Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ 684 กระบี่ปฏิญาณ

Now you are reading Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ Chapter 684 กระบี่ปฏิญาณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ท่ามกลางสายธารแห่งประวัติศาสตร์อันยาวนาน มักจะมีเหตุการณ์สำคัญที่สามารถสั่นสะเทือนได้ทั้งโลกเก้าร้อยล้านเกิดขึ้นเสมอมา

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เหล่านี้มันก็ยังพอที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ บางคนถึงขั้นทำนายมันได้ล่วงหน้า บางคนถึงขั้นล่วงรู้ถึงทุกรายละเอียดของมันได้ด้วยซ้ำ

ทว่าครั้งนี้มันต่างออกไป

มนุษย์แสงปรากฏตัวขึ้นโดยไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ

ไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะมาพร้อมกับประกาศใหม่ และบัญญัติกฎใหม่ขึ้น

แต่วินาทีเดียวก่อนที่ร่างของมนุษย์แสงจะประกาศต่อทั้งโลกสองร้อยล้านชั้นในดินแดนชิงอำนาจ

ตลอดทั้งดินแดนชิงอำนาจพลันชิงมืดฟ้ามัวดินลงอย่างกะทันหัน

แสงจรัสที่เปล่งประกายสดใส ลากเป็นทางแลดูคล้ายหางอันยาวเหยียด ปรากฏขึ้นในทุกสถานที่ของดินแดนชิงอำนาจ

ฉากนี้มันแลคล้ายกับฝนดาวตก

อย่างไรก็ตาม อำนาจอันยิ่งใหญ่ที่มิอาจอธิบาย ก็ได้ห่อหุ้มฝนดาวตกเหล่านั้นเอาไว้ ส่งผลให้ไม่มีใครสามารถตรวจจับต้นกำเนิดของฝนดาวตานี้ได้เลย

กระทั่งการดำรงอยู่ที่ทรงพลังที่สุดในดินแดนชิงอำนาจ  ทั้งหมดก็รู้เพียงแค่ว่ามีหลายสิ่งที่ไม่รู้จักได้ทำลายมิติและเวลา จากที่ไกลแสนไกล มายังดินแดนชิงอำนาจโดยตรง

แต่สิ่งที่ว่ามาเมื่อครู่นี้คืออะไร และวิธีการที่พวกเขาใช้เดินทางมาได้นั้น ไม่มีใครทราบคำตอบเลย

แม้แต่ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการตรวจสอบที่แข็งแกร่งที่สุด ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าฝนดาวตกพวกนี้หายไปที่ไหน

ฉากนี้มันกินเวลาเพียงวินาทีเดียว

วินาทีเดียวสั้นๆ

แค่วินาที

ฝนดาวตกทั้งหมดก็ถูกปกปิดตัวตน และหายไปโดยสิ้นเชิง

ราวกับว่ามันไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน

ดินแดนชิงอำนาจกลับคืนสู่สภาวะปกติ

และในเวลานั้นเอง เสียงของมนุษย์แสงก็ดังขึ้น

“โปรดทราบ ผู้ศรัทธาคนแรกที่สามารถจุดประกายต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว”

“หนทางสู่การเป็นเทพได้เปิดออกอย่างเป็นทางการ”

“อำนาจเทวะที่ถูกวางไว้โดยเทพวิญญาณจะถูกเปิดใช้งานในไม่ช้า”

“ดินแดนชิงอำนาจจะถูกซ่อนจากโลกเก้าร้อยล้านชั้น”

“นับจากนี้ไป ใครก็ตามที่ออกจากดินแดนชิงอำนาจ จะไม่สามารถเข้ากลับมายังดินแดนชิงอำนาจได้อีกเลยตลอดกาล!” ด้วยการประกาศของมัน ดินแดนชิงอำนาจก็ได้หายวับไปจากโลกเก้าร้อยล้านชั้น

นี่คืออำนาจเทวะของเทพวิญญาณทั้งเจ็ด ที่ทำการเปิดใช้งานกำแพงอุปสรรคอย่างเต็มกำลัง

โดยบทบาทเดียวของมันคือการซ่อน

…ซ่อนดินแดนชิงอำนาจทั้งหมดเอาไว้

ไม่มีใครรู้ว่าเทพวิญญาณทั้งเจ็ดกำลังคิดอยู่คืออะไร ทำไมถึงได้ทำการจัดวางมันไว้ล่วงหน้าแบบนี้

อย่างไรก็ตาม เหล่าทวยเทพคงไม่ทันคาดคิดเหมือนกัน ว่าฝนดาวตกจะวิ่งเข้ามาในช่วงเวลาก่อนที่ดินแดนชิงอำนาจทั้งหมดจะถูกซ่อนเอาไว้

บนยานอวกาศ

กัปตันตั้งใจฟังอย่างรอบคอบ เกี่ยวกับการประกาศของมนุษย์แสง

เขาไม่ได้เคลื่อนกายไปที่ใดเลย จนกระทั่งมนุษย์แสงหายไป

‘มีคนที่สามารถจุดประกายต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!’

กัปตันถอนหายใจ ดูเหมือนว่าห้วงอารมณ์ที่แฝงมากับในน้ำเสียงมันไม่อาจฝืนระงับได้อีกต่อไป

ใช่! โดยการจุดประกายต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ คุณจะสามารถได้ล่วงรู้ถึงทักษะและความรู้ของเทพ และใครบางคนก็ได้รับสิ่งนั้นไปก่อนแล้ว!

ย้อนมองกลับมาทางตนเองเล่า?

เขายังคงต้องพยายามดิ้นรนเพื่อหาเงินให้เพียงพอต่อการใช้เดินทางอยู่เลย

ไม่เพียงแค่ค่าเดินทางในการเดินทางไปกลับจากวิหารเท่านั้น

แต่มันรวมไปถึงหลังจากการจุดประกายต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ด้วย เพราะแค่การฝึกฝนความสามารถต่างๆของเทพวิญญาณ มันก็ต้องใช้เวลา และทรัพยากรไม่ใช่หรือ?

ซึ่งในโลกใบนี้ ถ้ามีเงินไม่เพียงพอ ไม่ว่าเรื่องใดก็คงไม่อาจทำสำเร็จได้

ไม่ต้องพูดถึงการเป็นเทพ แม้กระทั่งการรักษาสิ่งพื้นฐานที่สุดของมืออาชีพอย่างเกียรติและศักดิ์ศรี มันก็จำเป็นต้องมีทุนสนับสนุนที่เพียงพอกันทั้งนั้น

กัปตันก้มหน้าลง เงียบงันไปครู่หนึ่ง

มือของเขากำแน่น คลายออก กำแน่น คลายออก สลับวนเวียนซ้ำๆ

“ตอนนี้เกือบจะถึงเวลาแล้ว และภัยคุกคามเพียงอย่างเดียวของฉันก็คือวังเฉิง และวังเฉิงมันก็ยกเลิกการอัญเชิญภูตไปแล้วซะด้วย…”

“ดูเหมือนว่าฉันคงจะต้องทำทุกอย่างให้มันจบไปซะแล้วสิในตอนนี้”

‘ฉันได้เตรียมการมาไว้มากมาย ก็เพื่อเฝ้ารอให้วันนี้มาถึงไม่ใช่หรือ?’

‘แล้วยังจะต้องมามัวลังเลอะไรเกี่ยวกับมันอีก?’

กัปตันในที่สุดก็กำหมัดแน่น และตัดสินใจขั้นเด็ดขาด

อีกด้านหนึ่ง

กู่ฉิงซานยืนอยู่ในห้องส่วนตัวของวังเฉิง

หนังสือพิมพ์ในมือของเขาได้เปิดเผยถึงเนื้อหาของข่าวทั้งหมด

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภายนอกยานอวกาศ ในโลกสองร้อยล้านชั้นของดินแดนชิงอำนาจได้มีฝนดาวตกวูบหายไป

นั่นเพราะเขากำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ผิดปกติอย่างอื่นอยู่

หนังสือพิมพ์ลุกเป็นไฟ

กู่ฉิงซานไม่ทันจะได้มีเวลาตอบสนอง เสียงคำรามของเปลวไฟก็ผุดออกมาจากในอากาศที่ว่างเปล่า และเผาฉบับหนังสือพิมพ์ทิ้งไป

อย่างไรก็ตามหนังสือพิมพ์กลับมิได้ลอยเป็นเถ้าฟุ้งกระจาย

แต่มันกลับกลายเป็นบางสิ่ง ที่คล้ายๆ กับผ้าสีดำกำลังแผ่ขยายอยู่ในมือของกู่ฉิงซาน

สีหน้าของกู่ฉิงซานแปรเปลี่ยนไป

เมื่อเห็นถึงปรากฏการณ์นี้ เขาก็ตระหนักได้ว่ามันไม่ใช่หนังสือพิมพ์ธรรมดาๆ แต่คล้ายจะมีฟังก์ชันพิเศษอื่นๆ แอบแฝงมา

