[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า 153 องค์ที่ 5 กำเนิดจอมมาร – [บทศูนย์] แยกทางกับคนที่ 4
ผ่านมาเกือบเดือนนึงแล้วตั้งแต่ที่เราเจอกับชายที่เรียกชื่อของตัวเองว่ารีเวลซ์ แต่เราก็ยังเอาชื่อมันออกจากหัวไปไม่ได้ซะที
“…[ผู้กล้า] รีเวลซ์ ผู้กล้างั้นเหรอ?”
ผู้กล้าเป็นตัวตนที่เรียกได้ว่าความหวังของมนุษยชาติ ที่ครั้งนึงเคยเป็นพลังของเจ้าวีเรนที่ฆ่าริงกะสินะ
อาชีพที่เทียบเท่ากับจอมมาร เสริมความเข้ากันได้กับเวทมนตร์ธาตุทั้งหมด เสริมพรสวรรค์ขึ้นอีกมาก และยังมีพลังอื่นๆ อีกอย่างการปลดขีดจำกัดเลเวล
จริงๆ แล้ว ในหลายร้อยปีที่ผ่านมา ก็มีมนุษย์ที่ประกาศตัวว่าตัวเองเป็นผู้กล้ามาแล้วตั้ง 3 คนก่อนหน้าเจ้ารีเวลซ์ แถมเจ้าพวกนั้นทุกคนก็สร้างความเสียหายอย่างหนักกับกองทัพจอมมารเหมือนกันเลยด้วย
“มีอะไรที่เราพอจะทำได้หรือเปล่านะ…?”
ก็อย่างว่า หมอนั่นแข็งแกร่งเกินกว่าระดับของพวกผู้กล้าที่เคยโผล่หัวกันมาก่อนหน้านี้ลิบลับเลย ไม่รู้เลยว่าแม้แต่ฟลูเรเทียจะชนะเจ้านั่นได้หรือเปล่า
ในกองทัพจอมมาร คงมีแค่เรากับฟรานล่ะมั้งที่สามารถลบมันออกไปได้อย่างไม่มีปัญหาน่ะ
“แต่ว่า เราจะให้ฟรานอยู่แต่ในสถานะเตรียมพร้อมอยู่ตลอดก็คงไม่ได้ด้วย… อืม เอาไงดี…”
*――― ก็อก ก็อก*
“ท่านจอมมาร วีเนลค่ะ”
“อา ว่าไง?”
“……ได้เวลาแล้วค่ะ”
“หือ? …อ่า คงได้เวลาแล้วสินะ”
วันนี้เป็นวันที่เราไม่อยากให้มาถึงเลย
ที่เราเอาแต่คิดเรื่องงาน อาจจะเพราะแค่อยากหนีจากความเป็นจริงเฉยๆ ก็ได้
“ดีเชกับเนล ทั้งคู่เตรียมพร้อมแล้วค่ะ”
“อา จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”
นั่นสินะ
วันนี้ เป็นวันที่ดีเชกับเนลจะถอนตัวจากกองทัพจอมมารนี่นา
การโจมตีของ [ผู้กล้า] รีเวลซ์ กัดทำลายดีเชกับเนลไปมากกว่าที่คิดซะอีก
ถึงเราจะพอหักล้างได้ระดับนึง แต่ก็แค่พอช่วยไม่ให้พวกเธอ 2 คนสลายไปก็เท่านั้น พวกเธอเสียพลังส่วนมากไปจนถึงระดับที่แม้แต่เวทมนตร์ความมืดก็รักษาพวกเธอไม่ได้แล้ว
ตอนนี้ พลังของพวกเธออยู่แค่ระดับผู้หญิงธรรมดาที่มีสเตตัสแค่เลขหลักเดียวเท่านั้นเอง
เพราะยังไงเธอก็ยังมีพลังของลีชอยู่ เราก็รั้งเธอไว้ บอกว่าแค่นั้นก็พอแล้ว แต่ดีเชก็ยังยืนกรานว่าคนที่สู้ไม่ไหวแล้วก็ไม่ควรจะไปยืนในสนามรบ สุดท้าย พวกเธอก็ยังยืนยันที่จะเกษียณตัวเอง
ตอนนี้ เพราะพลังของลีชของเธอถูกส่งไปให้กับคนอื่นแล้ว ดีเชก็เลยกลายเป็นอันเดดระดับต่ำที่เป็นอมตะโดยสมบูรณ์ก็เท่านั้นเอง
แล้วก็ คนที่ได้เป็นลีชต่อจากเธอก็คืออดีตมนุษย์ผู้ศรัทธาในท่านอิซึสึ ผู้ชายที่ชื่อว่าเซดที่ดีเชคืนชีพขึ้นมาในฐานะอันเดดในท้ายที่สุด
เขาร้องไห้ดีใจใหญ่เลยที่ได้เกิดใหม่เป็นเผ่ามาร ไม่สิ เรียกเกิดใหม่ก็คงไม่ถูก เพราะเขาก็ตายอยู่นี่นา แถมน้ำตาก็ไม่ไหลออกมาเลยด้วยเพราะมันแห้งไปหมดแล้ว
“ถ้างั้น ทุกคน ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมานาน จริงๆ นะ ตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา ราบรื่นมากๆ เลย”
“…งั้นเหรอ ต้องไปแล้วจริงๆ สินะ หลังจากนี้ที่นี่ต้องเงียบเหงาแน่ๆ เลย”
“ไม่หรอก เค้าไม่คิดว่ามันจะเงียบเหงาได้หรอกนะ ก็ที่นี่มีคุณฟรานอยู่ด้วยนี่นา”
“ฉันก็ว่างั้นเหมือนกัน”
“อะฮะฮะ เขินจังเลย~”
รู้ตัวใช่มั้ยว่าเขาไม่ได้ชมเธออยู่น่ะ
เขาจะบอกว่าเธอทำตัวโหวกเหวกตลอดไงเล่า
ดีเชกับเนลมาเก็บข้าวเก็บของ และถอดชุดนักบุญสีดำขลับที่เธอสวมอยู่ตลอดออกแล้ว ตอนนี้เธอก็สวมเสื้อคู่ขนสัตว์ถักสีเทา แล้วก็กอดคลอเคลียกันอยู่
เบื้องหลังโลกมารนี้ พวกเราก็มาบอกลาพวกเธอกันเงียบๆ
เราบอกผู้บริหารคนอื่นๆ และชาวเมืองไม่ได้ว่าพวกเธอ 2 คนจะจากไปกันวันนี้แล้ว ถ้าวีรสตรีของกองทัพจอมมารอย่างดีเช กับคู่รักของเธออย่างเนลจะถอนตัวและออกจากกองทัพจอมมารไปล่ะก็ คงมีพวกคนอาลัยอาวรไม่อยากให้พวกเธอไป จนไม่ได้ออกจากเขตแดนนี้กันพอดี
คนที่อยู่ตรงนี้ ก็เลยมีแค่เรา เนล และผู้บริหารยุคบุกเบิกเท่านั้น
“เราคิดว่าดีเชที่ไม่มีอายุขัยจะอยู่กับเราไปตลอดซะอีก… แล้วจากนี้ พวกเธอจะทำอะไรต่อล่ะ?”
“ตอนนี้พวกเราก็ทำอะไรกันไม่ได้มากแล้วด้วย เพราะงั้นก็คงไม่ออกไปไหนหรอก ฉันซื้อบ้านหลังนึงที่แยกตัวอยู่ในป่าเอาไว้น่ะ ก็วางแผนไว้ว่าจะไปอยู่กันที่นั่นนี่แหละ”
“อาระ ดีจังเลยนะ แยกจากโลกภายนอก เป็นโลกส่วนตัวของแค่พวกเธอ 2 คนเลย โรแมนติกจัง ถ้าเป็นไปได้ ตอนที่ดิฉันเกษียณแล้ว ก็อยากไปใช้ชีวิตอยู่ในที่เงียบๆ ในที่ที่ไม่มีใครมาเจอตัวเหมือนกันนะ”
“ทำไมพูดแบบนั้นแล้วหันมามองที่ฉันด้วยล่ะ? ก็เคยบอกแล้วนี่ว่าเลตตี้โตขึ้นแล้วแบบนี้น่ะไม่โมเอะเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว เพราะงั้น หลังจากเกษียณไป จะอยากอยู่คนเดียวหรือยังไงก็ไม่เป็นไรแล้วน่ะ”
“พอมาคิดดูดีๆ แล้ว เธอนี่เลวที่สุดแล้วนะ วีเนล”
“ในฐานะผู้รับผิดชอบวางแผนกลยุทธ์แล้ว คำว่าเลวทราม ขี้ขลาด และชั่วช้าเนี่ย ถือเป็นคำชมสำหรับฉันเลยค่ะ”
คือเราไม่ได้หมายเรื่องเล่ห์กลศึก แต่หมายถึงสามัญสำนึกของเธอต่างหาก
“เฮ้อ… เอาเถอะ สำหรับเธอ จะบอกว่าบ้าหรืออะไรก็คงสายเกินไปแล้วล่ะ”
“เอ๋”
ฉันหันกลับไปหาดีเชกับเนลอีกครั้ง
“ดีเช เนล จนถึงตอนนี้ คงลำบากกันมากจริงๆ สินะ ต้องขอบคุณพวกเธอเลย กองทัพจอมมารถึงได้พ้นจากอันตรายมาได้ไม่รู้กี่ครั้ง เราเสียใจนะที่พวกเธอ 2 คน เพื่อนที่รู้จักกันมานานที่สุดคนนึง จะต้องจากไป แต่… เราก็จะพยายามเต็มที่ต่อไปนั่นแหละ… ทุกอย่างที่ผ่านมา ขอบคุณมากจริงๆ นะ”
“ด้วยความยินดีค่ะ ต้องขอโทษจริงๆ ที่เผ่าอันเดดที่ท่านอิซึสึสร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนท่านจอมมารอย่างฉันกลับต้องเกษียณไปตั้งแต่เนิ่นๆ แบบนี้”
“ข- ขอโทษด้วยค่ะ ที่มีพลังไม่เพียงพอ…”
“เราไม่คิดยังงั้นนะ นั่นมันศัตรูที่แกร่งขนาดที่ฟรานยังอาจจะตึงมือเลยนี่นา เจ้านั่นน่ะ รู้ใช่มั้ย? เพราะงั้นก็ไม่ต้องกังวลแบบนั้นหรอก”
พลังเวทของฟรานตอนนี้ทะลุ 150,000 ไปแล้วเรียบร้อย
เลเวลก็ 253 แถมยังได้เสริมพลังเข้าไปด้วยสมบัติศักดิ์สิทธิ์ ‘คทาราชัน ฮาติ’ อีก
แถม ฟรานยัง ‘เรียนรู้เวทมนตร์ได้ทุกประเภท นอกจากเวทเสริมแกร่งทางกายภาพ’ ด้วย
ถึงเธอจะใช้ {เวิร์ล ทริป (บาเรียต่างมิติ)} ไม่ได้ เพราะมันไม่สามารถใช้ได้ถ้าไม่มีพลังของเทพแห่งการคุ้มครองก็เถอะ แต่เวทอื่นแทบทุกอย่าง เธอก็ใช้ได้สมบูรณ์แบบเลย
ดีเชที่เป็นฝ่ายสนับสนุนกำลังพลน่ะ ไม่มีทางเอาชนะชายที่ชื่อรีเวลซ์ ที่มีพลังพองัดกับฟรานคนนั้นได้อยู่แล้ว
“เธอทำได้เพียงพอแล้วล่ะ ไม่ต้องรู้สึกอายอะไรเลย”
“นั่นสิ! ก็ วางใจได้เลยนะ ถ้าชั้นเจอเจ้า… รีฟๆ อะไรซักอย่างนั่นเมื่อไหร่ ชั้นจะเป่ามันให้กระเด็นเอง!”
“อะฮะฮะ พึ่งพาได้เสมอเลยนะคะ สมกับเป็นฟรานเลย… งั้น พวกฉันไปก่อนนะ”
“อาระ จะไปกันแล้วเหรอ?”
“อื้อ ไม่อยากยืดเยื้อเกินไปด้วย… ทุกคน ขอบคุณสำหรับทุกอย่างตลอดมาจนถึงตอนนี้เลยนะ”
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะ”
…โธ่ ทั้งคู่จะไปกันซะแล้วเหรอ
“…งั้น แล้วเจอกันนะ แวะมาหาเราได้เสมอเลย”
“อือ ไว้สงบลงแล้ว จะชวนทุกคนมาที่บ้านใหม่ของพวกฉันนะ ฮุฮุ จะตั้งตารอเลยล่ะ”
“จนถึงตอนนี้ ตั้งแต่ตั้งกองทัพจอมมารมา ก็มีแต่การต่อสู้ไม่หยุดเลยนี่ การเกษียณก็คงเหมือนเอาภาระออกจากบ่าซักทีล่ะเนอะ”
“อื้อ แต่ก็น้า…… ดูสิ…… จากนี้ไป ฉันจะได้อยู่กับเนลของฉันทุกวัน ทั้งวัน ตลอดไปเลย ♡”
““““……””””
อ่า ลืมไปเลยแฮะ
มาคิดๆ ดูเลย ยัยนี่ก็เป็นแบบนี้นี่นะ
“พวกฉันไม่ได้เสียลักษณะของอันเดดไปซะหน่อย เพราะงั้น ความเป็นอมตะก็ยังอยู่ดี! ฉันถอนตัวออกจากแนวหน้าแล้ว เพราะงั้นก็จะไม่ถูกใครมาโจมตีด้วย! ที่บ้านเงียบสงบกลางป่า กับเนล จนชั่วฟ้าดินสลายเลย… ฮุฮุฮุฮุฮุฮุฮุ……”
“ฮะฮะฮะ… เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ… ฮะฮะ…… ฮ่า”
ขนาดฟรานยังชะงักกับสีหน้ากับคำพูดที่ดูอันตรายของดีเชเลย
แต่ว่า วีเนลกลับเป็นคนที่พยักหน้าให้พร้อมปาดน้ำตาซะงั้น คนโรคจิตนี่จะดึงดูดคนโรคจิตด้วยกันงั้นเหรอเนี่ย
“งั้น ยังไงก็ ขอให้อยู่ดีสุขภาพแข็งแรงนะ”
“พวกเธอตายไปแล้วไม่ใช่หรือไงเล่า…”
“อาวล่ะ เนล! ไปกันเถอะ! งั้น ไปก่อนน้า!”
ยัยนี่ แทนที่จะเศร้าที่ต้องแยกกับเพื่อนที่ทำงานด้วยกันมาหลายร้อยปี นี่มีความสุขที่จะได้ไปใช้ชีวิตอย่างสงบกับคนรักจนลืมเรื่องนั้นไปหมดเกลี้ยงเลยหรือไงฮะ
…ไม่สิ จะว่าพวกเธอก็คงไม่ได้ เพราะถ้าเกิดเป็นริงกะที่ได้คืนชีพมาตอนนี้เลย เราเองก็คงลงจากตำแน่งจอมมารแล้วไปใช้ชีวิตอยู่เงียบๆ เหมือนกันล่ะมั้ง
เพราะสำหรับเราแล้ว เธอก็สำคัญกว่าใครทั้งหมดนั่นแหละ
ดังนั้น ผู้บริหารที่เก่าแก่ที่สุดของกองทัพจอมมาร สมาชิกรุ่นบุกเบิกเผ่าอันเดด ‘แม่ทัพผู้พิชิต’ ดีเช กับคู่หูคู่รักของเธอ เนล
พวกเธอ 2 คนก็หายไปจากกองทัพจอมมารนับแต่นั้น
TN: อย่างน้อย พวกเธอก็ยังไม่ตายนะครับ… เอ หรือตายแล้วหว่า 555
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r
Comments