[WN]Konbini gōtō kara tasuketa jimi ten’in ga, onaji kurasu no ubude kawaii gyarudatta 23

Now you are reading [WN]Konbini gōtō kara tasuketa jimi ten’in ga, onaji kurasu no ubude kawaii gyarudatta Chapter 23 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ไม่เอา! จะอยู่กับริคุจัง! ไม่อยากแยกออกจากกัน!”

 

ที่เมืองตอนเย็น ข้างหน้าบ้าน

ฮารุโนะจังสะบัดมือสะบัดเท้างอแง ผมที่มัดที่ด้านข้างอาละวาดอย่างบ้าคลั่ง

 

แม่ของฮารุโนะที่ยืนอยู่ข้างๆจับมือของฮารุโนะเอาไว้แล้วยิ้มแบบกำลังเจอปัญหาอยู่

 

ผมที่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงก็เลยยืนอยู่นิ่งๆ

 

ที่ถนนข้างหน้าบ้านมีอยู่ทั้งหมดสี่คน ก็คือผมกับฮารุโนะจังตอนป.1 และแม่ของฮารุโนะกับพ่อของผม

 

ฮารุโนะจังที่อยู่ข้างๆบ้าน ก่อนที่ทันจะรู้ตัวก็เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่ได้อยู่ด้วยกัน

 

“ไม่เอา! ไม่กลับ! จะค้างที่บ้านริคุจัง!”

 

“พอได้แล้วฮารุโนะ คุณคุโรมิเนะลำบากใจนะเห็นมั้ย”

 

“จะอยู่กับริคุจัง! ริคุจังงงงง!”

 

ฮารุโนะเหวี่ยงมือของแม่เธอไปมาและร้องไห้

 

ในตอนนั้น พ่อของผมก็เอามือมาขยี้หัวผม 

 

“ฮิ้ว เนื้อหอมจริงนะริคุ! นี่ แล้วจะเอาไงละ พ่อหนุ่มเนื้อหอม! อยากชวนฮารุโนะจังมาบ้านมั้ย?”

 

“จ จะยังไงก็….ได้”

 

“ริคุจังคนบ้าา! ต้องบอกว่าอยากอยู่ด้วยกันสิ! ผู้ชายลังเลมันไม่ได้เรื่องหรอกนะ!”

 

“เอ่อ ถ้างั้น….อยากอยู่ด้วยกัน”

 

“ริคุจังคนบ้าา! ผู้ชายที่เอาแต่เอนเอียงไปตามความคิดคนอื่นมันไม่ได้เรื่องหรอกนะ!”

 

“ล แล้วจะให้ผมทำยังไงเล่าาาาาา!”

 

ผมก้มหน้าลงแล้วก็ถอนหายใจออกมา

 

“คุณฮารุคาเสะ ถ้าไม่ว่าอะไรคืนนี้ขอดูแลฮารุโนะจังได้รึเปล่าครับ?”

 

“แบบนั้นมันจะรบกวน….”

 

“ไม่หรอกครับ รบกวนอะไรนั่นน่ะ เชิญเจ้าหญิงที่น่ารักขนาดนี้มาที่บ้านได้เนี่ย สุดยอดไปเลยไม่ใช่เหรอครับ!”

 

คุณแม่ของฮารุโนะจังยิ้มแหย่ๆให้กับพลังงานที่ล้นเหลือของคุณพ่อ น่าอายหน่อยๆแฮะ

 

คุณพ่อมักจะทำตัวแปลกๆใส่ใครหลายๆคน แต่ถ้าสังเกตดูก็เป็นที่ชื่นชอบของหลายๆคน

ก็เคยได้ยินมาจากคุณแม่แล้วแต่เหมือนว่าคุณพ่อจะเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนในที่ทำงาน

 

“ไว้ใจได้เลยนะริคุ!”

 

“เอ๊ะ?”

 

“วัยหนุ่มของแกน่ะ ฉันคนนี้ขอให้สัญญาไว้เลย”

 

“…..”

 

คุณพ่อตบที่หน้าอกแล้วยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ

เพราะว่าผมยังอยู่ชั้นประถมก็เลยไม่เข้าใจความหมาย

 

 

ผมกับคุณพ่อพาฮารุโนะจังกลับบ้านด้วย มือขวาของผมถูกฮารุโนะจังจับเอาไว้แน่น

 

“มีอะไรเหรอป๊ะป๋ากลับช้า—-ตายจริง ฮารุโนะจัง”

 

พอเข้าไปในห้องนั่งเล่น แม่ที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ยืนขึ้นด้วยท้องที่ดูท่าทางจะหนัก

ทั้งนั่นทั้งใหญ่และป่องเป็นทรงกลม เหมือนว่าจะมีน้องสาวของผมอยู่ข้างในนั้นแหละครับ

 

“ถึงจะกะทันหันก็เถอะ แต่จะให้ฮารุโนะจังมาค้างที่บ้านเราน่ะ!”

 

“ก็กระทันหันจริงๆนั่นแหละจ้ะ อยากให้บอกกันสักนิดแต่ว่า……อือ ไม่มีปัญหาหรอกนะจ๊ะ”

 

แม่ที่พูดมาแบบนั้นก็ยิ่มมาอย่างอ่อนโยน เป็นสีหน้าที่แสนคุ้นตา

 

“คุณป้า! ท้องใหญ่จังเลย!”

 

“ใช่แล้วจ้ะ ข้างในมีน้องอยู่น่ะ”

 

“สุดยอดด! ขอจับได้รึเปล่าคะ?”

 

“ฮุฮุ ได้สิจ๊ะ มีชื่อว่าอาสึสะล่ะ ลองเรียกดุสิ”

 

ฮารุโนะจังปล่อยมือขวาของผมแล้ววิ่งเข้าไปหาคุณแม่

และลูบที่ท้องของคุณแม่เบาๆจากนั้นก็เอาหูแนบเพื่อฟังเสียง

 

“อ๊ะ ขยับด้วยล่ะ! อาสึสะจัง ฉันเป็นพี่สาวนะ”

 

“โฮะโฮ้ ฮารุโนะจังจะเป็นพี่สาวให้อาสึสะงั้นสินะ เท่านี้ก็หมดห่วงเรื่องหลานได้แล้วสิน้าา”

 

“หลาน? ทำไมถึงเป็นหลานเหรอคะ?”

 

“ฮ่ะฮ่า! นั่นน่ะแน่นอนว่าริคุกับ—“

 

“กำลังพูดอะไรกับเด็กๆอยู่น่ะคะป๊ะป๋า ถ้ามากไปกว่านั้นจะโกรธแล้วนะ”

 

“โอ๊ะ ต้องขอโทษด้วย พอดีว่าจินตนาการถึงวัยหนุ่มที่เจิดจ้าของลูกชายเราน่ะ”

 

วัยหนุ่มที่เจิดจ้ามันคืออะไรกันนะ

ถึงจะไม่เข้าใจก็เถอะ แต่ถ้าคุณพ่อมีความสุขผมก็มีความสุขด้วยเหมือนกัน

 

“คุณป้าคะ! หิวแล้วล่ะค่ะ!”

 

“นั่นสินะจ๊ะ ถ้างั้จะเตรียม—”

 

“รอประเดี๋ยวก่อนหม่าม้า เดี๋ยวฉันทำเองนะ! ไปนั่งเถอะ”

 

“ขอโทษที่รบกวนตลอดเลยนะ….”

 

“ไม่ต้องกังวลไป! ด้วยเวทมนต์ของฉันน่ะ แค่ไม่กี่นาทีแกงกะหรี่ก็เสร็จแล้วล่ะ!”

 

“ยอดเลย”

 

ฮารุโนะจังทำตาเป็นประกายและปรบมืออย่างมีความสุข

แต่ว่าผมน่ะรู้อยู่แล้วล่ะ….

 

“ก็แค่เอาแกงกะหรี่แบบถุงไปอุ่นเท่านั้นเองไม่ใช่รึไง……”

 

 

“ฮืมฮืมฮื~ม ริคุจัง แช่น้ำรู้สึกดีจังเลยเน๊าะ~”

 

ฮารุโนะจังอารมณ์ดีจนฮัมเพลงออกมา แล้วก็ใช้ผ้าเช็ดตัวที่เต็มไปด้วยฟองทำความสะอาดร่างกายของตัวเอง

 

หลังจากที่กินข้าวเย็นเสร็จผมกับฮารุโนะก็เข้าไปแช่น้ำด้วยกันสองคน

ตั้งแต่ขึ้นชั้นประถมมาผมก็เข้าคนเดียวตลอด การที่ได้เข้ากับใครสักคนเลยเป็นเรื่องที่แปลกใหม่

 

“ไม่ได้นะริคุจัง! ต้องล้างรักแร้ให้ดีกว่านี้สิ!”

 

“อือ”

 

“อ๊ะ จริงด้วย ฉันจะล้างตัวให้ริคุจังเองนะ!”

 

“ม ไม่เป็นไร ทำด้วยตัวเองได้อยู่!”

 

เพราะว่าเดินเข้ามาพร้อมกับยิ้มกว้างผมเลยลนลานและดึงตัวออก ตัวของตัวเองล้างเองได้

 

จากนั้นพวกเราก็ขัดตัวกันไปเรื่อยๆ

 

นึกถึงเรื่องตอนที่เรากินข้าวเย็นกันก่อนหน้านี้ได้

ตอนที่ผมกับฮารุโนะจังป้อนข้าวแกงกะหรี่กัน พ่อก็ยิ้มแล้วพูดว่า[เท่านี้ก็ตั้งหน้าตารอหลานได้แล้วสิเน๊าะ!]ด้วยความตื่นเต้นแบบสุดๆ

 

แค่ผมกับฮารุโนะจังสนิทกัน ทำไมถึงได้พูดถึงหลานกันนะ? ไม่เห็นจะเข้าใจเลย

 

พวกเราล้างตัวด้วยฝักบัวแล้วก็ลงไปแช่ในอ่างน้ำ คิดว่าออกจะร้อนไปสักหน่อย แต่ฮารุโนะจังกำลังหรี่ตาลงด้วยท่าทางที่รู้สึกดี

 

“อยากอยู่ที่บ้านของริคุจังไปตลอดเลยน้า-”

 

“ทำไมเหรอ?”

 

“ก็เพราะจะได้อยู่ข้างๆริคุจังไปตลอดไง! แล้วก็จะได้แช่น้ำด้วยกันแบบนี้ด้วย!”

 

“อือ นั่นสินะ”

 

พอได้อยู่กับฮารุโนะจังผมเองก็สนุก เพราะรู้สึกเหมือนกันเลยรู้สึกดีใจอยู่นิดหน่อย

 

“คุณแม่น่ะบอกว่าเราเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันแหละ!”

 

“เพื่อนสมัยเด็ก?”

 

“อือ! เพราะงั้นฉันกับริคุจังก็จะอยู่ด้วยกันไปตลอดเลยไง!”

 

เพื่อนสมัยเด็กเนี่ย มีความหมายแบบนั้นงั้นเหรอ? ไม่ค่อยเข้าใจเลยนะ

 

“ริคุจังกับฉันเราเป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน~ ฮืมฮืมฮื~ม”

 

แค่ได้อยู่ข้างๆผมฮารุโนะจังก็อารมณ์ดีสุดๆเลยล่ะ ผมเองก็ดีใจ

งั้นเหรอ นี่สินะคือเพื่อนสมัยเด็ก

ผมพยักหน้ายอมรับ

แล้วก็ฟังเสียงฮัมเพลงของฮารุโนะจังจนขึ้นจากการแช่น้ำ

 

 

พอขึ้นจากแช่น้ำก็ใช้เวลาอยู่กับพวกคุณพ่อที่ห้องนั่งเล่นจนถึงเวลานอน

 

ตอนนี้ผมกับฮารุโนะจัง กำลังซุกอยู่ที่เตียงของผม

เพราะว่าปิดไฟไปแล้วห้องเลยมืดสนิท

ดูเหมือนว่าคุณพ่อจะยังอยู่ที่ห้องนั่งเล่นที่ชั้นหนึ่ง

 

“นี่ๆริคุจัง”

 

“……?”

 

เพราะว่าถูกเรียกชื่อผมก็เลยพลิกตัว ฮารุโนะจังที่หนุนหมอนใบเดียวกันจ้องมาที่หน้าของผมด้วยใบหน้าที่ดูมีความสุข

 

“มาหาอะไรเล่นกันเถอะ”

 

“แต่ว่า…..คุณพ่อบอกให้นอนได้แล้ว….”

 

“แค่นิดเดียวเอง นะ?”

 

“อื-อ แต่ว่าผมง่วงอะ….”

 

“โธ่! ถ้างั้นก้เอาแบบนี้!”

 

ฮารุโนะจังบีบแก้มของผมและนวดเบาๆ เหมือนกับว่าจะเปลี่ยนรูปทรงของแก้มผมเป็นโมจิ

 

“ฮ ฮาฮุโนะจัง….!”

 

ผมไม่ยอมและสวนกลับไป ด้วยการจับแก้มของฮารุโนะแล้วนวด

ถึงจะไม่เข้าใจว่าสนุกตรงใหนแต่ว่าเราจดจ่ออยู่กับการจับแก้มของกันและกัน

 

“แก้มของริคุจังนุ่มนิ่มจังเลยย”

 

“ของฮารุโนะจังเองก็นุ่มเหมือนกันนะ”

 

ฮารุโนะจังทำหน้าหย่อนๆและยิ้มแบบไร้เดียงสาออกมา รู้สึกว่าผมเองก็ทำหน้าแบบนั้นเหมือนกัน

 

ถึงจะอธิบายความรู้สึกดีออกมาได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่……แต่ว่าเป็นความรู้สึกที่มีความสุขมากๆเลยล่ะ

 

“โฮ้ก มีเด็กไม่ดีที่ไม่ยอมนอนอยู่รึเปล่านะ”

 

“”—-!””

 

จู่ๆประตูก็เปิด และมีเสียงเบาๆที่ทำให้นึกถึงยักษ์ด้วย

นี่มัน—คุณพ่อ

ไล่ของผมและฮารุโนะจังสั่นด้วยความตกใจ และรีบปิดตาด้วยความลนลาน

ถึงปกติจะร่าเริงและเป็นพ่อที่แปลกๆ แต่ว่าตอนที่โกรธก็คือโกรธ

ผมปิดตาแน่นและภาวนาเพื่อให้ไม่ถูกจับได้ว่ากำลังตื่นอยู่

 

“ไม่ได้ตื่นอยู่สิน้าา~”

 

เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาทีละเล็กทีละน้อย รู้สึกได้เลยว่าอยู่แถวๆนั้น เหมือนกำลังโดนแอบมองอยู่เลย

 

“…….โอ๋ๆ นอนไปนะ ถ้างั้นตอนนี้ก็ พาริคุไปลงนรกเลยล่ะกัน”

 

มือใหญ่ๆผ่านเข้ามาที่ด้านข้างของผม และตัวของผมก็ถูกยกขึ้น

รู้สึกตัวก็หลังจากที่ลอยขึ้นแล้ว—

 

“ไม่เอานะ! อย่าพาริคุจังไปนะ!”

 

ได้ยินเสียงร้องไห้ก็เลยเปิดตาขึ้น

ตาของฮารุโนะจังเปียกชื้น และกำลังเกาะเอวของคุณพ่ออยู่

จากนั้นคุณพ่อก็หัวเราะแบบแปลกๆ[กุฮุฮุ] และพูดด้วยเสียงแหบแห้ง

 

“ยังตื่นอยู่จริงๆด้วยสินะ! งั้นก็พาลงนรกไปด้วยกันทั้งคู่นี่แหละ!”

 

“ไม่เอา! แงงงงงง!”

 

เพราะผมชินกับความแปลกของพ่อไปแล้วก็เลยไม่ได้คิดอะไร

 

แต่ว่าฮารุโนะจังนั้นไม่ใช่ คงจะตกใจจากการที่พ่อของผมต่างไปจากปกติ เลยร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว

 

“เดี๋ยวเถอะป๊ะป๋า! มาแกล้งเด็กๆคิดจะทำอะไรเนี่ย!”

 

แม่ยืนที่ทางเข้าของห้อง แถมยังทำหน้าที่ดูโกรธมากๆเลยด้วย

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า! พาหม่าม้าไปนรกด้วยแล้—”

 

“ไม่มีค่าขนมเดือนหน้า”

 

“ขอประทานโทษประทานอภัยอย่างสูงเลยขอรับ”

 

คุณพ่อก้มหัวขอโทษอย่างลึกซึ้ง

แม้แต่ผมที่เป็นเด็กเห็นแล้วก็ยังคิดว่าเป็นการโค้งคำนับที่สวยงามมากๆ

 

“ริคุ เตรียมเอาไว้ไห้แล้วนะ”

 

“จำไว้ด้วยละ นี่น่ะคือทฤษฎีสพานแขนไงละ”

 

“……”

 

ถึงจะไม่เข้าใจความหมายของทฤษฎีสะพานแขนก็เถอะ แต่คิดว่าใช้คำผิดคำแน่ๆ

 

“เอ้า ไปได้แล้วป๊ะป๋า”

 

“เจ็บๆ ริคุ ดุแลรักษาฮารุโนะจังยิ่งชีพซะนะ! หลานน่ะ คาดหวังไว้อยู่นะ!”

 

“ป๊ะป๋า! ยังจะพูดถึงเรื่องแบบนั้นอยู่อีกเหรอ! คนที่จะโค้งคำนับให้คุณฮารุคาสะทีหลังมันฉันนะคะ!”

 

สุดท้ายแล้วคุณพ่อที่มีความหมายไม่ชัดเจนก็โดนคุณแม่ดึงหูพาลากกลับไป

ผมกับฮารุโนะจังถูกทิ้งไว้ในห้องที่มืดสนิทและมีเสียงอึกทึก

 

“….คุณพ่อของริคุจังเนี่ยเป็นคนแปลกๆสินะ…..ฮึก”

 

“คนแปลกๆ? พูดถึงเรื่องอะไรเหรอ?”

 

“อ๊ะ ขอโทษนะ ทั้งที่เป็นพ่อของริคุจังแท้ๆ…”

 

“เปล่า อันนั้นน่ะ…คนงั้นเหรอ?”

 

“เอ๊ะ ทางนั้น?”

 

มันเป็นคำถามง่ายๆ คนที่พูดกับเด็กที่นอนอยู่ว่า[จะพาไปนรกแล้วน้าา!]คิดว่าไม่ใช่คนหรอกนะ

พอสงบสติอารมณ์ลงได้ผมกับฮารุโนะก็นอนลงบนเตียง 

เราหันหน้าหากันและกัน และผมเห็นใบหน้าของฮารุโนะจังอยู่เต็มทั้งสายตา

 

“ริคุจัง ส่งมือมาหน่อยสิ”

 

“หืม…?”

 

ยืนมือขวาออกไปตามที่บอก

จากนั้นก็จับมือซ้ายของฮารุโนะไว้แน่นๆ

 

“เท่านี้ก็จะไม่แยกออกจากกันแล้วเน๊าะ”

 

“ฮารุโนะจัง…”

 

“จะอยู่ด้วยกันตลอดไปเลยนะ”

 

เหมือนกับฮารุโนะจังพูดกับผมและพูดกับตัวเองด้วยความระมัดละวัง

 

อยู่ด้วยกันไปตลอด…นั่นคงเป็นเพื่อนสมัยเด็กสำหรับฮารุโนะจังสินะ

 

เราจับมือกันโดยที่เหมือนนิ้วพันกัน แล้วค่อยๆหลับตาลง

แม้จะอยู่ในโลกที่มืดมิดแต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของฮารุโนะ

 

“ฟี้ ฟี้ ฟี้….”

 

ได้ยินเสียงหายใจที่แผ่วเบามาจากทางฮารุโนะจัง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ร่าเริงขนาดนั้นแท้ๆ แต่เหมือนจะผล่อยหลับไปไวกว่าผมซะอีก

 

“…….”

 

สติของผมค่อยๆจมดิ่งลงไป

ในขณะที่รับรู้ถึงตัวตนของเพื่อนสมัยเด็กคนสำคัญที่มือนี้

 

======จบตอน======

ฉากย้อนวันคืนที่แสนสุข

ーーーーーーーーーーーー

ติดตามผลงานอื่นๆกับสนับสนุนผู้แปลได้ที่

ดอกไม้ไฟ | Facebook

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด