Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ 895 สายน้ำยาวกับจันทราสงัด

Now you are reading Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ Chapter 895 สายน้ำยาวกับจันทราสงัด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หญิงสาวร่างสูงงดงามอยู่ในบ้านอิฐแดงขณะครุ่นคิดถึงที่อยู่ของคนคนนั้น

ชายคนหนึ่งถอดรองเท้าและแช่เท้าในลำธารข้างป่าตรงข้ามบ้านอิฐแดง รู้สึกได้ถึงความเย็นชัดเจน

ฉานนู่มองนายท่านด้วยสีหน้าสงบ คิดเรื่อยเปื่อยอยู่ในใจ เห็นได้ชัดว่าลังเลและกังวล

ตอนนี้ ลมภูเขาพัดผ่าน ผสานเข้ากับกลิ่นโคลนหลังฝนตก เมื่อเงยหน้ามองขึ้นไป นางเห็นต้นสนเนินเขาฝั่งตรงข้ามกำลังโบกไหวไปมาตามแรงลม หมอกก่อตัวขึ้นมา ใบไม้สีเหลืองแห้งเหี่ยวถูกพัดพา ลอยไปกลางเขาสู่ท้องนภาไกลลิบ จากนั้นก็ค่อยๆ หายไป

กู่ฉิงซานมองภาพนี้ คล้ายกับกำลังคิดถึงความทรงจำอันยาวนาน ไม่พูดอะไรสักพักใหญ่

ภัยพิบัติกำลังใกล้เข้ามา ในใจเขารู้สึกได้

ตอนนี้ ช่วงเวลาที่ผ่านมานับตั้งแต่การฝึกฝนของลัทธิเต๋าที่ปรากฏมาตรงหน้าโดยไม่เต็มใจเสมอ ทำให้ตกอยู่ในห้วงอารมณ์มากมาย

เขาหมกมุ่นกับความคิดและข้อมูลเชิงลึกมากมายอยู่เนิ่นนานเพื่อคิดหาหนทาง

เมื่อรู้แจ้งเมื่อไหร่ ภัยพิบัติก็จะมาเยือน

ตอนนี้ ราตรีมาเยือน

ลำธารเงียบสงัด

จันทราเจิดจ้าราวกับน้ำค้างแข็ง ชายหนุ่มดูเหมือนภาพวาด

ฉานนู่มองแผ่นหลังอย่างเงียบงันก่อนค่อยๆ เข้าใจขึ้นมา

ในระหว่างการแข่งกับสัตว์ประหลาดหุบเหว ชายหนุ่มฉวยเวลาเพื่อสั่งสมพละกำลังอยู่เงียบๆ เพื่อความก้าวหน้า

คงดีกว่าที่จะไม่มารบกวนเขาในตอนนี้

ฉานนู่ถอนหายใจ เดินมาหากู่ฉิงซานแล้วนั่งลงก่อนวางเท้าเรียวสีขาวราวผ้าซาตินในลำธาร

ตอนนี้อดีตถูกตัดขาด นางเพียงแค่คุ้มกันเขา ทั้งตอนนี้และตลอดไป

…ไม่ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าสถานการณ์ที่เผชิญจะเป็นเช่นไร นางจะอยู่ข้างเขาเสมอ

ราตรีค่อยๆ มืดมิด

กู่ฉิงซานตื่นขึ้นจากความทรงจำที่ผสมปนเปกัน

จากนั้นเขาพบว่าฉานนู่มาอยู่ด้านข้างแล้ว

“หิวหรือ”

“ข้าไม่หิวหรอก แต่สิ่งที่นายท่านทำมันอร่อยมาก ข้าอยากกินอีก”

“ถ้างั้นกินกันก่อน จากนั้นค่อยไปฆ่านาง”

“ตามที่นายท่านว่าเลย”

บ้านอิฐแดง

หญิงสาวร่างสูงเลียโลหิตที่นิ้วจนกระทั่งรู้สึกว่านิ้วสะอาดหมดจดแล้ว นางจึงกล่าวอย่างเฉยชาว่า “คนต่อไป”

ชายเขาเดียวร่างโตก้าวเข้ามาด้วยอาการสั่นสะท้าน เขาเผยรอยยิ้มแล้วกล่าวว่า “ท่านหญิง ข้าอยู่ในโลกนี้มาหลายสิบปี ทุกคนที่นี่สามารถพิสูจน์เรื่องนี้ได้”

เกิดความเงียบ

กลิ่นโลหิตค่อยๆ ปกคลุมทางเดิน

ชายหนุ่มมองซ้ายขวาจนอดที่จะหัวเราะแห้งไม่ได้

หญิงสาวร่างสูงมองเขา สับสนเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “หากอยู่ที่โลกใบนี้ เจ้าจะเสียความสามารถทั้งหมดไป ทำได้แค่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านหลังนี้ที่เหมือนกับกรงหรือไม่ก็ต้องไปอาศัยอยู่ในน้ำ… เหมือนกับติดคุกทำไมเจ้าถึงเต็มใจอยู่ที่นี่นานนักล่ะ”

ชายหนุ่มตอบว่า “เพราะวันสิ้นโลกไงล่ะ ท่านหญิง วันสิ้นโลกกระจายไปทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่เขาวงกตแห่งมิติและเวลาไปจนถึงหุบเหวนิรันดร์ ตั้งแต่โลกเก้าร้อยล้านชั้นไปจนถึงสุสานวันสิ้นโลก ไม่ว่าจะเป็นตัวตนที่ทรงพลังแค่ไหนก็ไม่สามารถต้านทานได้ ดาวคนคู่นี้คือดินแดนวิเศษต้องห้ามของสี่เสาศักดิ์สิทธิ์เป็นที่สุดท้ายของโลกที่จะถูกทำลาย”

หญิงสาวร่างสูงเงียบสักพักแล้วกล่าวว่า “เจ้าแค่รับการโจมตีจากข้าก็พอ”

ชายหนุ่มยินดียิ่งก่อนกล่าวว่า “ขอบคุณที่เมตตา ท่านหญิง”

เขาจัดท่วงท่า ปรับลมหายใจ ดึงมือมาตั้งท่าป้องกัน

ถึงแม้ความสามารถทั้งหมดจะถูกผนึกเอาไว้ แต่เมื่อตั้งท่านี้ อารมณ์ของเขาก็ดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิง

หากเมื่อครู่เขาก็เป็นคนขี้ขลาดกลัวตาย ถ้างั้นตอนนี้จู่ๆ เขากลายเป็นนักสู้ไร้เทียมทานของสนามมวยทางช้างเผือก

หญิงสาวร่างสูงมองดูท่าดังกล่าวก่อนชื่นชม “เจ้ามีวรยุทธหรือ ทักษะพื้นฐานของเจ้าคงแน่นน่าดู ข้ารู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่แผ่ออกมาอย่างเลือนราง… ทำไมคนเช่นเจ้าถึงเต็มใจอยู่ที่นี่กันนะ”

ชายหนุ่มไม่ตอบ

หญิงสาวร่างสูงยืนขึ้นช้าๆ น้ำเสียงเย็นชาขึ้นมา “ตอบข้ามา ไม่งั้นตาย”

ชายหนุ่มยังคงหัวแข็งไม่ยอมพูด

ผู้ถักทอชีวิตหุบเหวยักคิ้ว ครุ่นคิดอยู่นานก่อนหัวเราะออกมาอีกครั้ง

นางสาวเท้ามาข้างหน้าก่อนส่งหมัดขนาดเล็กไปที่ชายหนุ่ม

ชายหนุ่มแผดเสียงคำรามออกมา แขนของเขาเข้าไปรับในเวลาเดียวกัน…

‘ตูม!’

