(wn)Shimotsuki-san wa mobu ga suki 58

Now you are reading (wn)Shimotsuki-san wa mobu ga suki Chapter 58 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

พระเอกที่ถูกอาสึสะสารภาพรักนั้นได้ความมะ่นใจมา ทำให้จุติก้าวข้ามความโง่ของตัวเองมาได้ ตามความจริง ควรจะดำเนินตามเนื้อเรื่องไปสู่แฮปปี้เอนด์

 

ริวซากิเรียวมะคงจะก้าวกระโดดอย่างมากจากเหตุพลิกผันครั้งนี้ เริ่มต้นที่ชิโมสึกินางเอกหลัก จากนั้นก็จะได้นางเอกรองมาทีละคนในภาคต่อไป

 

แต่ว่า คนที่เข้ามาขัดขวางสิ่งนั้นกับเป็นเพียงตัวประกอบ

 

นากายะมะโคทาโร่

หรือก็คือ ผมคือสิ่งที่คำนวนพลาดไปเพียงอย่างเดียวสำหรับริวซากิเรียวมะ

ผมที่ไม่รู้ควรจะเป็นอะไรดี เพราะชิโมสึกิ ทำให้ผมได้รับบทบาทมา ผมแสดงเป็นตัวร้ายสำหรับพระเอก เพื่อเธอ จากนั้นก็ได้ทำการซัดหมอนั่น

 

จากนั้น เรื่องราวก็พังทลาย

เรื่องราวฮาเร็มของริวซากิเรียวมะที่รักษาสภาพมาได้ตลอดนั้น……ถูกคนนอกอย่างผม ทำลายลง

 

“ทำไม ถึงเป็นนายล่ะ? ทำไมล่ะ เป็นแค่ตัวประกอบจืดชืดไม่มีอะไรเด่นแท้ๆ ถึงได้เป็น ‘คนพิเศษ’ของชิโฮะล่ะ นากายะมะ ทั้งๆที่นายไม่มีอะไรพิเศษแท้ๆ……ชั้นน่ะ เหมาะกับชิโฮะมากกว่าแท้ๆ”

 

แม้จะพูดไปแล้ว แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม

ตอนนี้ ชิโมสึกิอยู่ข้างผม และคนที่ทำให้เธอร้องไห้ก็คือริวซากิ

 

“ชิโฮะก็ด้วย ทำไมเธอถึงไม่มองมาบ้างล่ะ……เพราะชั้นชอบชิโฮะ เลยต่อให้โดนสาวคนอื่นล่อขนาดไหน ก็อดทนมาตลอดเลยนะ? ถึงจะมีสั่นคลอนอยู่หลายครั้ง แต่เพราะในหัวชั้นนึกถึงใบหน้าของชิโฮะ เลยอดทนมาได้แท้ๆ มีแค่ชิโฮะที่พิเศษสำหรับชั้นแท้ๆ…..”

 

จากคำพูดนั้นทำให้ผมอดทนไม่ไหว……จนเผลอหัวเราะออกมา

 

“ฮะฮะ…….อะไรวะ นั่นน่ะ? ว่าแล้วเชียว นายไม่เคยคิดอะไรนอกจากตัวจริงๆสินะ อดทนกับการล่อของหญิงอื่น? ชิโมสึกิพิเศษคนเดียว? อา ริวซากิเนี่ยขี้ขลาดจริงๆสินะ ที่จริงก็แค่กลัวใช่มั้ยล่ะ? ก็แค่เอาชิโมสึกิมาเป็นข้ออ้าง เพราะไม่มีความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความรู้สึกของผู้หญิงคนอื่นใช่มั้ยล่ะ?”

 

คำพูดนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นสิ่งที่ผมพูดเพราะเล่นเป็นตัวร้าย แต่เป็นสิ่งที่ผมคิดมาอยู่ตลอดเวลา

 

“เหลวไหลทั้งนั้น ผู้หญิงที่ชอบนายน่ะน่าสงสารจริงๆ……มองดูจากข้างๆ ก็น่าเห็นใจนะ พยายามสื่อความรู้สึกชอบออกไปให้ตั้งขนาดนั้น แถมยังเปิดเผยความรู้สึกออกมาให้เห็นโต้งๆขนาดนั้น แต่ไอ้โง่แบบนาย ก็ยังทำเป็นมองข้ามอย่างเดียว ความรู้สึกของพวกเธอน่ะ ถูกหักหลัง ถูกเหยียบย่ำ ถูกเตะทิ้ง สิ่งที่ทำไปก็ไม่ได้อะไรเลย แบบนั้นแล้วแกน่ะ ใจเดียว? อย่าบ้าไปหน่อยเลย”

 

ใบหน้าของน้องสาวผมเข้ามาในหัว

ผมไม่มีทางยกโทษให้หมอนี่ ที่มาทำร้ายครอบครัวคนสำคัญของผมแน่นอน

 

“อึก……ใจเดียวน่ะ ก็ใจเดียวไม่ใช่รึไง! ถึงจะโดนผู้หญิงคนอื่นสารภาพรัก ชั้นก็ชอบชิโฮะคนเดียว! เพราะงั้น สารภาพรักครั้งนี้ของชั้นจำเป็นต้องสำเร็จแท้ๆ……ถ้าไม่อย่างงั้น ชั้นจะเอาหน้าที่ไหน ไปพบกับพวกเธอที่สารภาพรักมาล่ะ”

 

อา ทำไมถึงเป็นคนขี้หยิ่งขนาดนี้นะ

ตัวตลกน่าสมเพชที่อวดเบ่งตำแหน่งพระเอกเนี่ย จะน่าขำก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

 

“เห้ยๆ อย่าทำให้ขำไปมากกว่านี้เลย…..ถ้าอยากให้อะไรตอบแทนคำสารภาพรักของเธอล่ะ แค่ตอบรับคำสารภาพรักของเธอก็พอไม่ใช่รึไง? อย่ามาพูดว่าปฏิเสธเป็นเรื่องที่ดีนะเว้ย อย่ามาพูดอย่างภาคภูมิใจถึงสิ่งที่ทำให้เจ็บนะโว้ย ไม่มีหน้าไปพบ งั้นหรอ? นายน่ะ ไม่มีทางได้พบใบหน้าแบบนั้นของผู้หญิงคนนั้นแล้วโว้ย!”

 

อยากให้เลิกพูดอะไรโง่ๆที่เป็นเพราะอาสึสะได้แล้ว

 

“ปล่อยเธอไปเถอะ อย่าสร้างภาระให้เธอคนนั้นไปมากกว่านี้เลย……นั่นน่ะเป็น’การไถ่บาป’เพียงอย่างเดียวที่นายจะทำได้แล้วนะ”

 

คำสารภาพรักของอาสึสะเป็นยาให้ริวซากิ

แต่ว่านั่นน่ะ ไม่ใช่ยารักษา เป็น’การโด๊ป’ที่ทำให้ถูกกระตุ้นต่างหาก

 

อาการของริวซากิยังไม่ได้ถูกรักษา

หมอนี่น่ะมันมี’ความโง่’ฝังรากไว้เลยไงล่ะ

 

ทั้งๆที่คิดแต่เรื่องของตัวเองแท้ๆ และก็เอาเหตุผลนั้นมายัดเยียดคนอื่น สารภาพรักครั้งนี้ก้ด้วย แค่อยากจะสารภาพรักกับชิโมสึกิ แต่ไม่ได้ทำด้วยความสมัครใจ เพราะปฏิเสธอาสึสะมา ก็เลยแค่จะเอาข้ออ้างนั้นมาใช้

 

เป็นคนที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ

 

“รู้สึกตัวได้แล้ว ตอนที่ถูกนายปฏิเสธ เธอทำหน้าแบบไหน? ยิ้มหรอ? เห็นเป็นแบบนั้นจริงๆหรอ? ……ไม่ได้ทำหน้าอยากจะร้องไห้เหมือนชิโมสึกิเมื่อกี้หรอ?”

 

ใบหน้าร้องไห้ของอาสึสะยังติดอยู่ในหัวของผม

ผมไม่มีทางลืม ร่างของเธอที่เจ็บปวดแบบนั้นได้อีกเป็นครั้งที่2

 

“เลิกหลบหน้าเพราะไม่อยากเห็นได้แล้ว ริวซากิ เป็นเพราะนายเลยทำให้มีผู้หญิงต้องเจ็บปวด ห้ามลืมเชียวนะ ถ้าดีใจกับคำสารภาพรักจากใจจริงแล้วล่ะก็…..ช่วยอย่าเอาความอับอายมาให้เธอมากกว่านี้เลย”

 

ขอร้องล่ะ อย่าทำให้อาสึสะต้องเจ็บไปมากกว่านี้เลย

คำพูดที่่อยู่ในใจผม….คงจะส่งไปไม่ถึงริวซากิหรอก

 

ไม่ว่าผมจะพูดอะไรไป พระเอกก็ไม่มีทางบิดเบือนความคิดตัวเองได้ด้วยคำพูดของผม

แต่ว่า ถ้าเพื่อนางเอกรองที่หัวหาหมอนั่นแล้ว…..พระเอกก็คงจะยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเองได้

 

“……อึก”

 

หมอนั่นเองก็ต้องรู้อย่างแน่นอน

คงนึกใบหน้าที่อยากจะร้องไห้ของอาสึสะได้

เพราะงั้นริวซากิจึงไม่พูดอะไร และทำได้แค่คอตกอย่างเดียว

 

เท่านี้ การจุติของพระเอกก็จบลงแล้ว

ผลของยาโด๊ปของอาสึสะหมดฤทธิ์ ก็กลับมาเป็น’ไอ้โง่’ดั่งเดิม

 

เอาล่ะ คงได้เวลาจบเรื่องแล้ว

ริวซากิเรียวมะ…..เรื่องราวที่ไร้สาระของนายน่ะ มันน่าเอือมระอาแล้วล่ะ…….

 

 

 

//คนแปลหนีไปเล่นมานคราฟต่อละ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด