[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า 93 องค์ที่ 4 ล้างแค้น – เจ้าหญิงแวมไพร์และการพบกันโดยบังเอิญ

Now you are reading [WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า Chapter 93 องค์ที่ 4 ล้างแค้น - เจ้าหญิงแวมไพร์และการพบกันโดยบังเอิญ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“………อืม?”

 

…แปลกๆ

ทำไมนะ? หมายความว่ายังไงล่ะเนี่ย?

 

12 อัครสาวก ลำดับที่ 4 ‘วัชระ’ ดูเก็น ศัตรูที่น่ารำคาญสุดๆ เพราะมีการป้องกันที่สูงมากจากความสามารถของสมบัติศักดิ์สิทธิ์ แต่ฉันก็แค่ใช้สมองนิดๆ หน่อยๆ ก่อนจะเอาชนะเจ้านั่นมาได้

หอกทองคำที่กลายเป็นก้อนทองอยู่ตรงนั้นก็ยังไม่คืนสภาพกลับมาเลย แต่ก็ค่อยๆ กลับคืนเป็นรูปร่างเดิมทีละนิดแล้วล่ะ จากความสามารถในการซ่อมแซมตัวเอง… อุหวา สภาพที่เหมือนเมือกค่อยๆ คืบคลานกลับมารวมตัวกันนั่นน่าขยะแขยงชะมัดเลย!

…ช่างเรื่องนั้นไปก่อนละกัน

พอเจ้านั่นปล่อยมือจากหอก ฉันก็ใช้ผลจากการเสริมกำลังด้วยการอวยพรจากดวงจันทร์ในคืนจันทร์ครึ่งแบบนี้ อัดดูเก็นจนยับเยินเลย ในเวลาเดียวกันนั่น ฉันก็พังเมจิกไอเท็มสำหรับการเคลื่อนย้ายที่เจ้านั่นมีอยู่ไปแล้วด้วย ก็เพื่อกันมันหนีล่ะนะ

แล้วตอนที่ฉันกำลังจะทำลายร่างของดูเก็นให้เละคามืออยู่แล้ว ตอนท้ายสุด ฉันก็จะใช้ไฟแรงๆ เผาร่างมันให้คืนชีพกลับมาไม่ได้อีกเลยด้วย {อินเฟอร์โนบอล (ลูกไฟยักษ์)} เพื่อปิดฉาก

 

…ใช่ มันควรจะกลายเป็นเศษขี้เถ้าไปแล้วล่ะ

สถานการณ์กับสภาพแบบนั้น ดูเก็นไม่มีทางหลบเวทของฉันได้แน่นอน

 

“…ถึงอย่างงั้นก็เถอะ ทำไมล่ะ?”

 

ไม่เห็นมีกลิ่นเนื้อไหม้ออกมาเลย

ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของแวมไพร์น่ะ ในบรรดาเผ่ามารที่มีประสาทสัมผัสที่ฉับไวแล้ว ก็เป็นรองแค่มนุษย์สัตว์กับมนุษย์มังกรเท่านั้นเอง

ประสาทรับกลิ่นที่เฉียบคมของฉันบอกกับฉันว่า ‘ด้วยเวทที่ใช้ไปเมื่อกี้นี้น่ะ ร่างของมนุษย์ยังไม่ถูกเผา’

 

“…เคลื่อนย้ายหนีไปได้เหรอ? ไม่ เจ้านั่นใช้เวทมนตร์ไม่ได้นี่นา ฉันเห็นจากอารุสมาแล้ว เพราะงั้น เรื่องนี้น่ะฉันมั่นใจ …แถมก็ทำลายเมจิกไอเท็มสำหรับเคลื่อนย้ายไปแล้วด้วย …หรือเจ้านั่นมันพกมามากกว่า 1 อัน? ไม่ ไม่ใช่แน่ๆ ฉันตรวจดูด้วยอารุสดีแล้วนี่…”
“ค- คุณลีนครับ!”
“…อะ ซากุระคุง”

 

ศัตรูของเขาที่เป็นอัครสาวกอีกคนนึงนี่… คงจบแล้วสินะ ฉันได้ยินเสียงดังสนั่นเลยล่ะ เมื่อกี้นี้

มีเงาขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนฟ้า แถมการอวยพรจากดวงจันทร์หายไปแป๊บนึงด้วย… ไม่ผิดแน่

ฉันว่าต้องเป็น {เมเทโอฟอล (คำอัญเชิญอุกกาบาต)} แน่นอนเลย

 

“ค- คุณก็ สู้เสร็จแล้ว สินะครับ… ผมก็ด้วย…”
“ฉันก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะ…”
“…เอ๊ะ?”
“ซากุระคุง แค่ลองถามดูนะ มั่นใจแล้วใช่มั้ยว่าอุกกาบาตนั่นขยี้ฮัซซาร์ดจนเละไปแล้วแน่นอนน่ะ?”
“เอ๊ะ? …ค- ครับ… ผมแช่แข็ง ขาไว้กับที่… เพราะงั้น โดนเต็มๆ แน่นอน คิดว่า… เป็นแบบนั้นครับ…”

 

อย่าพูดเรื่องแบบนั้นออกมาง่ายๆ สิ เด็กคนนี้นี่

แต่ก็หมายความว่า ไม่เห็นศพของฮัซซาร์ดงั้นสินะ

เป็นไปได้หรือเปล่านะว่าทั้ง 2 คนนั่นหนีไปได้ด้วยซักวิธีนึง

 

“ซากุระคุง ฟังฉันดีๆ นะ ไม่แน่ ฮัซซาร์ดกับดูเก็นอาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็ได้”
“ม- หมายความว่ายังไงน่ะครับ?”
“อืม จะว่ายังไงดีล่ะ…”

“จะเร็วกว่าหรือไม่ ถ้าพวกเธอได้เห็นด้วยตัวเอง แทนที่จะฟังจากคำบอกเล่าน่ะ?”

“――― อึก!?”
“เฮะ…?”

 

ข้างหลังของพวกเรา… มีคน 3 คนอยู่ตรงนั้น โดยที่พวกเราไม่ทันรู้ตัวเลย

2 คนในนั้นสภาพยับเยิน และมีแต่แผลเต็มตัวไปหมด ทั้งคู่ดูใกล้ตายและยังไม่ได้สติ แต่ก็ยังไม่ตาย

รูปร่างแบบนั้น… ต้องเป็นฮัซซาร์ดกับดูเก็นแน่ๆ

 

แล้วก็ ชายผมบลอนด์อีกคนที่แบก 2 คนนั้นอยู่

หน้าตาที่ดูทั้งน่ารำคาญ ทั้งเย่อหยิ่ง แถมมีแขนซ้ายแค่ข้างเดียวนั่น… ดูคุ้นๆ นะ

ถึงจะเป็นครั้งแรกที่ฉันเจอกับหมอนี่ตัวเป็นๆ ในวิดีโอที่ท่านจอมมารให้ฉันดู ร่างของเจ้านี่ก็ฉายให้เห็นด้วย

 

“ก่อนอื่น ยินดีที่ได้พบ ขุนพลจตุเทวอสุราทุกคน”

 

ไม่ผิดแน่ เจ้าหมอนี่ ―――

 

“รี-… รีเวลซ์ ฮิวแมนลอร์ด…”
“…ทำไม ลำดับที่ 1 ถึงมาอยู่ในที่แบบนี้ได้ล่ะเนี่ย?”

 

12 อัครสาวก ลำดับที่ 1 ‘บุตรแห่งพระเจ้า’ รีเวลซ์ ฮิวแมนลอร์ด

นายเหนือหัวของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ เมอร์คิวเรียส, สันตะปาปา และผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในมนุษยชาติ

เจ้านี่คือคนที่เข้ามาช่วย 2 คนนั้นเอาไว้งั้นเหรอ?

 

“…ไม่น่าเชื่อ เราไม่คิดเลยว่าพวกเธอจะไล่ต้อนดูเก็นกับฮัซซาร์ดได้ขนาดนี้ นี่พวกเราดูถูกกำลังรบของขุนพลจตุเทวอสุราเกินไปอย่างนั้นหรือ?”

 

พอพูดออกมาแบบนั้น รีเวลซ์ก็จ้องมาทางเราอย่างไร้มารยาท

จ้องมาแบบนี้ก็สวยสิ ไปตายซะ

 

…แต่ มันมีบางอย่างไม่ถูกต้องนะ

ถึงดูเก็นกับฮัซซาร์ดจะตายอยู่แล้ว แต่รีเวลซ์ก็ใช้เวทฟื้นฟูได้ เพราะงั้น ถ้าเจ้านั่นใช้เวทฟื้นฟูจนทั้งคู่นั่นกลับมาสภาพเต็มร้อย แล้วเข้ามารุมทั้งฉันทั้งซากุระ มันจะกลายเป็นศึกแบบ 2 ต่อ 3… โอกาสเกิน 90% เลยที่พวกเราจะแพ้น่ะ

มันสามารถเอาตัวดูเก็นกับฮัซซาร์ดไปด้วยได้ แต่พวกเราฆ่ารีเวลซ์ไม่ได้

ฉันพยายามจะส่องสเตตัสของหมอนี่ด้วยเนตรสวรรค์ อารุส แต่เจ้านี่มันอันตรายเกินไป

 

สเตตัสเฉลี่ยทะลุ 100,000 ไปแล้ว

 

ยิ่งกว่านั้น ถึงจะไม่เท่าซากุระคุง แต่หมอนี่ใช้เวทมนตร์ได้หลากหลายประเภทเลย

ฉันว่า ต่อให้พวกเรา 2 คนสู้กับหมอนี่คนเดียว โอกาสชนะก็ยังต่ำกว่า 20% เลย

บางที ในสังเวียนนี้ หรือทั้งโลกนี้เลย หมอนี่อาจจะเป็นรองแค่ท่านจอมมารคนเดียวเองมั้ง

ขนาดโยมิก็ยังเอาชนะเจ้าหมอนี่ไม่ได้เลย

ถ้าเป็นฉันที่ได้รับผลของการอวยพรจากดวงจันทร์ล่ะก็ ฉันก็มีโอกาสแค่ครั้งเดียวเอง

โกหกใช่มั้ยเนี่ย ขนาดเป็นอัครสาวกเหมือนกัน ความแข็งแกร่งยังห่างชั้นกันได้ขนาดนี้เลยเหรอ

 

“เฮ่อ…ไม่ต้องเป็นห่วงไป วันนี้ เรามาที่นี่เพียงเพื่อพา 2 คนนี้กลับไปเท่านั้น ยังไม่มีแผนจะฆ่าพวกเธอหรอก แต่แน่นอน ถ้าหากพวกเธอรู้สึกเศร้าโศกที่ตัวเองได้เกิดมาเป็นเผ่ามาร และประสงค์โอกาสที่จะได้เกิดใหม่อีกครั้งเพื่อเป็นเผ่ามนุษย์แล้วล่ะก็ เดี๋ยวเราจะช่วยสังหารเธอให้เอง”
“…คงต้องขอปฏิเสธล่ะนะ”
“อย่างนั้นเหรอ เอาล่ะ เราเองก็ไม่ได้มีเวลามากนัก ข้อเท็จจริงที่ว่าเราสามารถยืนยันการต่อสู้ของขุนพลจตุเทวอสุราด้วยตาของเราเองแล้วในครั้งนี้นั้น เราจะขอรับกลับไปก็แล้วกัน”

 

…ดูด้วยตาของตัวเองงั้นเหรอ?

 

“แกน่ะ หรือว่า… จะแอบดูอยู่ในฉากหลังมาตลอด ตั้งแต่ 2 คนนั้นโดนพวกเราเป่ากระเด็นเลยงั้นเหรอ?”
“โอ ขอบใจพวกเธอมาก เราได้รับข้อมูลของพวกเธอมาแล้วเรียบร้อย หลังจากนี้ เดี๋ยวเราคงต้องมอบรางวัลให้ทั้ง 2 คนนี้เสียหน่อยแล้ว”
“…รสนิยมแย่ชะมัดเลยนะ คนอย่างแกเนี่ย”
“เธอพูดอะไรหรือเปล่า จริงๆ เราก็อยากชมการต่อสู้ของขุนพลจตุเทวอสุราตำแหน่งที่ 1 อย่าง ‘ขุนพลเทพสงคราม’ โยมินะ… แต่เหมือนคนคนนั้นจะไม่อยู่ที่นี่ซะนี่ น่าเสียดาย”

 

ถ้าโยมิล่ะก็ คงจะบดขยี้กองทัพของแกแบบไม่มีใครเทียบเธอได้อยู่ตรงนั้นน่ะ

ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เพราะพวกเราต้องปิดบังตัวตนของโยมิเอาไว้จากการรับรู้จากภายนอกด้วย คุณเรนเลยต้องคลุมกองทัพนั่นเอาไว้ด้วยหมอกหนาแน่นเลย ฉันไม่คิดว่าจะมีโอกาสที่หมอนี่รู้เรื่องของโยมิหรอกนะ

 

“กองทัพตรงนั้น… สายหมอกกับฝนฟ้าคะนองอย่างนั้นเหรอ ฝีมือของเรน แฟรี่ลอร์ดสินะ การมีศัตรูเป็นแฟรี่นั้นน่ะรับมือได้ยากจริงๆ แม้จะเป็นตัวเราก็ตาม คงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมถอยไปแต่โดยดีสินะ”

 

เจ้านี่ตัดสินใจทิ้งคนของเผ่าพันธุ์ตัวเอง 20,000 คนไปอย่างเร็วเลยแฮะ

ดูเป็นคนน้ำใจแร้นแค้นจังเลยนะ

 

“เช่นนั้นแล้ว เราขอตัวก่อน ลีน บลัดลอร์ด, ซากุระ ฟอเรสเตอร์ ครั้งต่อไปที่พวกเราได้พบกัน… เราสัญญาว่าจะชำระล้างพวกเธออย่างแน่นอน”

 

หลังจากพูดทิ้งท้ายไว้แบบนั้น รีเวลซ์ก็เคลื่อนย้ายไปในขณะที่แบกร่าง 2 คนนั่นไปด้วย

…ไม่ใช่กระจกในเพอร์โซน่าซักหน่อย มันไม่มีหรอกนะ อะไรอย่างการฆ่าเป็นการชำระล้างน่ะ ไอ้ขยะนี่

 

…อีกอย่าง เจ้านั่นมันดันเอาหอกทองคำกับคันศรยักษ์กลับไปด้วย! ฉันอุตส่าห์คิดว่าจะเอาหอกนั่นกลับไปด้วยเพราะมันสะดวกดีแท้ๆ!

 

“ค- คุณลีน ครับ… แบบนี้ ดีแล้วเหรอครับ?”
“หือ? หมายถึงอะไรเหรอ?”
“ก็นั่น… เราปิดฉาก ทั้งคู่… ไม่สำเร็จ”

 

มัน ก็จริงนะ ถ้าซากุระคุงหรือฉันโจมตีทีเผลอเข้าไปซักทีนึงล่ะก็ อย่างน้อย 1 ใน 2 คนนั่นก็อาจจะตายซักคนก็ได้

ที่จริง ระหว่างบทสนทนานั่น ซากุระคุงก็คุยโทรจิตกับฉันอยู่ รวมทั้งมีแผนที่จะฆ่า 2 คนนั่นด้วย

แต่ อย่างที่ออกมา ฉันให้เขาหยุด อย่าทำแบบนั้น

 

“…ถ้าเกิดเราฆ่า 1 ในนั้นไป แล้วเกิดรีเวลซ์เปลี่ยนใจมาโจมตีใส่พวกเราล่ะก็ พวกเราไม่สามารถเอาชนะได้เลย ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ การปล่อยเจ้าพวกนั้นไปน่าจะเป็นความคิดที่ดีกว่าน่ะ”
“จ- จริง… สินะครับ ขอโทษนะครับ”
“ไม่หรอกๆ… แต่แย่เลยน้า พวกเราถูกสั่งท่านจอมมารเอาไว้ว่า ให้เปลี่ยน 2 คนนั่นให้เป็นเถ้าธุลี หรือไม่ก็เศษเนื้อน่ะ…”
“ล- แล้ว เราฆ่า… 2 คนนั่น ไม่ได้”
“นี่พวกเราจะโดนโกรธมั้ยน้า… แต่ นี่มันก็ผิดปกติเกินไปล่ะนะ… ไม่ใครคาดคิดหรอกว่าลำดับที่ 1 จะมาถึงนี่ เพราะงั้นคงไม่เป็นไรหรอก… มั้งนะ?”
“ม- ไม่รู้เหมือนกันครับ…”
“ยังไงก็ ตอนนี้น่ะ กลับกันก่อนเถอะ… ซากุระคุง พลังเวทยังมีเหลือพอมั้ย?”
“ค- ครับ เหลืออีก… เกือบ 70% ครับ”

 

นี่ขนาดเธอใช้เวทต่อเนื่องไปขนาดนั้น พลังเวทที่ใช้ไปนั่นยังไม่ถึงครึ่งเลยเหรอ

เป็นตัวบั๊กในด้านเวทมนตร์ของจริงๆ เลยนะเนี่ย เด็กคนนี้

 

“งั้น ก็เหลือเฟือสำหรับร่ายเวทคืนชีพเลยนี่นา เอาล่ะ กลับกันเถอะ… ไปพาคุณเทียน่ากลับมากัน”
“…ครับ!”

 

TN: สำหรับคนที่เอาใจช่วยฝั่งมนุษย์อยู่ ยินดีด้วยนะครับ กำลังสำคัญที่สุดของฝั่งมนุษย์ปรากฏตัวแล้ว และดีกรีความเก่งยังไม่ธรรมดาเลยด้วย

ว่าแต่ ไปทำอีท่าไหนถึงมีแขนซ้ายข้างเดียวล่ะเนี่ย? อาจจะไปช่วยเด็กจมน้ำแล้วโดนปลากัดแขนหรือเปล่านะ 555

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด