(wn)Shimotsuki-san wa mobu ga suki 16
…..หลอกลวงซะ
…..เสแสร้งซะ
…..ตบตาซะ
พูดแบบนั้นใส่ตัวเอง แล้วก็ส่งรอยยิ้มให้กับริวซากิ
“ไม่มีอะไรจริงๆนะ? แย่จังน้า ว่าแล้วเชียว ชิโมสึกิซังนี่เป็นผู้หญิงที่ระวังตัวมากเลยนะ อุตส่าห์จีบแล้วแท้ๆ แต่ไม่มีหวังเลย”
“จีบ? นี่นาย จะจีบชิโฮะอย่างงั้นหรอ?”
“แย่จังนะ ก็นั่นไงน่ารักขนาดนั้น…..ถึงจะพูดด้วยยากก็เถอะ อืม แล้วก็ขอร้องให้เธอมาทานข้าวกลางวันด้วยกันน่ะ เพราะชิโมสึกิซังใจดี…..ถึงจะไม่เต็มใจ แต่เธอก็ยอมทานด้วยกัน”
พอพูดจบริวซากิก็หย่อนไหล่ตัวเองลงเหมือนกับสบายใจ
“อะไรกัน แบบนั้นเองหรอ…..แค่ผู้ท้าชิงเองสินะ”
“อุเหะเหะ ก็นะ ถึงสุดท้ายจะไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยก็เถอะ! แต่ว่านะ เพราะมีผู้หญิงสวยขนาดนั้นอยู่ในห้องเดียวก็อยากลองซักตั้ง…..เลยเรียกมาที่นี่ เพื่อจะจีบ แต่ริวซากิก็มากันพอดีเลย เพราะแบบนั้น ชิโมสึกิซังเหมือนจะไม่พอใจและก็กลับไปเลย”
สวมหน้ายิ้มต่อไป
ความเจ็บปวดในใจนั้นคงเพราะ ศักดิ์ศรีของตัวเอกที่เคยเข้าใจผิดไป อาจจะยังมีหลงเหลืออยู่ที่ไหนซักที่
ของแบบนั้น ไม่ต้องการหรอก
ผมเป็นแค่ตัวประกอบน่ะดีแล้ว
สิางที่จะสร้างความลำบากให้กับชิโมสึกิน่ะ ทิ้งมันไปก็ได้
…..ยกย่อง
…..ประจบ
…..กระดิกหาง
อย่างไงก็ตาม เล่นเป็นนักเรียนชายม.ปลายผู้น่าสงสารนี่แหละ
กลายเป็นตัวละครไร้ชื่อ ที่ริวซากิคิดว่า ‘ตัวตนที่ไม่มีความสำคัญ’ นี่แหละ
“แย่จังน้า บางทีนั่นน่ะอาจจะถูกปฏิเสธไปแล้วก็ได้มั้ง…..ช่วยไม่ได้นะ ชิโมสึกิซังเป็นดอกฟ้าซะด้วยล่ะนะ! แต่ว่า ผมไม่ยอมแพ้หรอก ไม่ว่าจะกี่ครั้ง ก็จะท้าทาย!”
แสร้งทำตัวงี่เง่า
เล่นเป็นตัวตลกที่ไม่สมหวังในความรัก
เห็นผมเป็นแบบนั้น ริวซากิก็หมดความสนใจอย่างชัดเจน
“งั้นหรอ…..นายเรียกออกมาที่นี่เพื่อสร้างบรรยากาศเองสินะ เข้าใจผิดไป โทษที นั่นสินะ ไม่มีทางที่ชิโฮะจะมีเรื่องปิดบังกันหรอก…..เพราะเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันอย่างไงล่ะ”
แบบนั้นแล้ว ทำให้การเซ็ตค่าสมบูรณ์แบบ
นี่น่าจะเป็นความทะนงตนของตัวเอก แต่ก็มองว่าเป็นจุดอ่อนเหมือนกัน
ล่อลวงง่ายดายแบบนี้ ทำให้โล่งอก
และก็เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนชิโมสึกิอีก….ต้องทำการวางเบี้ยไว้ก่อน
“เพื่อนสมัยเด็กนี่แข็งแกร่งจังเลยนะ! แต่วะ ผมเองก็ไม่แพ้หรอก…..ซักวัน จะสนิทกับชิโมสึกิซังให้ดู!”
เล่นเป็นไอ้โง่ที่ทำตัวร่าเริง
จากนี้ไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือแม้แต่คุยกับชิโมสึกิ ริวซากิก็จะคิดว่า ‘แค่ตัวประกอบที่เรียกร้องความสนใจ’
“ดูให้ดีล่ะ! ผมเองน่ะ ถ้าจะทำก็ทำได้นะ!”
คงเห็นผมเป็นคนง่ายๆสินะ ริวซากิดูถูกผมอย่างเห็นได้ชัด และก็หัวเราะ
“หึ…..เอาเถอะ พยายามเข้าล่ะ ชิโฮะเป็นผู้หญิงที่ยากเอามากๆ บางที่คงไม่ไหวหรอกนะ คนที่เข้าใจเธอได้มีแค่เพื่อนสมัยเด็กอย่างชั้นเท่านั้นแหละ”
ดูเหมือนจะรู้สึกดีขึ้นมากเลยสินะ
ริวซากิยิ้มอย่างชื่นใจ และยื่นมือออกมา
“ชั้นน่ะ เข้าใจนากายะมะผิดไป นายน่ะ เป็นคนน่าสนใจมากเลยนะ……จากนี้ไปก็เป็นเพื่อนกันเถอะ”
…….มีอะไรน่าสนใจกัน?
เห็นตัวประกอบที่พยายามจะยื่นมือไปหานางเอกหลักเป็นเรื่องตลกหรอ?
ผมเป็นเพื่อนกับนาย?
เรื่องบ้าบอแบบนั้น พอแค่นั้นแหละ
“ไม่ไหวอะ”
“………เอ๋?”
ไม่มีทางหรอก
แค่เรื่องนี้เท่านั้น ที่เสแสร้งไม่ได้
ไม่ว่าจะหลอกตัวเองแค่ไหน หรือแสดงเป็นคนโง่แค่ไหน……มีแค่อย่างเดียวเท่านั้น ที่มีความรู้สึกว่าไม่อยากหลอกตัวเอง
ーผมน่ะเกลียด ริวซากิ
จากก้นบึ้งหัวใจ ผมเกลียดสุดๆ แต่แน่นอนว่าไม่พูดหรอก
ถ้าพูดถึงขนาดนั้น ผมจะไม่สามารถลบตัวตนให้สมเป็นตัวประกอบได้ ดังนั้นจึงสวมรอยยิ้มที่เป็นมิดออกไป
“ก็เพราะ เป็นคู่แข่งเบอร์1ของผมไงล่ะ! ถ้าริวซากิอ่อนข้อให้เพราะเป็นเพื่อนกันล่ะก็ ทั้งชีวิตผมคงสนิตกับชิโมสึกิซังไม่ได้…..ถึงรู้ว่าจะชนะไม่ได้ก็เถอะ แต่ขอท้าดวลเถอะ!”
บอกเหตุผลไปชัดเจน
พอทำแบบนั้นแล้ว ริวซากิที่ทำหน้างงอยู่แป๊บนึง ก็ดูโล่งใจขึ้น
“อยู่ดีๆก็จ้องกันแบบนั้นตกใจหมดเลยนะ…..ถ้าพูดแบบนั้น คงช่วยไม่ได้สินะ ถึงจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้ แต่ก็ฝากตัวด้วยละกัน!”
ริวซากิที่พูดออกมาอย่างไร้กังวล บางทีคงเห็นผมเป็นแค่ปลาซิว
ดูเหมือนว่าการหลบเลี่ยงจะสมบูรณ์แบบ
แบบนี้ ริวซากิคงจะไม่ไปรบกวนชิโมสึกิแล้วมั้ง
“ถ้างั้น ชั้นกลับห้องก่อนนะ นากายะมะเองก็ อย่าให้สายล่ะ?”
ทิ้งคำพูดไว้ ริวซากิก็กลับไป
พอมั่นใจว่าเขาไปแล้ว ผมก็ถอนหายใจออกมา
“ฟู่ว….”
ผมล้มนั่งลงตรงนั้นและกำหมัด
“….อึก!!”
และก็ต่อยลงไปที่พื้นทั้งๆแบบนั้น เพื่อปลดปล่อยความโกรธ
“…..เจ็บจังนะ”
มองมือที่ชุ่มเลือด ความใจเย็นก็กลับมา
เผลอยกยอไปซะแล้ว เผลอวางท่าใส่ตัวเอกไปซะแล้ว อย่างที่คิด ถึงจะน่าเจ็บใจก็เถอะ….ก็แบบนี้ดีแล้วล่ะ
“เพราะเป็นตัวประกอบ ความรู้สึกน่ะ ไม่ต้องการหรอก”
พูดประชดและฝืนยิ้มออกมา
เฮ่อ….ไม่ต้องดูกระจกก็รู้ รอยยิ้มที่กำลังปรากฏตอนนี้ ต้องเป็นรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวจนทนมองไม่ได้แน่นอนแหละนะ…….
Comments