นี่คือหนังสือพิมพ์ที่เสี่ยวเหมียวเคยยัดใส่มือตัวเขาเอง

แต่ตอนนี้ เนื่องจากมันไม่น่าจะใช่หนังสือพิมพ์ธรรมดาแล้ว ดังนั้น ย่อมหมายความว่าเสี่ยวเหมียวต้องจงใจใส่อะไรบางอย่างที่แฝงความหมายอันลึกซึ้งเอาไว้แน่นอน

ซึ่งนี่มันแตกต่างไปจากสมองกล้ามเนื้ออย่างพี่ชายของเธอ เสี่ยวเหมียวน่ะมักจะวางแผน และมีความคิดมากมายอยู่เสมอ

แล้วถ้าเช่นนั้น ผ้าสีดำที่ซ่อนอยู่ภายใต้หนังสือพิมพ์มันคืออะไรกันแน่นะ?

กู่ฉิงซานไตร่ตรองด้วยความสงสัย

อย่างไรก็ตาม เห็นแค่เพียงบนผิวผ้าสีดำเริ่มเกิดแสงสว่างจางๆขึ้น

เริ่มจากจุดแสงเล็กๆ ค่อยๆ กลายเป็นแสงสลัว แล้วก่อให้เกิดหมอกควันขึ้น

นี่มันเป็นฉากที่ค่อนข้างจะแปลกมาก

ขณะที่กู่ฉิงซานกำลังสงสัย หน้าต่างเทพสงครามก็ส่องสว่างขึ้น

บรรทัดแสงหิ่งห้อยปรากฏลงใจกลางหน้าต่าง

“ผนึกผ้าดำได้ถูกเปิดออกแล้ว”

“คุณได้ค้นพบไอเท็ม ผ้าดำปริศนาแห่งกระบี่ปฏิญาณ”

“คุณภาพ อุปกรณ์พิเศษ”

“คำอธิบายตามพงศาวดารวันสิ้นโลก กระบี่ปฏิญาณ คือหนึ่งในองค์กรที่ลึกลับที่สุดในโลกเก้าร้อยล้านชั้น ข่าวที่เปิดเผยต่อสาธารณะไม่มีระบุว่าพวกเขากระทำสิ่งใดเลย แต่มีเฉพาะเพียงตัวตนทรงอำนาจระดับสูงเท่านั้น ที่ทราบว่ามันมีอยู่จริง”

“วิชายุทธ์เทพสงคราม ผ้าดำปริศนา เป็นไอเท็มพิเศษขององค์กรที่ใช้สำหรับการติดต่อกับมิติและเวลาบางแห่ง คุณไม่สามารถเรียนรู้ทักษะใดๆ จากมันได้”

กู่ฉิงซานกวาดสายตาอ่านจนจบ

และไม่รีรอให้เขาใช้เวลากลั่นกรอง ก็มีเสียงของผู้หญิงดังออกมาจากผ้าดำที่อยู่ใจกลางหมอกเย็น

“อีกฝั่ง…หนึ่ง…เป็น…ใครกัน?”

เสียงของหญิงสาวที่ฟังดูไม่ปะติดปะต่อ และแผ่วเบา คล้ายกับคนที่กำลังใกล้ตายดังขึ้น

เมื่อได้ยินถึงเสียงอันคุ้นเคยนี้ จิตฟุ้งซ่านของกู่ฉิงซานก็สงบลงโดยสมบูรณ์

เขาเอ่ยถามทันที “คุณคือหยุนจี? จ้าวแห่งหมอก ผู้คุ้มภัยแห่งโชคชะตาลี้ลับ ภัยพิบัติแห่งอาณาจักรทั้งมวล ใช่หรือเปล่า?”

ปรากฏเสียงรบกวนดังมาจากฝั่งตรงข้าม

จำต้องใช้เวลาสักพักเลย กว่าที่เสียงรบกวนเหล่านี้จะสงบลง

เสียงของผู้หญิงดังขึ้นอีกครั้ง

“กู่ฉิงซานหรือ? ฉันแค่รู้ว่ามีคนของพวกเราอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นนาย”

เธออ้าปากสูดลมหายใจ ดิ้นรนเอ่ยต่อด้วยความยากลำบาก “…อาการบาดเจ็บของฉันร้ายแรงเกินกว่าจะเคลื่อนไหวได้ ฉันทำได้แค่ส่งสัญญาณที่อยู่ให้กับนาย ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญอะไรต้องทำแล้วล่ะก็ ได้โปรดรีบมาช่วยฉันด้วยเถอะ”

เห็นแค่เพียงจุดแสงในหมอกหนารวมตัวเข้าด้วยกันจากผ้าสีดำ ก่อนจะไหลลงไปในมือของกู่ฉิงซาน ตรงไปยังทะเลแห่งห้วงสติของเขา

กู่ฉิงซานสามารถรับรู้ถึงตำแหน่งแบบเฉพาะเจาะจงของอีกฝ่ายทันที

“คุณรอก่อนนะ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ!”

เขาตะโกน

หยุนจี “ฉันจะไม่ไหวแล้ว แต่อย่างน้อยฉันก็พอที่จะบอกอะไรบางอย่างกับนายก่อนตายได้ เพราะฉะนั้นช่วยรีบมาเร็วๆด้วยเถอะ”

ดูเหมือนว่าคำกล่าวนี้จะใช้พลังของเธอจนหมดสิ้น เพราะเมื่อพูดจบ เสียงก็ถูกตัดไปทันที

กู่ฉิงซานแทบลืมหายใจ

เขาเร่งหยิบแผนที่นำทางจากในลิ้นชักและเริ่มตรวจสอบมันอย่างระมัดระวัง

ตามความทรงจำของวังเฉิง กู่ฉิงซานได้ทำการเทียบเปรียบพิกัด และจัดวางแผนภูมินำทาง จนสามารถค้นพบถึงตำแหน่งของหยุนจีได้อย่างรวดเร็ว

ตลาดมืดเกรย์แฮนด์

หยุนจีอยู่ในตลาดมืด!

อ้างอิงจากตามพิกัด มันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่!

กู่ฉิงซานเริ่มเค้นสมองคิดหาวิธีช่วยเหลือเธอทันที

นับจากช่วงเวลานี้ไป เขาได้ละทิ้งซึ่งแผนการทุกอย่างทั้งหมดที่ทั้งคิด ทั้งเตรียมการ โยนไปไว้เบื้องหลังโดยสมบูรณ์

ช่างหัวมันว่ายานอวกาศลำนี้จะมีความลับหรือปัญหาอะไรเก็บซ่อนอยู่ เพราะในปัจจุบันการช่วยคนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด!

ตอนนี้ ยานกำลังจะมุ่งหน้าไปยังตลาดมืดอยู่แล้วก็จริง แต่เนื่องจากเพราะพวกมอนสเตอร์มิติ ที่บางครั้งก็ปรากฏตัวออกมาระหว่างทางอย่างกะทันหัน ดังนั้นจึงต้องระมัดระวัง ไม่สามารถเร่งความเร็วยานได้

เขาจะต้องไปควบคุมยานอวกาศให้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด!

กู่ฉิงซานตัดสินใจ และรีบออกจากห้องของวังเฉิงอย่างรวดเร็ว

เขาตระหนักได้มาตั้งนานแล้วว่ากัปตันน่ะ มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าในเรื่องของเงิน

ดังนั้น เขาจะใช้เงินทั้งหมดของวังเฉิง แก้ไขปัญหาในข้อนี้

เพราะท้ายที่สุดแล้ว คำขอเดียวของเขาก็คือต้องการให้เร่งเครื่องเร็วขึ้น

กู่ฉิงซานก้าวฉับๆตรงไปยังห้องของกัปตัน

แต่สักพักหนึ่ง

ฝีเท้าของเขาก็ต้องหยุดลง

เพราะดันมีเรื่องแปลกๆ บางอย่างเกิดขึ้นรอบตัวเขา

กู่ฉิงซานตบลงในถุงสัมภาระ ชุดเกราะรบนายพลชั้นเฉินเว่ยบินออกมาและสวมทับใส่ร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว

เขาเอื้อมออกไปคว้าดาบขุนเขาเทวะหกโลกาไว้ในกำมือ

“จงเผยตัวออกมาเดี๋ยวนี้!”

กู่ฉิงซานตวาด

แต่ก็ไม่มีใครตอบเขา

อันที่จริงแล้วเรือทั้งลำบัดนี้กลายเป็นวังเวง ไร้สิ่งสรรพเสียงใดๆ

กู่ฉิงซานปลดปล่อยจิตสัมผัสเทวะออกมา กวาดไปตลอดทั้งลำยาน

…ไม่มีใคร

ทุกคนบนยานอวกาศหายหัวไปกันหมดเลย!

………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ 684 กระบี่ปฏิญาณ

Now you are reading Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ Chapter 684 กระบี่ปฏิญาณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ท่ามกลางสายธารแห่งประวัติศาสตร์อันยาวนาน มักจะมีเหตุการณ์สำคัญที่สามารถสั่นสะเทือนได้ทั้งโลกเก้าร้อยล้านเกิดขึ้นเสมอมา

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เหล่านี้มันก็ยังพอที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ บางคนถึงขั้นทำนายมันได้ล่วงหน้า บางคนถึงขั้นล่วงรู้ถึงทุกรายละเอียดของมันได้ด้วยซ้ำ

ทว่าครั้งนี้มันต่างออกไป

มนุษย์แสงปรากฏตัวขึ้นโดยไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ

ไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะมาพร้อมกับประกาศใหม่ และบัญญัติกฎใหม่ขึ้น

แต่วินาทีเดียวก่อนที่ร่างของมนุษย์แสงจะประกาศต่อทั้งโลกสองร้อยล้านชั้นในดินแดนชิงอำนาจ

ตลอดทั้งดินแดนชิงอำนาจพลันชิงมืดฟ้ามัวดินลงอย่างกะทันหัน

แสงจรัสที่เปล่งประกายสดใส ลากเป็นทางแลดูคล้ายหางอันยาวเหยียด ปรากฏขึ้นในทุกสถานที่ของดินแดนชิงอำนาจ

ฉากนี้มันแลคล้ายกับฝนดาวตก

อย่างไรก็ตาม อำนาจอันยิ่งใหญ่ที่มิอาจอธิบาย ก็ได้ห่อหุ้มฝนดาวตกเหล่านั้นเอาไว้ ส่งผลให้ไม่มีใครสามารถตรวจจับต้นกำเนิดของฝนดาวตานี้ได้เลย

กระทั่งการดำรงอยู่ที่ทรงพลังที่สุดในดินแดนชิงอำนาจ  ทั้งหมดก็รู้เพียงแค่ว่ามีหลายสิ่งที่ไม่รู้จักได้ทำลายมิติและเวลา จากที่ไกลแสนไกล มายังดินแดนชิงอำนาจโดยตรง

แต่สิ่งที่ว่ามาเมื่อครู่นี้คืออะไร และวิธีการที่พวกเขาใช้เดินทางมาได้นั้น ไม่มีใครทราบคำตอบเลย

แม้แต่ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการตรวจสอบที่แข็งแกร่งที่สุด ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าฝนดาวตกพวกนี้หายไปที่ไหน

ฉากนี้มันกินเวลาเพียงวินาทีเดียว

วินาทีเดียวสั้นๆ

แค่วินาที

ฝนดาวตกทั้งหมดก็ถูกปกปิดตัวตน และหายไปโดยสิ้นเชิง

ราวกับว่ามันไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน

ดินแดนชิงอำนาจกลับคืนสู่สภาวะปกติ

และในเวลานั้นเอง เสียงของมนุษย์แสงก็ดังขึ้น

“โปรดทราบ ผู้ศรัทธาคนแรกที่สามารถจุดประกายต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว”

“หนทางสู่การเป็นเทพได้เปิดออกอย่างเป็นทางการ”

“อำนาจเทวะที่ถูกวางไว้โดยเทพวิญญาณจะถูกเปิดใช้งานในไม่ช้า”

“ดินแดนชิงอำนาจจะถูกซ่อนจากโลกเก้าร้อยล้านชั้น”

“นับจากนี้ไป ใครก็ตามที่ออกจากดินแดนชิงอำนาจ จะไม่สามารถเข้ากลับมายังดินแดนชิงอำนาจได้อีกเลยตลอดกาล!” ด้วยการประกาศของมัน ดินแดนชิงอำนาจก็ได้หายวับไปจากโลกเก้าร้อยล้านชั้น

นี่คืออำนาจเทวะของเทพวิญญาณทั้งเจ็ด ที่ทำการเปิดใช้งานกำแพงอุปสรรคอย่างเต็มกำลัง

โดยบทบาทเดียวของมันคือการซ่อน

…ซ่อนดินแดนชิงอำนาจทั้งหมดเอาไว้

ไม่มีใครรู้ว่าเทพวิญญาณทั้งเจ็ดกำลังคิดอยู่คืออะไร ทำไมถึงได้ทำการจัดวางมันไว้ล่วงหน้าแบบนี้

อย่างไรก็ตาม เหล่าทวยเทพคงไม่ทันคาดคิดเหมือนกัน ว่าฝนดาวตกจะวิ่งเข้ามาในช่วงเวลาก่อนที่ดินแดนชิงอำนาจทั้งหมดจะถูกซ่อนเอาไว้

บนยานอวกาศ

กัปตันตั้งใจฟังอย่างรอบคอบ เกี่ยวกับการประกาศของมนุษย์แสง

เขาไม่ได้เคลื่อนกายไปที่ใดเลย จนกระทั่งมนุษย์แสงหายไป

‘มีคนที่สามารถจุดประกายต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!’

กัปตันถอนหายใจ ดูเหมือนว่าห้วงอารมณ์ที่แฝงมากับในน้ำเสียงมันไม่อาจฝืนระงับได้อีกต่อไป

ใช่! โดยการจุดประกายต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ คุณจะสามารถได้ล่วงรู้ถึงทักษะและความรู้ของเทพ และใครบางคนก็ได้รับสิ่งนั้นไปก่อนแล้ว!

ย้อนมองกลับมาทางตนเองเล่า?

เขายังคงต้องพยายามดิ้นรนเพื่อหาเงินให้เพียงพอต่อการใช้เดินทางอยู่เลย

ไม่เพียงแค่ค่าเดินทางในการเดินทางไปกลับจากวิหารเท่านั้น

แต่มันรวมไปถึงหลังจากการจุดประกายต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ด้วย เพราะแค่การฝึกฝนความสามารถต่างๆของเทพวิญญาณ มันก็ต้องใช้เวลา และทรัพยากรไม่ใช่หรือ?

ซึ่งในโลกใบนี้ ถ้ามีเงินไม่เพียงพอ ไม่ว่าเรื่องใดก็คงไม่อาจทำสำเร็จได้

ไม่ต้องพูดถึงการเป็นเทพ แม้กระทั่งการรักษาสิ่งพื้นฐานที่สุดของมืออาชีพอย่างเกียรติและศักดิ์ศรี มันก็จำเป็นต้องมีทุนสนับสนุนที่เพียงพอกันทั้งนั้น

กัปตันก้มหน้าลง เงียบงันไปครู่หนึ่ง

มือของเขากำแน่น คลายออก กำแน่น คลายออก สลับวนเวียนซ้ำๆ

“ตอนนี้เกือบจะถึงเวลาแล้ว และภัยคุกคามเพียงอย่างเดียวของฉันก็คือวังเฉิง และวังเฉิงมันก็ยกเลิกการอัญเชิญภูตไปแล้วซะด้วย…”

“ดูเหมือนว่าฉันคงจะต้องทำทุกอย่างให้มันจบไปซะแล้วสิในตอนนี้”

‘ฉันได้เตรียมการมาไว้มากมาย ก็เพื่อเฝ้ารอให้วันนี้มาถึงไม่ใช่หรือ?’

‘แล้วยังจะต้องมามัวลังเลอะไรเกี่ยวกับมันอีก?’

กัปตันในที่สุดก็กำหมัดแน่น และตัดสินใจขั้นเด็ดขาด

อีกด้านหนึ่ง

กู่ฉิงซานยืนอยู่ในห้องส่วนตัวของวังเฉิง

หนังสือพิมพ์ในมือของเขาได้เปิดเผยถึงเนื้อหาของข่าวทั้งหมด

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภายนอกยานอวกาศ ในโลกสองร้อยล้านชั้นของดินแดนชิงอำนาจได้มีฝนดาวตกวูบหายไป

นั่นเพราะเขากำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ผิดปกติอย่างอื่นอยู่

หนังสือพิมพ์ลุกเป็นไฟ

กู่ฉิงซานไม่ทันจะได้มีเวลาตอบสนอง เสียงคำรามของเปลวไฟก็ผุดออกมาจากในอากาศที่ว่างเปล่า และเผาฉบับหนังสือพิมพ์ทิ้งไป

อย่างไรก็ตามหนังสือพิมพ์กลับมิได้ลอยเป็นเถ้าฟุ้งกระจาย

แต่มันกลับกลายเป็นบางสิ่ง ที่คล้ายๆ กับผ้าสีดำกำลังแผ่ขยายอยู่ในมือของกู่ฉิงซาน

สีหน้าของกู่ฉิงซานแปรเปลี่ยนไป

เมื่อเห็นถึงปรากฏการณ์นี้ เขาก็ตระหนักได้ว่ามันไม่ใช่หนังสือพิมพ์ธรรมดาๆ แต่คล้ายจะมีฟังก์ชันพิเศษอื่นๆ แอบแฝงมา

นี่คือหนังสือพิมพ์ที่เสี่ยวเหมียวเคยยัดใส่มือตัวเขาเอง

แต่ตอนนี้ เนื่องจากมันไม่น่าจะใช่หนังสือพิมพ์ธรรมดาแล้ว ดังนั้น ย่อมหมายความว่าเสี่ยวเหมียวต้องจงใจใส่อะไรบางอย่างที่แฝงความหมายอันลึกซึ้งเอาไว้แน่นอน

ซึ่งนี่มันแตกต่างไปจากสมองกล้ามเนื้ออย่างพี่ชายของเธอ เสี่ยวเหมียวน่ะมักจะวางแผน และมีความคิดมากมายอยู่เสมอ

แล้วถ้าเช่นนั้น ผ้าสีดำที่ซ่อนอยู่ภายใต้หนังสือพิมพ์มันคืออะไรกันแน่นะ?

กู่ฉิงซานไตร่ตรองด้วยความสงสัย

อย่างไรก็ตาม เห็นแค่เพียงบนผิวผ้าสีดำเริ่มเกิดแสงสว่างจางๆขึ้น

เริ่มจากจุดแสงเล็กๆ ค่อยๆ กลายเป็นแสงสลัว แล้วก่อให้เกิดหมอกควันขึ้น

นี่มันเป็นฉากที่ค่อนข้างจะแปลกมาก

ขณะที่กู่ฉิงซานกำลังสงสัย หน้าต่างเทพสงครามก็ส่องสว่างขึ้น

บรรทัดแสงหิ่งห้อยปรากฏลงใจกลางหน้าต่าง

“ผนึกผ้าดำได้ถูกเปิดออกแล้ว”

“คุณได้ค้นพบไอเท็ม ผ้าดำปริศนาแห่งกระบี่ปฏิญาณ”

“คุณภาพ อุปกรณ์พิเศษ”

“คำอธิบายตามพงศาวดารวันสิ้นโลก กระบี่ปฏิญาณ คือหนึ่งในองค์กรที่ลึกลับที่สุดในโลกเก้าร้อยล้านชั้น ข่าวที่เปิดเผยต่อสาธารณะไม่มีระบุว่าพวกเขากระทำสิ่งใดเลย แต่มีเฉพาะเพียงตัวตนทรงอำนาจระดับสูงเท่านั้น ที่ทราบว่ามันมีอยู่จริง”

“วิชายุทธ์เทพสงคราม ผ้าดำปริศนา เป็นไอเท็มพิเศษขององค์กรที่ใช้สำหรับการติดต่อกับมิติและเวลาบางแห่ง คุณไม่สามารถเรียนรู้ทักษะใดๆ จากมันได้”

กู่ฉิงซานกวาดสายตาอ่านจนจบ

และไม่รีรอให้เขาใช้เวลากลั่นกรอง ก็มีเสียงของผู้หญิงดังออกมาจากผ้าดำที่อยู่ใจกลางหมอกเย็น

“อีกฝั่ง…หนึ่ง…เป็น…ใครกัน?”

เสียงของหญิงสาวที่ฟังดูไม่ปะติดปะต่อ และแผ่วเบา คล้ายกับคนที่กำลังใกล้ตายดังขึ้น

เมื่อได้ยินถึงเสียงอันคุ้นเคยนี้ จิตฟุ้งซ่านของกู่ฉิงซานก็สงบลงโดยสมบูรณ์

เขาเอ่ยถามทันที “คุณคือหยุนจี? จ้าวแห่งหมอก ผู้คุ้มภัยแห่งโชคชะตาลี้ลับ ภัยพิบัติแห่งอาณาจักรทั้งมวล ใช่หรือเปล่า?”

ปรากฏเสียงรบกวนดังมาจากฝั่งตรงข้าม

จำต้องใช้เวลาสักพักเลย กว่าที่เสียงรบกวนเหล่านี้จะสงบลง

เสียงของผู้หญิงดังขึ้นอีกครั้ง

“กู่ฉิงซานหรือ? ฉันแค่รู้ว่ามีคนของพวกเราอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นนาย”

เธออ้าปากสูดลมหายใจ ดิ้นรนเอ่ยต่อด้วยความยากลำบาก “…อาการบาดเจ็บของฉันร้ายแรงเกินกว่าจะเคลื่อนไหวได้ ฉันทำได้แค่ส่งสัญญาณที่อยู่ให้กับนาย ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญอะไรต้องทำแล้วล่ะก็ ได้โปรดรีบมาช่วยฉันด้วยเถอะ”

เห็นแค่เพียงจุดแสงในหมอกหนารวมตัวเข้าด้วยกันจากผ้าสีดำ ก่อนจะไหลลงไปในมือของกู่ฉิงซาน ตรงไปยังทะเลแห่งห้วงสติของเขา

กู่ฉิงซานสามารถรับรู้ถึงตำแหน่งแบบเฉพาะเจาะจงของอีกฝ่ายทันที

“คุณรอก่อนนะ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ!”

เขาตะโกน

หยุนจี “ฉันจะไม่ไหวแล้ว แต่อย่างน้อยฉันก็พอที่จะบอกอะไรบางอย่างกับนายก่อนตายได้ เพราะฉะนั้นช่วยรีบมาเร็วๆด้วยเถอะ”

ดูเหมือนว่าคำกล่าวนี้จะใช้พลังของเธอจนหมดสิ้น เพราะเมื่อพูดจบ เสียงก็ถูกตัดไปทันที

กู่ฉิงซานแทบลืมหายใจ

เขาเร่งหยิบแผนที่นำทางจากในลิ้นชักและเริ่มตรวจสอบมันอย่างระมัดระวัง

ตามความทรงจำของวังเฉิง กู่ฉิงซานได้ทำการเทียบเปรียบพิกัด และจัดวางแผนภูมินำทาง จนสามารถค้นพบถึงตำแหน่งของหยุนจีได้อย่างรวดเร็ว

ตลาดมืดเกรย์แฮนด์

หยุนจีอยู่ในตลาดมืด!

อ้างอิงจากตามพิกัด มันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่!

กู่ฉิงซานเริ่มเค้นสมองคิดหาวิธีช่วยเหลือเธอทันที

นับจากช่วงเวลานี้ไป เขาได้ละทิ้งซึ่งแผนการทุกอย่างทั้งหมดที่ทั้งคิด ทั้งเตรียมการ โยนไปไว้เบื้องหลังโดยสมบูรณ์

ช่างหัวมันว่ายานอวกาศลำนี้จะมีความลับหรือปัญหาอะไรเก็บซ่อนอยู่ เพราะในปัจจุบันการช่วยคนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด!

ตอนนี้ ยานกำลังจะมุ่งหน้าไปยังตลาดมืดอยู่แล้วก็จริง แต่เนื่องจากเพราะพวกมอนสเตอร์มิติ ที่บางครั้งก็ปรากฏตัวออกมาระหว่างทางอย่างกะทันหัน ดังนั้นจึงต้องระมัดระวัง ไม่สามารถเร่งความเร็วยานได้

เขาจะต้องไปควบคุมยานอวกาศให้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด!

กู่ฉิงซานตัดสินใจ และรีบออกจากห้องของวังเฉิงอย่างรวดเร็ว

เขาตระหนักได้มาตั้งนานแล้วว่ากัปตันน่ะ มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าในเรื่องของเงิน

ดังนั้น เขาจะใช้เงินทั้งหมดของวังเฉิง แก้ไขปัญหาในข้อนี้

เพราะท้ายที่สุดแล้ว คำขอเดียวของเขาก็คือต้องการให้เร่งเครื่องเร็วขึ้น

กู่ฉิงซานก้าวฉับๆตรงไปยังห้องของกัปตัน

แต่สักพักหนึ่ง

ฝีเท้าของเขาก็ต้องหยุดลง

เพราะดันมีเรื่องแปลกๆ บางอย่างเกิดขึ้นรอบตัวเขา

กู่ฉิงซานตบลงในถุงสัมภาระ ชุดเกราะรบนายพลชั้นเฉินเว่ยบินออกมาและสวมทับใส่ร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว

เขาเอื้อมออกไปคว้าดาบขุนเขาเทวะหกโลกาไว้ในกำมือ

“จงเผยตัวออกมาเดี๋ยวนี้!”

กู่ฉิงซานตวาด

แต่ก็ไม่มีใครตอบเขา

อันที่จริงแล้วเรือทั้งลำบัดนี้กลายเป็นวังเวง ไร้สิ่งสรรพเสียงใดๆ

กู่ฉิงซานปลดปล่อยจิตสัมผัสเทวะออกมา กวาดไปตลอดทั้งลำยาน

…ไม่มีใคร

ทุกคนบนยานอวกาศหายหัวไปกันหมดเลย!

………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+