[WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก 71 บทที่ 4 คู่แข่งสีส้ม – โอโตฮะ! ฉันเลือกเธอ!

Now you are reading [WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก Chapter 71 บทที่ 4 คู่แข่งสีส้ม - โอโตฮะ! ฉันเลือกเธอ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“แฮ่ก…… แฮ่ก……”
“เธอต้องมีความอึดมากกว่านี้นะ ออกกำลังเพิ่มอีกซักหน่อยสิ”
“ย- อย่าพูดอะไรไร้เหตุผลแบบนั้นสิเจ้าคะ…… ฉันเป็นฮิคิโคโมริมาตลอดจนเมื่อ 2 ปีก่อนเองนะเจ้าคะ……”

 

ขึ้นเขามาได้ถึงกลางทาง โอโตฮะก็หอบจนตัวโยนแล้ว

ความเร็วตอนเริ่มของโอโตฮะอาจจะเร็วกว่าฉันนะ แต่เธอขาดพลังกายที่จะคงความเร็วให้เทียบกับฉันได้

ระดับความอึดของเธอเรียกว่าน้อยจนแม้แต่สแตก็อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ

 

“โอรันเองก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เขายังเคลื่อนไหว ขยับตัวไปทั่วได้ไม่มีปัญหาเลยนะคะ”
“โอรันเป็นเด็กผู้ชายนี่เจ้าคะ อีกอย่าง เขาก็ใช้เวทต้านทานเพิ่มความต้านทานต่อความเหน็ดเหนื่อยให้ตัวเองด้วย”
“งั้นก็คงช่วยไม่ได้นะคะ ไว้กลับไป ฉันจะจัดคอร์สเพิ่มกำลังกายระดับสปาร์ตาให้เธอเองก็แล้วกันค่ะ”
“ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วยเถอะเจ้าค่ะ”

 

ถึงจะเหงื่อท่วมตัวจนเปียกโชก แต่โอโตฮะก็ยังพยายามตามความเร็วในการเดินของฉันให้ทัน

 

“เอาเป็นว่า รีบไปให้ถึงยอดเขากันก่อนแล้วกันค่ะ ถึงที่นั่นเราค่อยพักกันซักหน่อย”
“อ- อีกไกลแค่ไหนเหรอเจ้าคะ?”
“คิดว่า ราวๆ หกร้อยเจ็ดร้อยเมตรได้นะคะ”
“ฉันน่าจะไม่ไหวนะเจ้าคะ”
“ถ้าไม่รีบ เวลาในชีวิตของเธอที่จะได้ใช้ร่วมกับท่านโนอะจะยิ่งน้อยลงไปอีกนะคะ”
“ไม่มีเวลามามัวอ้อยอิ่งแล้วเจ้าค่ะคุณคุโระ! รีบไปให้ถึงยอดเขากันเร็วเข้าเถอะเจ้าค่ะ!”

 

จะง่ายเกินไปแล้ว

ไม่เคยเจอใครที่รับมือด้วยได้ง่ายขนาดนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย

 

จะยังไงก็ตาม พวกเราก็มาจนถึงยอดเขาจนได้ในท้ายที่สุด

 

“แฮ่ก… แฮ่ก… น- ในที่สุด ก็ถึง…”
“ทำได้ดีมากค่ะ นี่ ดื่มน้ำก่อนสิ”
“อะ ขอบคุณเจ้าค่ะ”

 

ฉันยื่นกระติกน้ำไปให้โอโตฮะ ก่อนจะชมวิวจากตรงยอดเขาซักหน่อย

 

“มาลองคิดๆ ดูแล้ว ตั้งแต่มาโลกนี้ นี่ก็เป็นครั้งแรกเลยนะคะที่ฉันได้เดินเท้ามาไกลขนาดนี้”
“ฟิ่ว ตอนนี้เริ่มจะดีขึ้นมาบ้างแล้วเจ้าค่ะ จะว่าไป คุณคุโระเป็นคนที่กลับชาติมาเกิดจากโลกอื่นนี่เจ้าคะ เมื่อชาติก่อน คุณต้องเดินทางไกลแบบนี้อยู่บ่อยๆ เลยเหรอเจ้าคะ?”
“ก็ พ่อแม่ฉันเบี้ยวหนี้อยู่หลายครั้ง ก็เลยต้องหนีไปหลบบนเขาในช่วงกลางดึกอยู่หลายครั้งเลยค่ะ ตอนนี้มันก็ชวนให้นึกถึงสมัยนั้นเหมือนกัน”
“นั่นมันใช่เรื่องชวนย้อนนึกถึงอดีตตรงไหนกันน่ะเจ้าคะ!?”

 

ที่เลวร้ายที่สุด คงเป็นตอนนั้นที่มีคนต่างชาติท่าทางเหมือนพร้อมจะฆ่าฉันได้ทุกเมื่อไล่ตามพวกเราด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อล่ะมั้ง

ตอนนั้นฉันคิดจริงๆ เลยนะว่าตัวเองคงต้องตายแน่

 

“ต- แต่ อดีตมันก็คืออดีตนี่เจ้าคะ”
“นั่นสินะคะ ตอนนี้ ที่ท่านโนอะเก็บฉันมา ฉันก็ได้ใช้ชีวิตที่น่าภูมิใจแล้ว นั่นแหละค่ะที่สำคัญ”
“ใช่เลยเจ้าค่ะ ถ้าคุณหนูไม่เก็บฉันมา ใครจะรู้ล่ะเจ้าคะว่าตอนนี้ฉันจะไปอยู่ที่ไหนแล้ว?”
“เหมือนกันทั้งคู่เลยนะคะ”

 

โอโตฮะยิ้มแหยๆ มาให้ฉัน ซึ่งฉันเองก็ยิ้มตอบเธอกลับไปแบบเดียวกัน

แล้วโอโตฮะก็บิดขี้เกียจ ก่อนจะตบๆ แก้มของตัวเองเหมือนจะเพื่อกระตุ้นตัวเองขึ้นมา

 

“ฉันหายใจทันแล้วเจ้าค่ะ! ไปกันต่อเลยดีกว่า!”
“พร้อมแล้วเหรอคะ?”
“เจ้าค่ะ! ไม่เป็นไรเลย! ตอนนี้ก็ลงเขาแล้วนี่เจ้าคะ ยังไงก็ง่ายกว่าเดินขึ้นอยู่แล้ว”
“ได้เลย ฉันก็ตั้งใจจะขึ้นเขาอีกซักลูกอยู่แล้วด้วยล่ะค่ะ”
“นั่นสินะจ―――เมื่อกี้ว่ายังไงนะเจ้าคะ?”

 

หืม?

นี่หรือว่าเธอจะไม่รู้

 

“เป้าหมายของเรายังอีกไกลนะคะ จากตรงนี้ก็ยังต้องข้ามเขาไปอีกราว 4 ลูกนี่แหละ”

 

ในตาของโอโตฮะตอนนี้ ดูยังกับคนตายจริงๆ เลยล่ะ

 

“จ- จะตายแล้ว…”
“เดินได้ดีมากค่ะ ทำได้ตามแผนเลย เราลงมาจากภูเขาลูกที่ 2 เรียบร้อย”

 

คงเพราะความยึดติดหลงใหลในตัวท่านโนอะของเธอนั่นแหละ โอโตฮะถึงดึงเอาลูกฮึดออกมาได้อย่างน่าตกใจ จนเดินมาถึงเป้าหมายของเราจนสำเร็จได้แบบนี้

 

“คืนนี้ เราตั้งแคมป์กันที่นี่ก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องการเตรียมการให้เอง โอโตฮะ เธอพักได้เลยนะคะ”
“ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน ฉันก็ปล่อยให้คุณคุโระจัดการทุกเรื่องไม่-… อ๊ก! ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันก็ไม่ได้เหนื่อยด้วย”
“จะว่าไป พอฉันมาลองคิดดูแล้วนี่ ทั้งๆ ที่เดินมาตลอดเลยแท้ๆ แต่คุณกลับไม่หอบซักนิดเลย มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอเจ้าคะ?”
“ระหว่างเดิน ฉันใช้เวทความมืดลบ [ความเหนื่อยล้า] ออกไปเอาค่ะ”
“ลืมไปซะสนิทเลยเจ้าค่ะว่าคุณเองก็เป็นสัตว์ประหลาดอย่างไม่มีข้อโต้แย้งด้วยเหมือนกัน…”

 

โอโตฮะนี่ใจกล้าดีจังเลยนะ ถึงได้พูดอะไรหยาบคายแบบนั้นออกมา

เพราะสภาพของเธอตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว หมดสภาพอย่างสิ้นเชิง ฉันเลยให้เธอไปนั่งตรงขอนไม้ใกล้ๆ ก่อน ในระหว่างที่ฉันเอาเต็นท์ออกมากาง

จากนั้นก็ใช้ศิลาเวทที่จุเวทไฟเอาไว้เพื่อจุดไฟ ก่อนจะเอาหม้อกับกระทะใบเล็กออกมา และเริ่มทำอาหารจากวัตถุดิบที่ฉันเอามาด้วย

 

“นี่ค่ะ ซุปนี่ช่วยฟื้นแรงจากอาการเหนื่อยล้าได้นะคะ”
“…”
“มีอะไรผิดปกติเหรอคะ?”
“เปล่าเจ้าค่ะ ก็แค่… เป็นอีกครั้งที่ฉันเพิ่งจะสังเกตเห็นว่า คุณคุโระมีความเป็นแม่ศรีแม่เรือนมากขนาดไหนกัน”
“พูดแบบนั้นหมายความว่ายังไงคะ”
“ถ้าฉันแต่งงานกับคุณหนูแล้ว คุณช่วยมาเป็นเมดให้พวกเราได้หรือเปล่าเจ้าคะ?”
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระแล้วก้มหน้าก้มตาทานๆ เข้าไปได้แล้วค่ะ”

 

โอโตฮะเริ่มจิบน้ำซุปเข้าปาก ฉันเองก็ตักเข้าปากไปช้อนนึงด้วยเหมือนกัน

 

“อร่อยเหมือนกับทุกทีเลยนะเจ้าคะ”
“ด้วยความยินดีค่ะ”
“ฉันไม่ยอมยกตำแหน่งภรรยาหลวงให้หรอกนะเจ้าคะ แต่ถ้าคุณจะเป็นสนมของคุณหนูล่ะก็ ฉันยอมรับได้นะเจ้าคะ”
“ฉันเริ่มจะคิดขึ้นมาแล้วสิคะว่าบางที การให้สแตจัดการเขียนบุคลิกนิสัยของเธอใหม่ทั้งหมดตั้งแต่รากเหง้าอาจจะเป็นความคิดที่ดีก็ได้”

 

บางที นั่นอาจจะเป็นคำชมระดับสูงที่สุดสำหรับโอโตฮะเลยก็ได้นะ แต่ฉันอดคิดว่า ‘นี่เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครน่ะฮะ’ ไม่ได้เลยเนี่ยสิ

 

“ขอบคุณสำหรับอาหารเจ้าค่ะ แล้วตอนนี้ เราจะเข้านอนกันเลยหรือเปล่าเจ้าคะ?”
“ไม่ค่ะ ยังหลับกันตอนนี้ยังไม่ได้”
“อย่างนั้นเหรอเจ้าคะ? ฉันเหนื่อยมากจนหลับสนิททั้งๆ แบบนี้ได้เลยนะเจ้าคะ”
“เปล่าค่ะ ไม่ใช่เรื่องนั้น”

 

ฉันตั้งใจฟังเสียงอย่างระมัดระวัง ก่อนจะมั่นใจแล้วว่ามีอะไรบางอย่างแปลกๆ ปะปนมากับเสียงลมยามค่ำคืนด้วยแน่นอน

 

“จริงๆ แล้ว มีเหตุผลสำคัญข้อนึงนะคะ ที่ว่าทำไมฉันถึงพาเธอมาที่นี่ แทนที่จะเป็นสแต”
“เอ๊ะ? ไม่ใช่ว่าเพราะคุณไม่สามารถทำใจแยกคุณหนูกับสแตจากกันได้หรอกเหรอเจ้าคะ?”
“นั่นก็ส่วนหนึ่งค่ะ ดูสิคะ พูดถึงปุ๊บก็มาปั๊บเลย”
“…?”

 

―――*แคร้ง*

 

“เมื่อกี้ เสียงอะไรน่ะเจ้าคะ?”
“เสียงของพวกมันที่เข้ามาใกล้ขึ้นยังไงล่ะคะ”
“พวกมัน?”
“ค่ะ ฉันว่าให้เธอเห็นเองน่าจะเร็วกว่านะ”

 

―――*แคร้ง แคร้ง*

 

“เสียงเหมือน โลหะกระแทกกับอะไรหนักๆ เลยเจ้าค่ะ…?”
“ดูเหมือนพวกมันจะไม่ได้เยอะขนาดนั้นนะคะ”
“คือว่า คุณคุโระ เลิกทำให้มันลึกลับแล้วบอกฉันเลยได้หรือเปล่าเจ้าคะ? ตอนนี้มันเริ่มชักจะน่ากลัวแล้วนะ”

 

―――*แคร้งแคร้งแคร้งแคร้ง!!*

 

“เอ๋!?”
“อันที่จริงแล้ว พื้นที่บริเวณตีนเขาพวกนี้น่ะ”

 

ยิ่งเวลาผ่านไป เสียงพวกนั้นมันก็ทั้งดังขึ้นและเร็วขึ้นเรื่อยๆ

ก่อนที่ สิ่งที่โผล่ออกมาจากความมืดมิดนั้นก็คือ

 

‘กระโหลกมนุษย์’

 

“กรี๊ดดดดดดดดดด!?”

