[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า 164 องค์ที่ 6 ผู้กล้าเกิดใหม่ – เจ้าหญิงแวมไพร์และผู้กล้า

Now you are reading [WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า Chapter 164 องค์ที่ 6 ผู้กล้าเกิดใหม่ - เจ้าหญิงแวมไพร์และผู้กล้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เอาล่ะ… ฆ่าผู้กล้าซะ จะได้เริ่มธุระกับเจ้านอยน์ซะที

ตัวฉันเองน่ะจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว แถมท่านจอมมารเองก็คงรอไม่ไหวแล้วเหมือนกัน

แต่ ฮัซซาร์ดเนี่ยน่าจะรับมือยากอยู่ประมาณนึง ถึงจะไม่มีทางแพ้อยู่แล้ว แต่กว่าจะฆ่าได้นี่ก็คงต้องใช้เวลาซักพักเลยน่ะสิ

ฉันอยู่ในตำแหน่งที่ 2 ของขุนพลจตุเทวอสุราก็จริง แต่นั่นก็นับรวมถึงการอวยพรจากดวงจันทร์ด้วยล่ะนะ กลางวันแสกๆ แบบนี้ ความสามารถในการต่อสู้ของฉันยังเป็นรอง 2 คนข้างหลังฉันด้วยซ้ำไป

ก็นะ แต่ก็ยังแกร่งพอจะฆ่าทุกคนที่อยู่ตรงนี้อยู่ดี แต่ทุกคนตรงนี้ก็แข็งแกร่งใช้ได้เลยนะ ขนาดผู้กล้ายังมีสเตตัสเฉลี่ยเกิน 10,000 เลย คงต้องใช้เวลาซักพักนึงเลยแน่ๆ

 

“เอาล่ะ ถ้างั้น เผาทุกคนให้หมดด้วยเวทที่กินบริเวณกว้างในทีเดียว… แล้วค่อยไล่จัดการคนที่รอดที่ละคนดีมั้ยนะ”

 

แน่นอนว่าก็ต้องยกเว้นเจ้านอยน์ล่ะนะ ใช้เวทผูกมัดหรืออะไรประมาณนั้นแล้วกัน…

 

“…รอเดี๋ยวก่อน”

 

หือ? ผู้กล้า?

จะอ้อนวอนขอชีวิตหรือไง? ฉันไม่คิดจะไว้ชีวิตพวกแกอยู่แล้วล่ะ แล้วมันก็น่ารำคาญด้วย ยกโทษให้ฉันด้วยแล้วกัน โยมิเป็นแค่มนุษย์คนเดียวเท่านั้นแหละที่ฉันอยากจะฟังคำอ้อนวอนร้องขอชีวิตน่ะ

อืม เจ้าหมอนั่นกับอีก 4 คนรอบๆ หมอนั่นเป็นอดีตเพื่อนร่วมชั้นของฉันที่กลับชาติมาเกิดสินะ งั้น อย่างน้อยที่สุด ฉันจะยอมให้แกพูดซัก 2-3 คำอย่างมีเมตตาก็แล้วกันนะ

 

“อะไร? รีบๆ ซะด้วยล่ะ”
“…จะพูดตรงประเด็นเลยแล้วกัน เธอน่ะ… เหมือนกับพวกเราใช่มั้ย?”

 

ลองคิดดูดีๆ แล้ว เจ้านี่คงอยากจะถามว่า ‘เธอเป็นพวกที่กลับชาติมาเกิดจากต่างโลกหรือเปล่า?’ ล่ะมั้ง

เจ้านี่มันรู้ได้ยังไงเนี่ย? คิดจะทำอะไรซักอย่างถ่วงเวลาเพื่อหนีเหรอ?

ตอนนี้ ฉันจะปล่อยให้แกคิดไปเองแล้วกัน

 

“ฮะ? พูดเรื่องของแก? ถ้าแกกล้าคิดจะปั่นหัวฉันให้สับสนเพื่อหาทางหนีล่ะก็ ฉันจะได้ฆ่าแกทิ้งซะตรงนี้เลย”
“……เมื่อ 4 ปีก่อน ฉันได้ยินจากคุณจูเลีย นักผจญภัยระดับ S ว่าตอนที่เธอกับผู้กล้าอาวิซคุยกัน ทั้งคู่เรียกกันด้วยชื่ออื่นน่ะสิ”
“จูเลีย…?”

 

ใครหว่า? ฉันพยายามควานหาในความทรงจำของตัวเอง แต่ก็นึกไม่ออกเลยซักนิด

ถ้าจำไม่ได้ แสดงว่าฉันคงจะฆ่ามันไปแล้วสินะ ฉันจำชื่อคนที่ฆ่าไปไม่ได้หรอก แต่ไอ้คนที่ฉันพลาดฆ่าไม่ได้เนี่ย จำได้ดีเลย

 

“นี่ๆ! ซากุระคุง! ชื่อ [จูเลีย] ที่เกี่ยวอะไรซักอย่างกับฉันเนี่ย! พอจะคุ้นๆ หรือเปล่า!?”

 

เพราะฉันจำไม่ได้ ฉันเลยต้องถามเอาจากซากุระคุงผู้ชาญฉลาดแทน

ถึงเขาจะอยู่ระหว่างการต่อสู้กับดูเก็น ซึ่งมันดูแปลกๆ นิดหน่อย แต่ตอนนี้เป็นการต่อสู้แบบ 2 ต่อ 1 เพราะงั้นก็ไม่เป็นไรหรอก

 

“เอ๊ะ?… เออ… ผมคิดว่า เมื่อ 4 ปีก่อน ตอนที่คุณลีนฆ่าผู้กล้าอาวิซ… น่าจะเป็นนักผจญภัยระดับ S ที่อยู่ในคณะผู้กล้า…. เธอเป็นคนที่คุณลีนไว้ชีวิตเพื่อใช้เป็นผู้ส่งสารครับ…”

 

………?

………!!

 

“อ้อ~! เจ้านั่นนี่เอง! จำได้แล้วๆ ผู้หญิงที่ฉันฆ่าด้วยกับดักระเบิดกับยาพิษ 2 ชั้นสินะ! อา~ รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย”

 

ผู้หญิงที่ฉันปล่อยให้ตายใน 3 วันเพื่อให้ช่วยแพร่ความหวาดกลัวของขุนพลจตุเทวอสุราให้กระจายไปทั่วเผ่ามนุษย์ กับส่งข้อความไปให้นอยน์กับอีดิธสินะ

 

“…แล้ว ยัยนั่นบอกแกเรื่องของฉันกับผู้กล้าคนก่อนหรือไง?”
“……ใช่แล้ว”
“ด- เดี๋ยวก่อนสิ! เซโน่คุง พูดเรื่องอะไรกันอยู่น่ะ…”
“…ไม่ได้บอกคนอื่นเลยงั้นเหรอ หมายความว่าเธอก็ไม่ได้แน่ใจเรื่องบทสนทนาของพวกฉันเลย ทั้งที่เธอไปบอกกับแกเนี่ยนะ”
“……อ่า เธอบอกฉันก่อนที่เธอจะตาย เรื่องที่เธอเรียกผู้กล้าอาวิซว่า… ‘คุโรดะ’ น่ะ”

 

คนที่มีปฏิกิริยากับคำพูดนั่น คือพวกที่กลับชาติมาเกิดจากต่างโลกที่ตามสถานการณ์รอบตัวเองไม่ทันแล้ว

 

“…อ- โอ้ย! นี่มันยังไงกันน่ะ!”
“ทำไม ขุนพลจตุเทวอสุรา ถึงใช้ชื่อเก่าของอาวิซล่ะ…”
“เรื่องมันก็ง่ายๆ เลย เธอคนนี้… ลีน บลัดลอร์ดก็เป็นผู้กลับชาติมาเกิดเหมือนกัน เธอเป็นหนึ่งในเหยื่อในเหตุแก๊สระเบิดในวันนั้นเหมือนกับพวกเรา ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงเกิดเป็นแวมไพร์ก็เถอะ”

 

เฮ่ๆ นี่จ้อเรื่องข้อมูลของฉันออกมาไม่หยุดเลยนะ นี่ถ้าฉันไม่กาง {ไซเลนท์ (เขตไร้เสียง)} ไว้รอบๆ ล่ะก็ คุณเกรย์กับซากุระคุงอาจจะได้ยินไปแล้วก็ได้

ส่วนฮัซซาร์ด, นอยน์ กับเลนัวร์ที่เป็นอัครสาวกหน้าใหม่ลำดับที่ 8 ก็ยืนงงกับเรื่องที่กำลังคุยกันอยู่ ดูเหมือนพวกนั้นจะไม่รู้เลยนะว่าพวกเรากำลังพูดเรื่องอะไรกัน

ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะปกปิดข้อเท็จจริงที่ว่าตัวเองเป็นพวกที่กลับชาติมาเกิดจากต่างโลกหรอกนะ แต่ถ้าข้อมูลของฉันเกิดหลุดออกไปแม้แต่นิดเดียวมันก็ไม่ขำอยู่ดี… แต่ เอาเถอะ ยังไซะ คนที่ได้ยินก็มีแค่คนที่อยู่ตรงนี้ เพราะงั้นก็แค่ฆ่าพวกมันซะให้หมดก็จบ

 

“เอาล่ะ ยังไงพวกแกทุกคนก็กำลังจะตายกันที่นี่อยู่แล้ว เพราะงั้นฉันก็จะบอกให้ก็ได้ อย่างที่แกว่า ฉันเป็นคนที่กลับชาติมาเกิดจากต่างโลกจริงๆ อดีตนักเรียนของคุณไงคะ อาจารย์ฮิซากิ ตอนนี้ อาจารย์ชื่อว่าไอแล้วสินะ?”

“―――――――――!?”
“ก- โกหกน่า!?”
“ก- แก… เป็นใครกันแน่…? ชาติก่อนเนี่ย แกคือใครกัน!”
“ผู้กล้าเซโน่น่ะรู้อยู่แล้วสินะ? ตอนที่ฉันฆ่าไอ้เวรนั่น (คุโรดะ) เจ้านั่นและผู้ติดตามของมันก็เรียกฉันด้วยชื่อเดิมนี่แหละ”

“……ยังงี้เอง ว่าแล้วเชียว เธอคือ… คุณเซนโจงั้นซินะ”

“เอ๊ะ……?”
“……เซนโจ? คุณเซนโจ โยนะ…!?”
“คนที่ถูกพวกคุโรดะรังแกน่ะเหรอ…”
“ตามนั้นแหละ แต่ตอนนี้ฉันคือลีน บลัดลอร์ด เพราะงั้น ช่วยเลิกเรียกชื่อเก่าของฉันบ่อยๆ แบบนั้นซักทีจะดีมากเลย”
“…นี่ เพื่อแก้แค้นจากชาติก่อน ก็เลยฆ่าพวกคุโรดะเหรอ”
“ก็แค่ส่วนนึง แล้วก็อีกส่วนนึง มันก็เป็นภารกิจด้วย การฆ่าผู้กล้าทิ้งกับพรากเอาความหวังไปจากพวกมนุษย์น่ะเป็นงานสำคัญของกองทัพจอมมารเลยล่ะ”

 

วันนั้นน่ะสุดยอดไปเลย

ในชาติก่อน ฉันทำได้แค่ต้องอดทนกับความเจ็บปวดให้ผ่านไปในแต่ละวัน ไม่มีอะไรทำให้เบิกบานได้เท่ากับความเบิกบานที่ได้เหนือกว่าพวกมันตัวต้นเหตุด้วยพลังที่เหนือชั้นกว่ากันมาก และยังได้ยินโศกนาฏกรรมการตายของพวกมันอย่างทรมานด้วยน่ะ

 

“น- นี่ คุณเซนโจ ถึงตอนนี้เธอจะเป็นแวมไพร์ก็เถอะ ทำไมเธอที่เคยเป็นมนุษย์ถึงไปเข้าร่วมกับกองทัพจอมมาร…”
“อย่าถามอะไรที่มันแน่อยู่แล้วสิ เออ เธอคือ… ‘อิชิฮาระ เรย์นะ’?… อ๋า หัวหน้าห้องนี่เอง ฉันตัดสินใจแล้วไงล่ะ ฉันเกลียดพวกมนุษย์ เพราะแบบนั้น ฉันก็เลยเข้าร่วมกับกองทัพจอมมารเพื่อจะฆ่าล้างพวกมนุษย์ให้หมดสิ้นไปซะ”
“อะ-…!?”
“ในชาติก่อน ทั้งที่ฉันโดนไอ้พวกสวะนั้นรังแกมาไม่รู้เท่าไหร่ พ่อแม่ก็ไม่เคยมาสนใจซักนิด ขนาดไปปรึกษาอาจารย์ก็แล้ว ขนาดทุกคนดูอยู่ก็แล้ว ยังไม่มีใครมาช่วยฉันเลยซักคน นี่ อาจารย์ฮิซากิคะ? ฉันเคยขอให้อาจารย์ช่วยแล้วใช่มั้ยล่ะคะ? หลายครั้งเลยด้วย… แต่อาจารย์กลับปิดบังเรื่องพวกนั้น เพราะคุโรดะมันเป็นลูกชายเครือบริษัทยักษ์ใหญ่น่ะ”
“ร- เรื่องนั้น…!”
“เพราะแบบนั้น ตอนที่ฉันตายแล้วได้มาเกิดใหม่ที่โลกนี้น่ะ พูดตามตรง ฉันดีใจมากๆ เลย ท่านอิซึสึมอบบางสิ่งที่ฉันไม่เคยมีมาก่อนให้ อย่าง ‘ความสุขธรรมดาๆ’ น่ะ ฉันคิดแบบนั้น… แต่ ขนาดแค่ความปรารถนาเล็กๆ ของฉันแค่อย่างเดียว พวกมนุษย์มันก็ยังพรากเอาไปภายในแค่วันวันเดียว ด้วยน้ำมือของอีดิธ กับนอยน์ที่มันยืนอยู่ข้างหลังพวกแกนั่นไง”
“…ตอนที่ หมู่บ้านแวมไพร์ถูกทำลายน่ะเหรอ?”

“อ้า! ใช่น่ะสิ! นึกภาพออกมั้ยล่ะ!? แกคิดว่าฉันจะรู้สึกยังไง!? ที่ความสุขที่ในที่สุดฉันก็ได้มีบ้าง! มาถูกเผ่าพันธุ์เหี้**ๆ ที่คิดว่าทุกอย่างที่พวกแ**งทำมันถูกไปหมดมาชิงไปไม่มีเหลือน่ะ!! ทั้งคุณพ่อคุณแม่ที่เกิดใหม่มาถึงได้เจอ!! ทั้งเพื่อนๆ ของฉัน!! ทั้งพวกพ้องร่วมเผ่าพันธุ์ทั้งหมดของฉัน!! ถูกพรากไปทั้งหมดในวันแค่วันเดียวน่ะ!!
……วันนั้น ฉันเลยคิดได้ พวกเผ่ามนุษย์ที่ทำลายชีวิตของเด็กคนนั้น ทำร้าย และเข่นฆ่าผู้คนที่ท่านจอมมารรักและห่วงใยน่ะ…! แค่ข้อเท็จจริงที่ว่าพวกมันยังมีชีวิตอยู่ก็ทำฉันคลื่นไส้แล้ว! เพราะงั้น ฉันสาบาน! ฉันจะกวาดล้างมนุษย์ให้สิ้นซาก!! แล้วสร้างโลกที่พวกฉันจะได้มีชีวิตอย่างเป็นสุขซักที!! …แกเป็นก้างขวางอุดมคตินั้นของฉัน เพราะงั้น แกน่ะ ก็ตายๆ ไปได้แล้ว”

 

ฟู่ว ได้ระบายสิ่งที่อยากพูดออกมาแบบนี้ก็สดชื่นเหมือนกันแฮะ

แค่ถูกทำให้นึกขึ้นมารอบว่าฉันเคยเป็นอดีตมนุษย์มาก่อนก็ทำเอาหงุดหงิดแทบตายอยู่แล้ว ได้เค้นตะโกนออกมาแบบนี้ก็ไม่เลวเลย

เอาล่ะ ฉันพูดเรื่องที่อยากพูดเรียบร้อยแล้ว เพราะงั้นก็ได้เวลาฆ่าพวกมันให้หมดซะที…

 

“คุณเซนโจ! แบบนั้นมันผิดนะ!”

 

…อ๊ะ?

 

“ก็จริงอยู่! มนุษย์น่ะเป็นสิ่งมีชีวิตที่เลวร้ายจริงๆ!”
“ท- ท่านผู้กล้า!?”
“แต่ว่า! ถึงพวกมนุษย์จะมีส่วนที่แย่ก็จริง-”
“อา ไม่ต้องพูดต่อแล้วล่ะ รู้ไว้เลยนะ ถึงฉันจะไม่คิดยังงั้นหรอก แต่นี่แกคิดว่าแกจะโน้มน้าวฉันได้งั้นเหรอ? เพราะมันเป็นไปไม่ได้ไงล่ะ ฉันพูดอะไรต่อมิอะไรไปตั้งเยอะเมื่อกี้นี้ แต่ท้ายที่สุด สิ่งที่ฉันอยากจะบอกก็คือ ‘ฉันเกลียดมนุษย์มาก จนอยากจะฆ่าพวกมันซะให้หมด’ นั่นแหละ หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่มีทางยอมรับพวกมันได้เลย ขนาดแกน่ะ เวลาไปเจอแมลงสาบ ก็จะอยากฆ่ามันทิ้งโดยอัตโนมัติเลยใช่มั้ยล่ะ? ก็แบบนั้นแหละ”
“มนุษย์กับแมลงไม่เหมือนกันซักหน่อย!”
“สำหรับฉันก็เหมือนกันนั่นแหละ ไม่สิ เพราะแมลงดีๆ ก็ยังมีอยู่ ถ้างั้นแมลงก็ยังดีกว่าเป็นร้อยเท่าเลยสินะ?”

 

คิดไม่ถึงนะเนี่ยว่าเจ้าหมอนี่จะพยายามโน้มน้าวใจของฉันน่ะ นี่หมอนี่คิดว่าตัวเองเป็นพระเอกบนเส้นทางสู่ความรุ่งโรจน์ในโลกแฟนตาซีหรือไง

แต่ พวกเรื่องแนวๆ ที่ว่า ‘คนคนนี้อาจจะต่างจากคนอื่นๆ ก็ได้…!’ เนี่ย ส่วนใหญ่ก็จะพัฒนาเป็นความรักได้สินะ แต่โชคร้ายหน่อยนะ สำหรับฉันแล้ว คนที่เข้ากับแนวที่ ‘มีแค่คนคนนี้แหละที่ต่างจากคนอื่นๆ’ ก็มีแค่โยมิที่ย้ายข้างมาอยู่กับกองทัพจอมมารแล้วคนเดียวเท่านั้น และฉันมองแกเป็นแค่ตัวแทนผู้นำของพวกสวะ (มนุษย์) มันก็แค่นั้นเอง

การโน้มน้าวใจฉัน ที่สนใจคำพูดของพวกมนุษย์คนอื่นนอกจากโยมิน้อยยิ่งกว่าก้อนหินข้างทางน่ะ มันเป็นไปไม่ได้หรอกนะ

 

“ก็~ บอก~ ว่า~ ไม่ว่าแกพยายามจะสู้ หรือพยายามจะพูดอะไรก็ช่าง ยังไงแกก็จะถูกพวกเราฆ่าทิ้งที่นี่นี่แหละ ถ้าพวกเราจัดการฆ่าผู้กล้าเซโน่ได้ ความหวังทั้งหมดของเผ่ามนุษย์ก็จะถูกขยี้ทิ้งไม่เหลือ เท่านี้พวกเรา ขุนพลจตุเทวอสุราจะกุมสมดุลไว้เพียงฝ่ายเดียวแล้ว แต่ไม่ต้องกังวลหรอกนะ ฉันจะฆ่าพวกที่กลับชาติมาเกิดจากต่างโลก ส่งพวกมันทุกคนลงนรกตามแกไปโดยเร็วแน่นอน”
“…ไม่ว่ายังไง ก็ไม่มีทางถอยเลยเหรอ”
“ใช่แล้ว ไม่มีทาง”
“…เข้าใจแล้ว”

 

ฮะ? อะไรของมัน?

 

“งั้น ฉันก็จะหยุดเธอให้ได้ ในฐานะผู้กล้าแล้ว คุณเซนโจ… ไม่สิ ลีน บลัดลอร์ด ฉันจะหยุดเธอให้ได้!”

 

…เห? อย่าบอกนะว่า

 

“แกเนี่ยนะจะหยุดฉัน? ขุนพลจตุเทวอสุราตำแหน่งที่ 2 คนที่แทบจะแข็งแกร่งที่สุดในกองทัพจอมมารอย่างฉันน่ะนะ? …อย่าทะนงตัวให้มันมากนัก เจ้าผู้กล้าอ่อนหัด”

 

ในตอนนั้น ฉันก็ปล่อยพลังที่ยั้งเอาไว้ออกมา

‘ออร่าของผู้แข็งแกร่ง’ ที่ปกติฉันจะซ่อนเอาไว้ พุ่งไปทั่วทั้งสนามรบ

อ่า กลุ่มพวกที่กลับชาติมาเกิดจากต่างโลกกลัวหัวหดกันหมดทุกคนซะแล้ว

 

“คนคนเดียวที่พอจะสู้ฉันได้ที่อยู่ตรงนี้ ก็มีแค่ฮัซซาร์ดคนเดียวนั่นแหละ จะอัครสาวกลำดับล่างหรือพวกปลาซิวปลาสร้อยระดับนั้นน่ะ เทียบฉันไม่ได้หรอกนะ ถ้ายอมแพ้ซะตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วยอมยกหัวของแกให้ฉันซะแต่โดยดี เรื่องมันก็ง่ายสำหรับฉันด้ว-…”

 

“คุณลีนครับ! ข้างหลัง! อันตราย!”

 

“ฮึก!? …อุโหว!?”

 

พอฉันกระโดดออกมา เวทมนตร์ระดับสูงพิเศษ {คริมสันแคนนอน (ปืนใหญ่ความร้อนสูงยิ่ง)} ก็พุ่งทะลุตรงจุดที่ฉันเคยอยู่ แล้วระเบิดออกอย่างรุนแรงเลย

ฉันมัวแต่สนใจเรื่องตรงหน้าจนไม่ทันสังเกตศัตรูที่อยู่ข้างหลังเลยงั้นเหรอ…!?

แต่ว่า ใครล่ะ? ดูเก็นกำลังงัดกับคุณเกรย์กับซากุระคุงอยู่ พวกมนุษย์ที่เหลือก็อยู่ตรงหน้าฉันแล้วด้วย

งั้น ใครมัน…

 

“…เพราะไม่ได้รับการติดต่อตามปกติ ก็เลยรีบมุ่งหน้ามาที่นี่เลย ดูท่าทางฉันจะคิดถูกจริงๆ สินะ”
“อึก ไม่จริงน่า มีขุนพลจตุเทวอสุราอยู่ที่นี่ 3 คนเลยเหรอ แถม ดูเก็นก็ใช้ [ปาฏิหาริย์แห่งเทพธิดา] แล้วด้วย… สถานการณ์ดูเลวร้ายแทบถึงขีดสุดเลย แต่โชคดีจริงๆ ที่พวกเรายังมาทันเวลา”

“น- นั่น…!?”
“…รอดไปที! ไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกท่านจะมาแล้ว!”

 

พวกมนุษย์ก็ฮือฮากันใหญ่เลย แต่ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ

ผู้หญิงที่มีตา 2 สีสวมชุดคลุมคล้ายกิโมโน

กับเจ้าตัวโตที่ตัวใหญ่ยิ่งกว่านอยน์ ในมือถือคัมภีร์เล่มโต แต่งตัวคล้ายนักบวช

ถึงจะไม่เคยเจอมาก่อน แต่ก็ไม่ผิดแน่

 

“…ตัวเลือกมีตั้งเยอะแยะ ดันเป็นเจ้าพวกนี้ที่โผล่มา…!”

 

12 อัครสาวกลำดับที่ 3 ‘ลิขิตชะตา’ เกล

12 อัครสาวกลำดับที่ 2 ‘เนตรสมบัติ’ เฮเลน่า

 

2 ใน [สามเสาหลัก] ในบรรดาอัครสาวกลำดับบน ถูกเรียกตัวมาเป็นกำลังเสริมแล้ว

 

TN: เขาแห่กันมาเต็มสนามรบไปหมดแล้วนะ นี่เด็กตกรถทัศนศึกษาเพราะลืมของไว้ที่บ้านยังวิ่งกลับมาไม่ถึงอีกเหรอ 555
เนี่ย ใครแซวไว้นะว่าลีนถามโยมิเยอะยังกับแม่จะส่งลูกไปทัศนศึกษา รอบนี้ ลีนทำผมให้โยมิเสร็จแล้วเป็นลมไปเลยไม่ได้ทัก น้องเลยลืมดาบเอามาด้วยเลย 55555

ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด