[WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก 1 การเกิดใหม่ของสีดำ – จุดจบของเด็กสาวคนหนึ่ง

Now you are reading [WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก Chapter 1 การเกิดใหม่ของสีดำ - จุดจบของเด็กสาวคนหนึ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ความสุขน่ะ จะอยู่กับคนที่เหยียดหยามคนอื่น

 

ทุกครั้งที่ฉันได้ยินคนอื่นพูดจาแย่ๆ ฉันก็คิดแบบนี้ทุกรอบมาจากก้นบึ้งของหัวใจเลย

‘แม่ฉันน่ะน่ารำคาญจะตาย’ บ้างล่ะ ‘ที่แพ้เกมนี้ก็เป็นเพราะไอ้หมอนั่นนั่นแหละ’ บ้างล่ะ ‘พี่ฉันมันวุ่นวายชิบ ตายๆ ไปซะก็ดี’ บ้างล่ะ

แบบนั้นแหละ ทุกครั้งที่ฉันได้ยินเพื่อนร่วมห้องพูดก่นด่ากันไปกันมาพลางหัวเราะเสียงดังแบบนี้ ฉันอิจฉาพวกเขานะ

เพราะฉันน่ะ ทำแบบนั้นไม่ได้เนี่ยสิ

 

ครอบครัวของฉันน่ะ ล้มครืนมาหลายปีแล้ว

ไม่สิ พ่อกับแม่ฉันอาจจะไม่ได้เป็นครอบครัวกันมาตั้งแต่ก่อนที่ฉันจะเกิดอีกด้วยซ้ำ

พ่อเป็นประธานบริษัทเล็กๆ แห่งนึง เป็นพวกราคะจัด มองคนแค่ที่หน้าตา นอนกับผู้หญิงแค่เพื่อหาความบันเทิงเท่านั้นเอง

แล้วผู้หญิงคนนึงที่เป็นเหยื่อเขี้ยวพิษของพ่อดันเกิดท้องขึ้นมา พ่อเลยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแต่งงานกับเธอ ผู้หญิงคนนั้นก็คือแม่ฉันเอง แล้วฉันก็เกิดมาแบบนั้นแหละ

มันก็ยังเป็นปกติอยู่ได้ซัก 2-3 ปีนะ พ่อไม่เคยมองฉันเลย แม่ก็ทำกับฉันเหมือนกับเป็นแค่เนื้องอกก้อนนึง แต่ฉันก็ยังมีเงินพอกินพอใช้ได้อยู่

แต่ว่า วันนึง เรื่องอื้อฉาวของบริษัทพ่อก็ถูกเปิดเผย หุ้นก็เลยทิ่มหัวดิ่ง สุดท้าย บริษัทก็ต้องล้มละลาย แล้วครอบครัวเราก็ต้องติดหนี้ก้อนโต

หลังจากนั้น พ่อก็เป็นคนติดเหล้า พอเมาไม่มีสติก็เริ่มทุบตีฉัน

แม่เองก็ด้วย แม่หนีไปไหนไม่ได้เพราะแม่รักพ่อมาก เพราะแบบนั้น แม่ก็เลยเริ่มจะทารุณฉันด้วยเหมือนกัน

ตัวตนที่เป็นเหมือนกระสอบทรายช่วยระบายความเครียดให้พ่อกับแม่ นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้

 

ตั้งแต่วันแห่งฝันร้ายนั่น มันก็ผ่านมา 7 ปีแล้ว ขนาดตอนนี้ฉันอายุ 14 แล้วนะ พวกเขาก็ยังทำร้ายทารุณฉันอยู่เลย

ความต้องการจะต่อต้านมันถูกโยนทิ้งไปนานแล้วล่ะ ฉันไม่มีความคิดอยากจะตายอีกแล้วด้วยซ้ำ ทั้งหมดที่ฉันคิดได้มันมีแต่ความกลัวล้วนๆ

ตอนนี้ฉันยังไปโรงเรียนอยู่ แต่ก็อาจจะเพราะมันเป็นการศึกษาภาคบังคับเท่านั้นเอง

พอเรียนจบมอต้นแล้ว ฉันมั่นใจเลยว่ายังไงพ่อแม่ก็ไม่ปล่อยให้ฉันเรียนมอปลายแน่ คงจะบังคับให้ฉันไปทำงานที่ไหนซักที่นั่นแหละ

ในขณะที่เพื่อนร่วมห้องของฉันก็ได้เรียนในระดับที่สูงขึ้น สนุกสนานกับช่วงเวลาวัยรุ่นของแต่ละคน แต่ฉันต้องไปจบกับการรับจ้างแรงงานถูกสินะ

แต่ว่า ถ้าไม่ยอมทำตาม ฉันก็ต้องโดนทุบโดนตีอีก ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี อะไรที่เจ็บมันก็ยังเจ็บอยู่ดีนั่นแหละ เพราะงั้น ฉันก็ต้องฟังสิ่งที่พ่อสั่งตลอด

 

คนที่ดูถูกคนอื่นเนี่ย น่าอิจฉาจังเลย

ยังไงซะ มันก็เป็นเรื่องอิสระที่จะทำอยู่แล้วเพื่อจะทำให้ฉันขายหน้าเท่านั้นเองใช่มั้ยล่ะ?

การพูดจาเสียๆ หายๆ กับคนอื่นได้ ก็เพราะได้ใช้ชีวิตทุกวันอย่างสุขสบาย พ่อแม่มีข้าวมีน้ำให้กินอิ่มท้องได้ตลอดนั่นแหละ

น่าอิจฉาชะมัดเลย ฉันไม่มีความกล้าเหลือจะพูดจาแย่ๆ ถึงเรื่องพ่อกับแม่แล้วด้วยซ้ำ

พอฉันกลับมาถึงอพาร์ตเมนต์ที่เราอยู่ตอนนี้ ประตูห้องมันก็เปิดทิ้งเอาไว้อยู่แล้ว

…อ่า อีกแล้วสินะ

คนทวงหนี้คงจะงัดเข้ามาแหงๆ มันเลยวันกำหนดชำระหนี้มานานแล้วด้วยสิ

 

อยากจะไปฆ่าเวลาที่ไหนซักที่ก่อนจัง แต่ฉันถูกสั่งให้กลับบ้านทันทีเลยที่เลิกเรียน อีกอย่าง มันก็ไม่มีที่ไหนให้ฉันไปฆ่าเวลาได้ตั้งแต่แรกแล้วด้วย ใกล้ๆ นี่ไม่ได้มีสวนสาธารณะ ส่วนร้านกาแฟหรือร้านขายของพวกนั้น ฉันก็ไม่มีเงินเข้าหรอก

ฉันเดินเข้าไปใกล้ประตูทางเข้าอย่างกล้าๆ กลัวๆ

 

“กลับมาแล้วค่ะ…”

“โอ้ กลับมาแล้วเรอะ กำลังรออยู่เลย”

 

ทันทีที่มาถึงบ้าน ฉันรู้สึกได้ทันทีเลยว่ามันมีอะไรแปลกๆ

พ่อ กับแม่ หัวเราะกันอยู่

สำหรับฉัน เรื่องที่ปกติแล้วมันก็ไม่มีอะไรนี่แหละ มันทำให้ฉันกลัวจนทนไม่ไหวเลย

 

ว่าแล้วเชียว ในห้องไม่ได้มีแค่พ่อกับแม่จริงๆ ด้วย

มีผู้ชายอีก 3 คนที่ไม่ว่าจะดูยังไงก็ต้องไม่ใช่คนดีแน่ๆ แล้วคนพวกนั้นก็ยังมีรอยยิ้มน่าขยะแขยงอยู่บนหน้าของพวกเขาด้วย

 

“…ม- มีอะไรกันงั้นเหรอคะ?”

 

ในที่สุด คำถามมันก็หลุดออกมาจากปากของฉันจนได้

แต่ไม่มีใครตอบฉันเลย กลับกัน พวกผู้ชายพวกนั้นที่ฉันไม่รู้จักกลับมองที่ฉันด้วยสายตาที่ทั้งหยาบคายทั้งเหยียดหยามแทน

 

“เห คนอย่างแกเป็นหมาที่ไม่หวงก้างเลยเรอะ จะยอมจริงๆ เหรอเนี่ย?”

“อ้า ยังไงซะจากนี้ก็ต้องไปทำงานหาเงินตามปกติอยู่แล้ว ฉันรู้ดีน่าว่ามันจะหาเงินได้ซักเท่าไหร่”

“รู้งี้ก็น่าทำแบบนี้ตั้งนานแล้ว ค่ากินค่าอยู่มันแพงนะรู้บ้างมั้ย? ให้ตายสิ เพราะคุณตัดสินใจช้าแบบนี้ไง รู้บ้างมั้ยว่ามันต้องเสียเงินไปขนาดไหนน่ะ…”

“ไม่ใช่ซักหน่อย เพราะแบบนั้นถึงเลือกแบบนี้ไม่ใช่รึไง? แล้ว จะได้เงินตามที่ตกลงมั้ย?”

“อ้า ทางนี้รักษาสัญญาอยู่แล้ว ก็ ส่วนใหญ่ก็น่าจะหมดไปกับหนี้ที่พวกแกติดอยู่ล่ะนะ แต่ถ้าหน้าตายังงี้ ส่วนที่เหลือยกให้เลยก็ไม่มีปัญหาหรอก”

 

เพราะอะไรไม่รู้ ฉันไม่อยากจะเข้าใจเรื่องที่พูดนั่นเลย

แต่ว่า ฉันดันเข้าใจน่ะสิ

ไม่ว่ายังไง ฉันก็อยากให้มีซักคนปฏิเสธมันอยู่ดี สุดท้าย ฉันก็เลยถามออกไป

 

“เออ แบบว่า กำลังพูดเรื่องอะไรกันอยู่น่ะคะ”

“อืม? ไม่เข้าใจที่เพิ่งพูดกันรึไง? เป็นเด็กที่โง่อะไรขนาดนี้น่ะฮะ”

 

“แกนะ ตอนนี้ เพิ่งจะโดนพ่อแม่ขายไงเล่า”

 

รู้สึกเหมือนเข่าฉันมันจะทรุดลงตรงนี้เลย

 

“ใช้ร่างกายตัวเองน่ะ ใช้หนี้ซะ เป็นเรื่องโหดร้ายจริงๆ เลย บอกให้ลูกสาวตัวเองขายตัวตั้งแต่อายุ 14 น่ะว่ามั้ย? ไม่รู้นะว่าจะพูดยังไง แต่หัวใจความเป็นมนุษย์ยังอยู่กันรึเปล่าเนี่ย?”

“หา? ฉันเป็นพ่อมันไม่ใช่รึไง? ลูกต้องทำทุกอย่างเพื่อพ่อเพื่อแม่มันก็เป็นเรื่องปกตินี่”

“นั่นสินะ หาเงินอะไรไม่ได้ แต่ยังต้องกินต้องใช้ ต้องส่งไปเรียนด้วย ทิ้งตัวดูดเงินพรรค์นี้ไว้ที่นี่ก็ไร้ประโยชน์ นี่ แกน่ะ”

“…ซวยจริงๆ เลยนะมีพ่อแม่แบบนี้ เสียใจกับแกด้วยนะ ไอ้หนู แต่ก็นะ ทางนี้เองก็ต้องทำงานเหมือนกัน อย่าเสียใจไปเลย”

 

ก่อนที่ฉันจะทันรู้ตัว ทางออกของบ้านก็โดนกันเอาไว้แล้ว

ฉันพยายามมองไปรอบๆ จะร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีอะไรเลยซักอย่าง ฉัน จะโดนเอาไปขายแล้ว

 

“ม- ไม่ เอา…”

“ต่อให้แกไม่ชอบ แกก็ต้องทำ”

 

คำพูดเย็นชา ออกมาจากพ่อฉันเองเลย

ตอนนั้นแหละ ที่ฉันรู้สึกถึงอารมณ์นึงได้

ตลอดมาจนถึงวันนี้ จนถึงตอนที่ฉันอยู่ที่โรงเรียน ฉันแค่รู้สึกอิจฉาอย่างเดียว มันอาจจะผุดขึ้นมาตอนนี้ก็ได้ที่ฉันจะไม่ได้เจอทั้ง 2 คนอีก เป็นได้แค่เครื่องมือหาเงินเท่านั้น

 

ความโกรธ ความเกลียดชัง ความสะอิดสะเอียน

 

ความรู้สึกด้านลบนับไม่ถ้วนมันปั่นป่วนอยู่ในตัวฉันเลย ก่อนที่ฉันจะขยับตัวไปโดยอัตโนมัติ

ไปหาพ่อแม่ที่ฉันเกลียดน่ะเหรอ… ไม่ใช่อยู่แล้ว

แผลเป็นที่คนน่าสมเพชอย่างฉันจะทำใส่คนพวกนี้ได้น่ะ มันเล็กนิดเดียวเท่านั้นแหละ

เพราะงั้น ฉันก็เลยเดินตรงไป… ที่ห้องครัว

 

“ห- เห้ย จะทำอะไรของแก?”

 

ฉันไม่สนใจฟังเสียงของพ่อเลยซักนิด ก่อนจะออกมาพร้อมกับมีดทำครัวเล่มนึง

 

“เห้ย! เห้ย! จะทำบ้าอะไรของแก!? จ- จะฆ่าฉันเรอะ? คิดว่าใครกันที่ต้องลำบากเลี้ยงแกมาจนถึงป่านนี้น่ะฮะ!?”

“ช- ใช่! ที่ต้องคลอดแกมา เพราะค่าทำแท้งมันใช้เงินขนาดไหนแกรู้มั้ย! พอคลอดออกมาเลยก็ยังดูดเงินมากเข้าไปอีก! แค่ทดแทนบุญคุญพ่อแม่ของแกเองนิดๆ หน่อยๆ เนี่ย…”

 

พ่อแม่ที่เห็นแก่ตัวจนถึงวินาทีสุดท้าย กับพวกคนทวงหนี้ที่มองสิ่งที่จะเกิดขึ้นอยู่กันแบบอึ้งๆ

แต่ ฉันไม่ได้คิดจะฆ่าพวกคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ของฉันหรอก

ฉันอยากให้คนพวกนั้นน่ะ ได้ตกนรกทั้งเป็นไปเลย

ฉันกำมีดในมือเอาไว้แน่น

 

แทงมันที่ท้องของตัวเอง

 

“…ฮะ?”

 

เจ็บ แต่ กัดฟันทนเอาไว้

ฉันชักมีดออกมา แทงเข้าไปที่หัวใจของตัวเองอีกทีนึง ต่อด้วยกดมีดเข้าไปที่คอของตัวเอง

 

“ห- เห้ย! แกทำอะไร… ย- หยุดเดี๋ยวนี้!!”

 

พวกคนทวงหนี้รีบเข้ามาล้อมฉันเอาไว้ แล้วก็เอามีดทำครัวออกไป แต่มันสายไปแล้วล่ะ

ฉันตายแล้วล่ะ นี่ร่างกายของฉัน ฉันรู้ดี

 

ถ้าฉันตาย [ตัวทำเงินทำทอง] ของพ่อกับแม่ก็จะหายไป ทีนี้ พ่อแม่ก็ไม่เหลือทางจะจ่ายหนี้คืนได้แล้ว

ยังไงซะ หนี้มันก็เยอะมาก แถมไม่มีทางที่ทั้งคู่จะกลับเนื้อกลับตัว เริ่มทำงานกันอย่างเอาเป็นเอาตายหรอก เงินที่หามาได้ทุกเยน แค่จ่ายดอกเบี้ยของหนี้ไปมันก็หมดไม่เหลือแล้ว

 

“……สมน้ำหน้า”

 

ฉันพูดออกไปแบบนั้นด้วยเสียงที่แหบพร้า ใส่พ่อแม่ที่เหม่อสติหลุดลอยไปแล้ว

แล้ว ฉันก็ได้ยินเสียงไซเรนรถพยาบาลดังอยู่ที่ไกลๆ ก่อนที่สติจะดับวูบ

 

TN: แหม ดาร์ก แถม เรียล
น่าเศร้าที่สังคมจริงๆ ก็สามารถเกิดเรื่องแบบนี้ได้
ไม่เป็นไร น้องนางเอก ขอให้ได้เกิดใหม่มีชีวิตที่ดีจ้า~

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด