากมายตั้งแต่อดีตปัจจุบันนั้นพวกเขาจะไม่คิดเช่นหยางชิงนี้บ้างหรือ?

แต่มันไม่มีใครกล้าลอง!

เพราะตั้งแต่บรรพกาลมานั้นมันมีเพียงแค่เย่หยวนคนเดียวที่ทำได้สำเร็จ!

ไม่นานนักพลังบ่มเพาะของหยางชิงก็จางหายไปหมดสิ้น ตอนนี้เขามีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นต้น!

เริ่มใหม่กันตั้งแต่ต้น!

“เย่หยวน ข้า หยางชิงผู้นี้คือคู่ปรับตลอดกาลของเจ้า! หากเจ้าเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ได้ ข้าก็เป็นได้!” หยางชิงชี้หอกขึ้นฟ้าและหัวเราะลั่นขึ้นมา

เย่หยวนได้แต่ต้องสูดลมหายใจเข้าลึกและตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ได้ ข้าจะรอเจ้า! วันใดที่เจ้าได้เป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์แล้วเรามาสู้กันใหม่!”

“ฮ่าๆๆ”

หยางชิงหัวเราะลั่นก่อนจะเดินหายลับขอบฟ้าไป

เมื่อเห็นหยางชิงเดินหายลับไปนั้นเย่หยวนก็หันกลับมา “ท่านพี่ เย่หยวนมีเรื่องอยากจะขอร้อง!”

หงจุนนั้นยกมือขึ้นเปิดห้วงมิติด้านหลังด้วยรอยยิ้ม

จากนั้นมันก็มีเงาร่างหนึ่งเดินออกมาจากห้วงมิติ

เมื่อได้เห็นคนผู้นี้ตัวเยวี่ยเมิ่งลี่ก็ยิ้มกว้างวิ่งเข้าไปกอดนางทันที

“พี่หลินเสวีย! พี่…พี่กลับมาแล้ว!” น้ำตาไหลลงมานองหน้านางทันที

เมื่อเย่หยวนได้เห็นมู่หลินเสวียอีกครั้งจิตใจของเขาก็ต้องสั่นไหว

ความยากลำบากของเขาทั้งหมดนั้นมันเพื่อมู่หลินเสวีย!

หงจุนนั้นยิ้มอ่อนๆ ขึ้นกล่าว “ตอนที่วิญญาณของเจ้าแยกตัวออกไปเรียนรู้ยอดเต๋าจากทุกมุมสวรรค์นั้นข้าก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าคงก้าวขึ้นมาเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ได้แล้ว! เพราะฉะนั้นตอนที่สงครามเผ่าเลือดเริ่มต้นขึ้นข้าจึงได้ไปเอาตัวนางมาไว้ในที่ปลอดภัย นอกจากนั้นข้ายังได้ซ่อมแซมรากวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ของนางให้แล้วด้วย! นี่ถือว่าเป็นของขวัญพบหน้ากันจากพี่เจ้าแล้วกัน!”

เย่หยวนหันไปมองหงจุนพร้อมยกมือขึ้นคารวะทันที “ขอบคุณท่านพี่!”

โลกนี้มันถูกสร้างขึ้นมาจากมือหงจุนแต่เขาก็ไม่คิดจะเข้าไปแทรกแซงความเป็นไปของโลกใดๆ

หากมิใช่เพราะเย่หยวนแล้วเขาย่อมจะไม่คิดปกป้องมู่หลินเสวียแม้แต่น้อย

เย่หยวนมองดูหน้าของมู่หลินเสวียแต่ไม่รู้จะพูดกล่าวอะไรออกมา

มู่หลินเสวียนั้นยังคงสีหน้าเย็นเยือกไว้เช่นเดิมแม้จะได้เจอเย่หยวนอีกครั้งก็ตาม

“หลิน…หลินเสวีย” ตอนนี้ไม่รู้เพราะอะไรแต่เสียงของเย่หยวนนั้นมันกลับสั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

แต่วินาทีจากนั้นมู่หลินเสวียก็ยิ้มกว้างขึ้นมาอย่างหวานหอมราวกับรอยยิ้มนั้นมันต้องการจะละลายโลกทั้งใบลง

“ยินดีด้วยเย่หยวน!”

เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นด้วยความรู้สึกผิดมากมายที่บ่มอยู่ในอก เขาต้องร้องขึ้นกล่าว “หลินเสวีย ข้าขอโทษ! ข้า…”

มู่หลินเสวียนั้นยิ้มตอบกลับไป “เจ้าไม่ต้องขอโทษข้าหรอก ลี่เอ๋อน้องข้า ข้าขออวยพรให้พวกเจ้าทั้งสองรักกันไปชั่วนิรันดร์เถอะ!”

เยวี่ยเมิ่งลี่ที่ได้ยินคำพูดนั้นต้องผงะอ้าปากค้างก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยเสียงสั่นๆ “พี่หลินเสวีย พี่…พี่เข้าใจผิดแล้ว! ข้าขอโทษ…”

แต่มู่หลินเสวียนั้นกลับมือขึ้นลูบหัวเยวี่ยเมิ่งลี่ด้วยรอยยิ้มบางๆ “นังเด็กโง่ ข้านั้นเห็นและรู้ถึงทุกสิ่งอย่างที่เจ้าทำเพื่อเย่หยวน เจ้านั้นไม่ต้องขอโทษใครทั้งสิ้น เจ้าไม่ต้องรู้สึกผิดใดๆ แม้แต่น้อย คนที่ข้ารักนั้นมันคือจี้ฉิงหยุน มิใช่เย่หยวนคนนี้! เขานั้นเป็นของเจ้า เขานั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้า!”

หลังพูดจบนางก็หันไปหาหงจุนอย่างไม่รอให้เยวี่ยเมิ่งลี่ได้ตอบกลับ “ข้าน้อยขอให้ท่านหงจุนช่วยส่งข้ากลับเข้าสู่สังสารวัฏด้วยเถอะ!”

เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องผงะร้องลั่นขึ้นมา “ไม่ได้นะ!”

มู่หลินเสวียนั้นหันกลับมามองหน้าเย่หยวน

แม้ว่าตอนนี้เย่หยวนจะเป็นถึงเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ไปแล้วแต่สายตาของมู่หลินเสวียนั้นมันกลับทำให้เขารู้สึกใจหายวาบไป

“เจ้า…ทำไมกัน!” เย่หยวนได้แต่ยิ้มแห้งๆ ถามออกไป

มู่หลินเสวียตอบกลับมาเบาๆ “เจ้าเองก็น่าจะรู้ว่าต่อให้เจ้าจะเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์ไปแล้ว มันก็ยังมีบางสิ่งที่เจ้าไม่อาจควบคุมได้!”

หงจุนที่ได้ข้างนั้นต้องกล่าวขึ้นมาเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า “ลองถามตัวเองดูว่าสิ่งใดคือความรักและชีวิตกับความตาย! เจ้าพูดถูกแล้วต่อให้จะเป็นเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์นั้นมันก็ยังมีหลายสิ่งที่ไม่อาจควบคุมได้! อ่า เจ้าคิดดีแล้วใช่หรือไม่?”

มู่หลินเสวียพยักหน้ารับ “ข้าคิดมาดีมากแล้ว!”

หงจุนพยักหน้ารับ “ได้ เช่นนั้นในเมื่อเจ้าอยากจะไปข้าก็…จะไปส่งเจ้าให้แล้วกัน!”

จากนั้นมันก็ปรากฏหลุมดำขึ้นมาบนท้องฟ้า

เย่หยวนนั้นสัมผัสได้เลยว่านี่มันคือยอดเต๋าแห่งวังสารวัฏ

แน่นอนว่านี่มันย่อมจะเป็นประตูแห่งการเกิดใหม่!

มู่หลินเสวียก้มหัวลงกล่าว “ขอบพระคุณท่านหงจุน!”

พูดจบนางก็เดินเข้าไปในหลุมดำนั้น

เยวี่ยเมิ่งลี่ได้แต่ต้องวิ่งเข้ามาเขย่าตัวเย่หยวน “พี่หยวน ทำไมพี่ไม่หยุดนางไว้?”

เย่หยวนถอนหายใจยาวตอบกลับไป “ข้าหยุดไม่ได้!”

“เช่นนั้น…เราจะทำอย่างไรกันดี?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้านั้นเคยได้ไปเกิดใหม่ครั้งหนึ่งและนางก็ได้ไปเกิดใหม่แล้ว ครั้งนี้…มันคงถือว่าเราเท่าเทียมกันแล้ว? ลี่เอ๋อหลังจากเราแต่งงานและจัดการเรื่องราวทั้งหลายจบแล้วเราจะไปออกตามหานางกัน!”

ทุกสิ่งอย่างมันสงบลงไปแต่ศิลาโลหิตนั้นกลับต้องคุกเข่าก้มหัวโขกพื้นต่อหน้าเย่หยวน

“เฒ่า…เฒ่าผู้นี้มีตาหามีแววไม่ไปลบหลู่ท่านเทพเจ้าแห่งการรังสรรค์! โปรด…ได้โปรดเถิดท่านเทพ ช่วยไว้ชีวิตข้าด้วย!” ศิลาโลหิตกล่าวขึ้นมาด้วยตัวสั่น

เย่หยวนมองดูเขาอย่างไม่คิดสงสารแม้แต่น้อย “ทำเรื่องชั่วช้าไว้มากมันก็มีแต่ต้องรอกรรมตายสนอง! ข้าบอกเจ้าไว้แล้วว่าสวรรค์นั้นจะไม่ทนรับตัวเจ้าไว้! เจ้าคิดว่าแค่ควบคุมเต๋าเดียวได้แล้วจะควบคุมฟ้าดินได้หรือ?”

“ข้า…ข้า…คนร้ายผู้นี้จะขอกลับตัวรับใช้สวรรค์ไปตลอดชีวิต!” ศิลาโลหิตร้องขึ้นอย่างลนลาน

เขานั้นวางแผนไว้นานนับแสนๆ ปีกว่าจะมีวันนี้ได้

เขายังไม่อยากตาย!

แต่ว่าเย่หยวนย่อมไม่คิดจะปล่อยเขาไว้และยกมือขึ้นมาปัดเบาๆ เหมือนแค่ปัดเศษฝุ่นแต่ร่างของศิลาโลหิตมันก็หายไปจากโลกหล้าทันที

หวูเทียนและหลุนฮวยนั้นต้องนั่งคุกเข่าด้วยตัวสั่นเทิ้มอย่างไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ

เย่หยวนมองดูคนทั้งสองก่อนจะกล่าวขึ้น “จากวันนี้ไปพวกเจ้าจงอย่าได้ขึ้นอำนาจปกครองใดๆ อีกและห้ามคิดจะเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ให้สุดด้วย! ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้เจ้าจะเปิดได้เจ้าก็จะได้มาเจอกันข้าคนนี้!”

คนทั้งสองนั้นต้องพยักหน้ารับอย่างไม่มีหยุดเหมือนนักโทษที่ได้รับการอภัยโทษ

เมื่อจบเรื่องราวตรงหน้าไปแล้วหงจุนนั้นก็ยกมือขึ้นมาเปิดใช้งานกลไกสวรรค์ซ่อมแซมสามสิบสามสวรรค์ให้กลับมาเป็นปกติในพริบตา

เมื่อซ่อมแซมเสร็จสิ้นแล้วแน่นอนว่าสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมันย่อมจะกลายเป็นสวรรค์ระดับสูงที่สุดในสามสิบสามสวรรค์ไป

“น้องข้า แม้ว่าเจ้านั้นจะรับรู้ถึงการสร้างโลกได้แล้วแต่เจ้านั้นยังไม่รู้วิธีทำมัน เจ้ากลับไปวังสวรรค์กับข้าก่อนแล้วข้าจะสอนวิธีการสร้างสวรรค์ให้แก่เจ้า! ส่วนญาติหรือสหายของเจ้าทั้งหลายนั้นค่อยรอให้เจ้าสร้างสวรรค์แรกได้ก่อนแล้วค่อยพาพวกเขาไปอยู่ที่แห่งนั้นก็ย่อมได้!” หงจุนกล่าวขึ้น

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ย่อมได้พี่หงจุน เพียงแค่ก่อนจะเริ่มเรื่องนั้นกันข้าขอกลับไปจัดการเรื่องราวในโลกของตัวเองก่อนจะได้หรือไม่?”

หงจุนพยักหน้ารับ “ย่อมได้ เช่นนั้นข้าจะเปิดประตูวังสวรรค์ไว้รอเจ้าเสมอ!”

พูดจบหงจุนนั้นก็เดินผ่านประตูแห่งชีวานิรันดร์ไป

วังสวรรค์นั้นมันอยู่หลังประตูแห่งชีวานิรันดร์นี้

แต่ว่าทั้งวังนั้นมันมีเพียงแค่หงจุนอาศัยอยู่คนเดียวอย่างเดียวดาย!

แต่ตอนนี้เย่หยวนยังมีเรื่องให้ทำอีกมาก

อย่างเช่นกันคืนชีพให้พ่อของเขาจี้เฉินหยัง

วันนี้มันเป็นวันที่จี้เฉินหยังได้คืนชีพกลับมา

และด้วยความสามารถของเย่หยวนในตอนนี้เขาย่อมจะฟื้นคืนความทรงจำให้จี้เฉินหยังได้ไม่ยาก

ในภพเบื้องล่างนั้นตระกูลเย่ได้กลายเป็นตระกูลใหญ่มีตระกูลสาขามากมายเกินนับได้

แต่ก่อนนั้นเย่หยวนได้ผนึกโลกนี้ไว้ไม่ให้มีใครสามารถบรรลุขึ้นไปภพเบื้องบนได้

ในบ้านตระกูลเย่นั้นเย่หยวนได้พบหน้าน้องสาวและหนุ่มสาวรุ่นใหม่ของตระกูลเย่มากมาย

แต่เขานั้นยังไม่กล้าจะบอกพูดความจริงออกไป

ทุกสิ่งอย่างมันต้องรอให้การสร้างสวรรค์ของเขาเสร็จสิ้นก่อน

ในบ้านตระกูลเย่นั้นในที่สุดเย่หยวนก็ได้บอกเรื่องราวความจริงเกี่ยวกับตัวเองให้เย่ฮานและเหรินหงหลินฟัง

ก่อนนั้นเขาไม่กล้าจะบอกเพราะกลัวพวกท่านทั้งสองจะรับไม่ได้

แต่ตอนนี้มันมิใช่แล้ว

เขานั้นได้ช่วยฟื้นคืนชีพตัวเย่หยวนที่แท้จริงผู้ที่เข้าสู่สังสารวัฏไปแล้วให้แก่เย่ฮานและเหรินหงหลินพร้อมคืน ความทรงจำทั้งหลายให้กลับมาสมบูรณ์

ในที่สุดบ้านตระกูลเย่ก็กลับมาพร้อมหน้ากันจริงๆ เสียที

หลังจากที่คืนชีพให้แก่จี้เฉินหยังได้แล้วในที่สุดเย่หยวนก็ได้กอดพ่อแม่พร้อมหน้าเป็นครั้งแรก

จากนั้นเย่หยวนก็ได้ใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบในโลกนั้นไปอีกยาวนานนับร้อยปี

หลังจากนั้นหนึ่งร้อยปีในที่สุดเย่หยวนก็ตัดสินใจพาเยวี่ยเมิ่งลี่ออกเดินทางตามหามู่หลินเสวียที่ได้ไปเกิดใหม่ ต่อไป…
…………………………

จบบริบูรณ์

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+