 

โอโตฮะตอบสนองกับสิ่งนั้นทันที เธอฉีดกรดรุนแรงเข้าใส่มันด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง ทำเอากระโหลกอันนั้นเหลวเละเป็นก้อนเมือกไปเลย

แต่ว่า ส่วนลำตัวของมันที่ไร้หัวแล้วตอนนี้ก็ยังวิ่งตรงเข้าใส่มาทางพวกเราอยู่ดี

 

“{แอซิดช็อต (กระสุนย่อยสลาย)}! {แลนซ์ออฟแอซิด (หอกเน่าสลาย)}! {ไฮโดรเอ็กซ์โพลชั่น (ระเบิดไฮโดรเจน)}!!”

 

ถึงดูแล้วเธอจะตกใจกลัวได้ง่ายเหมือนคนธรรมดาทั่วๆ ไป แต่โอโตฮะที่ตื่นตระหนกไปหมดก็ยังสามารถจัดการฆ่าโครงกระดูกพวกนั้นได้อย่างแม่นยำได้ ทำเกินไปเลยด้วยซ้ำ

 

“น- น- น-น-น-น-น-นั่นมันอะไร!? มันอะไรน่ะเจ้าคะ!?”
“โห โครงกระดูกทั้งร่างหายไปไม่เหลือร่องรอยเลยนะนั่น เยี่ยมเลยค่ะ คิดถูกจริงๆ ที่พาเธอมาด้วยน่ะโอโตฮะ”
“หมายความว่ายัง-”
“อะ มีข้างหลังเธออีกตัวแล้วนะคะ”

 

ตรงที่ฉันชี้ไปนั่น มีโครงกระดูกหน้าตาเหมือนตัวเมื่อกี้เป๊ะอีกราวๆ 20 ตัวโผล่มา

ชุดของพวกมันก็ต่างกันหมดนั่นแหละนะ แต่แทบทุกตัวจะมีอาวุธกับเกราะติดตัวนิดๆ อยู่ด้วย

 

“คุณคุโระ! ช่วยอธิบายด้วยเจ้าค่ะ!”
“พื้นที่บริเวณนี้ เป็นจุดชุกชุมของสัตว์ประหลาดกลุ่มอันเดดค่ะ”
“ว่าไงนะ!?”
“ว่ากันว่าพื้นที่ตรงนี้เคยถูกใช้เป็นป่าช้าฝังศพอย่างลับๆ มาก่อน จนมีกลิ่นอายอันไม่น่าอภิรมย์มาสะสมกันอยู่ระหว่างเทือกเขาเต็มไปหมด ทำให้ศพคนตายฟื้นกลับมาเป็นสัตว์ประหลาด แต่ก็ไม่มีพวกกลุ่มภูติผีวิญญาณปรากฏตัวให้เห็นอยู่แถวๆ นี้เลย มีก็แต่พวกอันเดดที่มีกายเนื้ออย่างสเกเลตันหรือซอมบี้น่ะ”
“ย- อย่าบอกนะคะว่าเหตุผลที่พาฉันมาที่นี่ด้วยก็คือ…”

 

โอโตฮะหันมาหาฉันอย่างหวาดๆ ความกลัวสื่อชัดมาทางสายตาเธอเลย

และฉันก็ตอบคำถามนั้นของโอโตฮะ

 

“อันเดดพวกนี้ไม่มีวิญญาณแล้ว ก็เลยไม่เหมือนกับพวกอันเดดประเภทผีสางหรือวิญญาณอาฆาต พวกมันไม่มีเจตจำนงเป็นของตัวเอง นั่นแปลว่าเวทมนตร์ของสแตจะไม่มีผลกับพวกมันเลย ในทางกลับกัน ฉันคิดว่าเวทมนตร์สายพิษของเธอน่ะเหมาะที่สุดในการรับมือกับพวกมันเลยล่ะ”
“ล้อกันเล่นใช่มั้ยเจ้าคะ!? คุณกำลังจะบอกให้ฉันรับมือกับเจ้าตัวประหลาดหน้าตาอัปลักษณ์พวกนี้เองคนเดียวงั้นเหรอเจ้าคะ!?”

 

การที่โอโตฮะพูดว่า ‘เองคนเดียว’ แบบนี้ แสดงว่าเธอตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ทันแล้วสินะ

ถูกแล้วล่ะ เพราะพวกมันตายไปแล้ว เวทมนตร์สายความมืดของฉันเองก็ใช้การกับพวกมันไม่ได้เหมาะเท่าไหร่ด้วย

 

“โอโตฮะ”
“อะไรเหรอเจ้าคะ?”
“พยายามเข้านะ”
“คนใจยักษ์! โหดร้ายที่สุด! ทำไมคุณถึงปล่อยให้เด็กผู้หญิงคนนึงต้องมารับมือกับเจ้าพวกนั้นคนเดียวแบบนี้ได้ล่ะเจ้าค- อ๊าาาาาา!! อย่าเข้ามานะ! ไปให้โพ้นนนนนนนนน!!”

 

TN: โปเกม่อน ภาค โกลด์แอนด์แบล็ก 555

ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด