[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า 143 องค์ที่ 5 กำเนิดจอมมาร – [บทศูนย์] เกิด
…200 ปี
ใช้เวลาน้อยมากเลยนะคะ ยังไม่ถึง 1 ใน 10 ของเวลา 3,000 ปีเลย
ขนาดเวลาสั้นๆ แค่นี้ ฉันเองก็ยังเหนื่อยเลยนะคะ
ฉันไม่มีริงกะคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ถึงฉันจะมีเพื่อนๆ อย่างฟรานอยู่รอบตัวก็ตาม และฉันเองก็สนุกที่ได้มีทุกคนอยู่ด้วยก็เถอะ แต่พอฉันต้องอยู่คนเดียวทีไร ข้อเท็จจริงที่ว่า ที่นี่ ฉันไม่มีริงกะอยู่ด้วย มันก็ทำให้ฉันเกือบจะร้องไห้อยู่ตลอดเลย
ฉันเคยคิดอยากจะปล่อยทุกอย่างทิ้งไป แล้วตามไปอยู่กับริงกะตั้งหลายครั้งเลยด้วยซ้ำ
“ขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ ที่ใช้เวลานานขนาดนี้ เราทำทุกอย่างจนสุดขอบเขตกฎเกณฑ์ของเทพ ผสมข้อมูลยีนของเธอและริงกะเข้าด้วยกัน ผสานวิญญาณ ประมวณข้อมูล และปกป้องส่วนผสมนั้นเอาไว้จนกระทั่งเสถียรพอจะเกิดขึ้นมาเป็นชีวิตได้… เป็นงานหนักใช่เล่นเลยล่ะ”
หลังจากที่ท่านพูดออกมาแบบนั้น ในมือของท่านอิซึสึก็มีลูกแสงสีม่วงสวยงามปรากฏขึ้นมา
“นี่คือวิญญาณของเด็กคนนั้น ลูกจากการผสานวิญญาณของเธอกับริงกะ เป็นเพศหญิงนะคะ กายเนื้อของเธอนั้นถูกสร้างขึ้นแล้วจากข้อมูลยีน หลังจากนั้น ถ้าเอาวิญญาณนี้เข้าสู่ร่างกายเนื้อ ก็จะให้กำเนิดชีวิตใหม่ขึ้นมาได้ค่ะ”
ไม่ได้แปลว่าฉันจะตั้งท้องเหรอคะ?
“เราเคยคิดจะทำแบบนั้นนะคะ แต่แบบนั้น เธอจะไม่สามารถใช้แรงมากได้เป็นเวลาซักพักใหญ่เลย คงเป็นปัญหาใหญ่กับเธอที่เป็นผู้บัญชาการที่แข็งแกร่งที่สุดในกองทัพจอมมารได้ค่ะ”
สเตตัสของฉันตอนนี้ก็ทะลุ 100,000 ไปแล้ว
นอกจากฉันแล้ว คนเดียวที่พอจะต่อกรกับฉันได้ก็คงมีแค่ฟรานที่มีแค่พลังเวทที่แกร่งกว่าฉัน และเป็นขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของกองทัพจอมมารก็เท่านั้นแหละค่ะ
ขนาดฟลูเรเทียหรือดีเชก็เทียบฉันไม่ได้เลยตอนนี้
“เพราะอย่างนั้น เราเลยจะสร้างเธอขึ้นมาเลยค่ะ… สิ่งที่เหลือก็มีแค่ชื่อเท่านั้น เลือกไว้แล้วหรือยังคะ?”
เรื่องนั้น ฉันมีชื่ออยู่ในใจอยู่แล้วค่ะ
“นี่ๆ ฟิลิสจัง ถ้าพวกเรามีลูกกัน อยากได้ลูกชายหรือลูกสาวล่ะ?”
“…อยู่ๆ ถามอะไรขึ้นมาน่ะ พวกเราทั้งคู่เป็นผู้หญิงนะ มีลูกกันไม่ได้ซักหน่อย”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย แค่ใช้เวทมนตร์นิดหน่อยก็ได้นี่”
“จะทำอะไรแบบนั้นได้หรือเปล่านะ”
“ยังไงก็เถอะ อยากได้แบบไหนล่ะ? ฉันอยากได้ลูกสาวนะ”
“…ก็ สำหรับฉันเนี่ย จะยังไงก็ได้นั่นแหละ แต่ถ้าบังคับว่าต้องเลือกจริงๆ ก็คงลูกชายล่ะมั้ง”
“อาเระ ทำไมถึงอยากได้ลูกชายล่ะ?”
“ก็นะ ฉันอยากให้ลูกเป็นเด็กที่แข็งแกร่งนี่นา!”
“จะฟิลิสจัง ฟรานจัง หรือฟลูเรเทียจังก็เป็นเด็กผู้หญิงกันหมด แต่ทุกคนก็แข็งแกร่งกันหมดเลยไม่ใช่หรือไงเล่า?”
“…แล้วเธอล่ะ ริงกะ ทำไมถึงอยากได้ลูกสาวล่ะ?”
“ฉันเหรอ? ก็น้า~ ฉันอยากให้ลูกใส่เสื้อผ้าน่ารักน่าร้าก~ อยากออกไปเลือกซื้อของด้วยกัน~ แล้วก็ ถ้าเป็นลูกสาวของฟิลิสจังล่ะก็ ต้องเป็นเด็กที่โตมาสวยมากแน่ๆ เลยล่ะ!”
“เธอนี่ บางทีก็เชื่อมั่นในตัวเองมากเลยนะเนี่ย แต่ ก็ยอมรับนะว่าต้องเป็นเด็กที่น่ารักแน่นอนเลย”
“อีกอย่างนึง ฉันคิดชื่อไว้เลยนะ!”
“เร็วไปแล้ว!? แถมไม่ถามฉันเลยเหรอ!”
“เอ๋~? ก็ฟิลิสจังไม่มีเซนส์การตั้งชื่อเลยนี่นา วันนั้น ตอนที่เธอไปตั้งชื่อแมวสีดำของเพื่อนบ้านว่า ‘สัตว์วิญญาณปีกทมิฬ ดาร์กบีสต์’ เนี่ย จนถึงตอนนี้ ฉันยังไม่เข้าใจเลยนะ”
“ช- ชื่อนั่นมันไม่ดีตรงไหนเล่า! เท่ดีออก!?”
“ไม่ได้เรื่องเลย”
“ว่าไงน้า!?”
“ยังไงก็เถอะ ชื่อไง! ชื่อ! เดี๋ยวก่อนน้า―”
“ม- มันใช้ได้อยู่นะ… เท่ออก… อัจฉริยะอย่างฉันเป็นคนคิดเลยนะ…”
“ถ้าเป็นลูกชาย ให้ชื่อ ‘ฮิวริ’ แล้วกัน ส่วนถ้าเป็นลูกสาวล่ะก็……”
…มิเนีย
นี่แหละค่ะ ชื่อของเด็กคนนี้
“เป็นชื่อที่ริงกะตั้งเอาไว้สินะคะ เราก็เห็นว่าเป็นชื่อที่ดีเลย”
ก็ ฉันก็ยังสะเทือนใจกับที่เธอล้อเรื่องเซนต์การตั้งชื่อของฉันอยู่เลยค่ะ
“ธ- เธอคิดว่าชื่อนั้นเท่อย่างนั้นเหรอคะ… เอาเป็นว่า พวกเราช่างเรื่องนั้นไปก่อนแล้วกัน ถ้าอย่างนั้น… เราจะส่งกายและจิตของเด็กคนนี้ลงไปโลกเบื้องล่างเลยนะ”
พอพูดจบ ท่านอิซึสึก็ปล่อยลูกบอลในมือลงบนพื้น (?)
บอลลูกนั้นก็ร่วงลงมาอย่างที่ควรจะเป็น ก่อนจะทะลุพื้น (??) ไป และหล่นไปไกลลิบตา
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
…ในที่สุด
ผ่านไป 200 ปี เวลานี้ก็มาถึงจนได้สินะคะ
“…เราผลักภาระหนักให้เธอแท้ๆ แถมยังฟื้นคืนชีพให้ริงกะไม่ได้ในตอนนี้อีก นี่คือสิ่งที่เราพอจะทำได้ดีที่สุดในตอนนี้แล้วค่ะ”
…ท่านอิซึสึคะ
ขอบพระคุณมากนะคะ ฉันดีใจมาก ดีใจมากจริงๆ ค่ะ
“ค่ะ… นี่ก็ใกล้ถึงเวลาแล้ว เราเคลื่อนย้ายเด็กคนนั้นไปไว้ใกล้จุดที่เธอจะตื่นแล้ว โปรดเลี้ยงดูเธออย่างเหมาะสมด้วยนะคะ”
รู้แล้วค่ะ
ฉันจะดูแลเธออย่างเหมาะสม… เผื่อในส่วนของริงกะด้วยค่ะ
พอตื่นขึ้น ก็อยู่บนในเตียงในห้องของตัวเองแล้ว
ทันใดนั้น เราก็รีบผุดตัวขึ้นเลย
“อยู่ไหนนะ…”
อยู่ที่ไหนกัน
ท่านอิซึสึบอกว่าท่านเคลื่อนย้ายมาอยู่ใกล้ๆ กับเราเลยนี่นา
เพราะฉะนั้น เป็นไปได้มากเลยว่าเธอน่าจะอยู่ในห้องๆ นี้
“อ้า― อ้า―”
พอเรามองดูที่บนเตียง ก็เห็นว่ามีเด็กทารกนอนอยู่ข้างๆ แล้ว…
“อ- อ๊ะ… อ่าาาาา……!”
“อ้า― อ้า―”
ผมสีขาวเหมือนกับริงกะเลย ตาสีแดงตามเอกลักษณ์ของแวมไพร์ แล้วก็ฟันคู่ตามกรรมพันธุ์ [เด็กที่เป็นดั่งอัญมณี] นี่แหละคือเด็กคนนี้เลย
สัมผัสได้เลย เค้าโครงของริงกะ แล้วก็เลือดของฉันเอง
พอค่อยๆ อุ้มเธอขึ้นมา เด็กคนนี้ก็หยุดร้อง ก่อนจะขดตัวซุกเข้ามาหา
“น่ารัก… น่ารักมากๆ เลย…! มั่นใจเลยล่ะ ลูกต้องโตขึ้นแล้วดูเหมือนกับริงกะแน่นอน…!”
“คิย่า! คิย่า!”
นี่เรา ร้องไห้อยู่งั้นเหรอ
ตลอด 200 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ริงกะจากไป ก็ไม่ได้ร้องไห้เลยนี่นา
เรา ต้องเลี้ยงดูเด็กคนนี้ เพื่อริงกะด้วย
จะต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ได้
ขอสาบานต่อริงกะเลย
ดังนั้น เด็กคนนี้คือแวมไพร์พิเศษที่เทพชั่วร้าย ท่านอิซึสึเป็นผู้สร้างชีวิตขึ้น มิเนีย ดาร์กลอร์ด
เราร้องไห้อยู่เงียบๆ เป็นครั้งแรก อยู่ในห้องภายในโลกมาร
“จ๊ะเอ๋~ จ๊ะเอ๋~ นี่พี่ฟรานเองจ้า~!”
“คิย่า! คิย่า! ”
“ด- เด็กคนนี้คือลูกสาวของท่านจอมมาร กับสาวสวยโลลิอกโตอย่างริงกะที่ลือกันสินะคะ…”
“?… ?? ”
“…วีเนล แกมาตรงนี้เดี๋ยวนี้เลย”
“ม- ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่ล้อเล่นเอง อย่าเรียกฉันด้วยน้ำเสียงตึงเครียดแบบนั้นสิคะ มันน่ากลัวนะ”
“เราจะสอนให้แกได้รู้ซึ้งเลยว่า ในโลกนี้ มันมีเรื่องที่แก้ปัญหาด้วยคำว่าแค่ล้อเล่นไม่ได้อยู่”
“เดี๋ยวค่-…”
ต้องทำให้มั่นใจว่า ยัยลามกโรคจิตนั่นจะไม่ได้เข้าใกล้มิเนียอีกเป็นครั้งที่ 2
หลังจากเช็ดน้ำตาและตรวจดูสภาพร่างกายของมิเนียแล้วว่ามีความผิดปกติตรงไหนมั้ยเรียบร้อย เราก็พาตัวมิเนียออกมาให้ผู้บริหารรุ่นบุกเบิกทุกคนได้เจอ
บอกได้เลยว่า ทุกคนอึ้งกันหมด
และที่ทำให้เราประหลาดใจมากคือ ฟรานเข้าหาเด็กเล็กได้เก่งมากอย่างไม่น่าเชื่อเลย
ตอนแรก เราเข้าใจว่าคงเป็นเพราะอายุของจิตใจที่ใกล้เคียงกัน แต่พอมาลองคิดดูดีๆ แล้ว เธอคนนี้มีน้องสาวที่เด็กกว่าตัวเองประมาณ 10 ปีอยู่ด้วย
แต่ถึงยังไง อายุของจิตใจก็ใกล้กันมากจริงๆ นั่นแหละ
“อุแว้― อุแว้―”
“อาเระ? เข้ามาหาฉันด้วยเหรอ…? ปกติ อันเดดจะถูกเด็กๆ เกลียดเพราะพลังเวทน่าขนลุกที่แผ่ออกมานะ…! ท่านจอมมารคะ! เด็กคนนี้ต้องโตไปเป็นคนใหญ่คนโตได้แน่นอนเลยค่ะ!”
“วะฮะฮะฮ่า! เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว! เธอเป็นลูกสาวของเรากับริงกะเลยนะ จริงมั้ย?”
“น่ารักจัง… ดิฉันกับวีจังก็…”
“ว่าไงนะ เลตตี้! ช่วยพูดประโยคเมื่อกี้ซ้ำอีกซักทีนึงได้หรือเปล่า!?”
ก่อนที่ยัยนั่นจะทันได้เปิดปากพูดอะไรอีก เราก็เตะยัยปีศาจโรคจิตที่เป็นเหมือนกลุ่มก้อนของสิ่งชักจูงไปในทางที่ไม่ดีออกไป และอุ้มมิเนียขึ้นมา
“เฮ่ ดีเช คอยคุมยัยโรคจิตนี่เอาไว้ให้ดีๆ ล่ะ ปิดปากยัยนั้นเอาไว้ให้สนิทที… ทีนี้ เหตุผลที่เรียกทุกคนมาเนี่ย ไม่ใช่เพราะเราอยากจะอวดเรื่องของมิเนียหรอกนะ”
(แต่บางที เราก็อาจจะอยากอวดจริงๆ ก็ได้…)
“ที่จริง เรามีเรื่องอยากจะหารือหน่อยน่ะ”
“หารือเหรอ?”
“อย่าถามกลับมาแบบนั้นสิ… เราอยากจะฝากให้พวกเธอดูแลงานของกองทัพจอมมารให้ที ไม่นานหรอก”
“แสดงว่า ฟิลิสจะออกไปไหนซักพักสินะ? จะไปไหนเหรอ?”
“อา”
เป็นที่ที่เราคิดจะไปมาหลายปีแล้วล่ะ
เพราะเราเอาแต่หลอกตัวเองว่า ‘งานของจอมมารมันยุ่งจนรัดตัวไปหมด’ จนยังติดสินใจไปไม่ได้ซักที
แต่ตอนนี้ สถานการณ์ของกองทัพจอมมารเองก็ค่อนข้างมั่นคงดีแล้วด้วย แถมยังมีเรื่องของมิเนียเป็นโอกาสดีๆ ด้วย
บางที นี่อาจเป็นจังหวะที่เหมาะสมแล้วก็ได้
“เราคิดว่า… ควรจะกลับไปที่หมู่บ้านแวมไพร์ซักครั้งน่ะ”
TN: ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r
Comments