เขาลอยกลับหัวราวกับกระสุนปืนใหญ่จนกระแทกกับกำแพงที่สุดทางเดิน โลหิตไหลออกจากปาก

ผู้ถักทอชีวิตหุบเหวดึงหมัดกลับแล้วกล่าวอย่างเบื่อหน่ายว่า “ช่างเป็นวิชาวรยุทธที่อ่อนแอนัก…”

“กลายเป็นขยะที่ถูกทิ้งไว้ในอดีตเสียได้ ต่อให้ยังมีชีวิตอยู่ เจ้าก็เท่ากับตายไปแล้ว”

“เจ้าไม่ใช่คนที่ข้ากำลังตามหา”

นางยืนเขย่งท้าก่อนเดินไปที่ประตูอย่างระวังเพื่อไม่ให้เสื้อผ้าของนางเปื้อนซากศพกับโลหิตตามทาง

ในบ้านอิฐแดงทั้งหลัง หากไม่นับชายหนุ่มเมื่อครู่ ทุกคนก็ถูกสังหารจนสิ้น

ชายหนุ่มคุกเข่ากับพื้นด้วยแววตาเจ็บปวด ทันใดนั้นเขาก็อดที่จะคำรามไม่ได้ “วันสิ้นโลกจะทำลายทุกสิ่งที่ฟูมฟักมา ที่เจ้าดูถูกข้าเช่นนี้เป็นเพราะยังไม่ได้พบสิ่งที่สามารถทำให้เจ็บปวดอย่างแท้จริงได้ต่างหากล่ะ”

หญิงสาวเอื้อมมือไปเพื่อจะจับลูกบิดประตู แต่เมื่อได้ยินเช่นนี้ นางก็หยุดกลางคัน

คล้ายกับมีเศษเสี้ยวอารมณ์ในดวงตาของนาง

หญิงสาวหายไป

วินาทีต่อมา นางปรากฏตัวที่ประตูอีกครั้ง

“ข้าสามารถเมินขยะได้ แต่เจ้าต้องเข้าใจด้วยว่าการที่ผู้ชายตะโกนใส่ผู้หญิงน่ะถือว่าเป็นเรื่องผิดเสมอ”

นางยกศีรษะของชายหนุ่มในมือขึ้นขณะกล่าวอย่างจริงจัง

ประตูเปิดออก

หญิงสาวเดินออกไปขณะถือศีรษะไปด้วย

นอกประตูคือป่า ลำห้วยและขุนเขาไม่มีสิ้นสุด

ราตรีเลือนราง

คูน้ำยาวไหลอย่างเงียบงัน

หญิงสาวร่างสูงเดินไปตามลำธาร โยนศีรษะลงไปบนตลิ่ง จากนั้นเดินไปยังส่วนที่เป็นน้ำลึก ปล่อยให้น้ำชำระร่างกาย

คราบสีแดงฉานกระจายไปทั่วนาง กลุ่มก้อนสีแดงกลืนหายไปกับน้ำ สีสันจางหาย ท้ายที่สุดก็มองไม่เห็น

หญิงสาวร่างสูงยืนขึ้นจากลำธารก่อนเดินกลับฝั่งทีละก้าว

“เจ้าบ้ากู่ฉิงซานหายไปไหนกัน”

“ถ้ามันไม่ออกจากโลกนี้ไปแล้วก็คงซ่อนอยู่ที่ใดสักแห่งแถวลำธารหรือเปล่า”

หญิงสาวร่างสูงครุ่นคิดอย่างหงุดหงิด

ตอนนี้ สายลมราตรีที่เย็นเยือกไม่ต่างจากน้ำพัดผ่านมา

คิ้วงามของหญิงสาวร่างสูงพลันคลายออกด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

มีกลิ่นอยู่ในสายลม

นี่คือรสชาติความอบอุ่นที่ฝังลึกในความทรงจำก่อนนำไปสู่จุดเริ่มต้นอันไร้ที่สิ้นสุด

หญิงสาวร่างสูดหายใจเข้าลึกไปหลายครั้ง

“น่าสนใจ ยังมีคนเบื่อชีวิตจนถึงขั้นมาทำเรื่องแบบนี้ในเวลานี้อยู่อีก”

นางพึมพำขณะเดินไปทางที่สายลมพัดมา

หลังจากเดินไปตามลำธารอยู่หลายไมล์ กลิ่นได้ปรากฏขึ้นตรงหน้านาง

ชายชรากำลังเก็บหม้อและกระทะ

กู่ฉิงซานยืนอยู่ข้างเขา ถือชามใบใหญ่ขณะซดซุปก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ในชามเข้าไป

กลิ่นหอมที่ลอยมาตามสายลมเมื่อครู่มาจากชามของเขานี่เอง

กู่ฉิงซานกล่าวขณะกินว่า “ขอบคุณที่เลี้ยง ก๋วยเตี๋ยวที่ท่านทำอร่อยมาก ข้าอดที่จะซดซุปก๋วยเตี๋ยวตามไม่ได้เลย”

ชายชรากล่าวอย่างมีความสุขว่า “เจ้ากินได้มากเท่าที่ต้องการเลย”

กู่ฉิงซานส่งชามเปล่าให้ชายชราแล้วถามว่า “โลกที่ข้าต้องไป ช่วยบอกทีสิว่าต้องไปอย่างไร”

“ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบหรอก” ชายชราหัวเราะอย่างเริงร่า

หญิงสาวร่างสูงมองชายชราแล้วพลันนึกบางสิ่งออก

ในโลกใบนี้ มีบุคคลตำนานอยู่

ชายชรานำทาง

มีจุดกำเนิดลี้ลับ ไม่คล้ายกับเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีใครรู้จัก ความสามารถพิเศษคือทำอาหาร ตำนานกล่าวไว้ว่าทันทีที่กินก๋วยเตี๋ยวที่เขาปรุงเข้าไป หากทำให้เขารู้สึกยินดีก็จะได้ข้อมูลไปโลกอื่นจากเขา

ตอนนี้ กู่ฉิงซานกำลังทำตามที่ว่ามา

ตอนนี้ พวกเขาสองคนคล้ายกับรับรู้ได้ก่อนจะหันมามองนางพร้อมกัน

“กู่ฉิงซาน ในเมื่อข้าเจอตัวเจ้าแล้ว คิดว่ายังจะหนีรอดอยู่อีกหรือ”

หญิงสาวร่างสูงกล่าว สะบัดแขนอย่างไม่ใส่ใจแล้วเดินเข้ามาช้าๆ

กู่ฉิงซานมองหน้าอีกฝ่ายก่อนค่อยๆ เผยสีหน้าระแวดระวังออกมา

“คิดไม่ถึง ในฐานะสัตว์ประหลาดหุบเหว เจ้าจะมีวรยุทธที่สูงส่งเช่นนี้”

หญิงสาวร่างสูงพ่นลมออกจมูก “มีหลายสิ่งที่เจ้าคาดไม่ถึงเลยล่ะ”

นางยังคงสงวนตัวราวกับหญิงบริสุทธิ์ยามที่พูด แต่ทันทีที่เสียงถูกเปล่งออกมา นางก็พุ่งตัวออกไปราวกับอสนี!

กู่ฉิงซานชักดาบออกมาเพื่อทักทาย

โดยไม่มีอะไรปิดกั้น ทั้งสองใส่กันอย่างสุดกำลัง

‘ตูม…’

หมัดและดาบปะทะกัน เสียงจากการสั่นสะเทือนกระจายไปทุกทิศทางราวกับอสนีบาต

หญิงสาวร่างสูงลอยกลับราวหญ้าหางแมวก่อนตกลงไปในลำธาร

กู่ฉิงซานถอยออกมาหลายก้าวเพื่อลดพละกำลังจากหมัดของอีกฝ่าย

พละกำลังของอีกฝ่ายมหาศาลเกินไป โชคยังดี กู่ฉิงซานได้ประโยชน์จากระบำสังเวยชีพหลายครั้ง ร่างกายของเขาจึงแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อน ไม่อย่างนั้น ไม่รู้ได้เลยว่าเขาจะรับหมัดนั่นได้หรือไม่

“หมัดดีนี่”

ดวงตาของกู่ฉิงซานทอประกาย

หญิงสาวร่างสูงมองเขาแล้วกล่าวว่า “วิชาดาบของเจ้าอ่อนแอกว่าที่ข้าคิดไว้อีกนะ”

“แน่นอน เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องความเป็นความตายหรอก แต่ข้ายังไม่อยากตาย”

กู่ฉิงซานลูบมือที่ชา

หญิงสาวร่างสูงพลันหัวเราะออกมา “ถึงเจ้าจะทำมาหลายสิ่ง แต่สุดท้ายก็ยังกลัวตายอยู่ดี”

“แน่นอน มีเพียงผู้ที่หวาดกลัวความตายเท่านั้นที่จะรู้ว่าควรกลัวความตายยังไง รวมถึงวิธีรับมือกับมันด้วย”

กู่ฉิงซานกล่าวช้าๆ

เขาถือดาบอีกครั้ง

…………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ 895 สายน้ำยาวกับจันทราสงัด

Now you are reading Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์ Chapter 895 สายน้ำยาวกับจันทราสงัด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หญิงสาวร่างสูงงดงามอยู่ในบ้านอิฐแดงขณะครุ่นคิดถึงที่อยู่ของคนคนนั้น

ชายคนหนึ่งถอดรองเท้าและแช่เท้าในลำธารข้างป่าตรงข้ามบ้านอิฐแดง รู้สึกได้ถึงความเย็นชัดเจน

ฉานนู่มองนายท่านด้วยสีหน้าสงบ คิดเรื่อยเปื่อยอยู่ในใจ เห็นได้ชัดว่าลังเลและกังวล

ตอนนี้ ลมภูเขาพัดผ่าน ผสานเข้ากับกลิ่นโคลนหลังฝนตก เมื่อเงยหน้ามองขึ้นไป นางเห็นต้นสนเนินเขาฝั่งตรงข้ามกำลังโบกไหวไปมาตามแรงลม หมอกก่อตัวขึ้นมา ใบไม้สีเหลืองแห้งเหี่ยวถูกพัดพา ลอยไปกลางเขาสู่ท้องนภาไกลลิบ จากนั้นก็ค่อยๆ หายไป

กู่ฉิงซานมองภาพนี้ คล้ายกับกำลังคิดถึงความทรงจำอันยาวนาน ไม่พูดอะไรสักพักใหญ่

ภัยพิบัติกำลังใกล้เข้ามา ในใจเขารู้สึกได้

ตอนนี้ ช่วงเวลาที่ผ่านมานับตั้งแต่การฝึกฝนของลัทธิเต๋าที่ปรากฏมาตรงหน้าโดยไม่เต็มใจเสมอ ทำให้ตกอยู่ในห้วงอารมณ์มากมาย

เขาหมกมุ่นกับความคิดและข้อมูลเชิงลึกมากมายอยู่เนิ่นนานเพื่อคิดหาหนทาง

เมื่อรู้แจ้งเมื่อไหร่ ภัยพิบัติก็จะมาเยือน

ตอนนี้ ราตรีมาเยือน

ลำธารเงียบสงัด

จันทราเจิดจ้าราวกับน้ำค้างแข็ง ชายหนุ่มดูเหมือนภาพวาด

ฉานนู่มองแผ่นหลังอย่างเงียบงันก่อนค่อยๆ เข้าใจขึ้นมา

ในระหว่างการแข่งกับสัตว์ประหลาดหุบเหว ชายหนุ่มฉวยเวลาเพื่อสั่งสมพละกำลังอยู่เงียบๆ เพื่อความก้าวหน้า

คงดีกว่าที่จะไม่มารบกวนเขาในตอนนี้

ฉานนู่ถอนหายใจ เดินมาหากู่ฉิงซานแล้วนั่งลงก่อนวางเท้าเรียวสีขาวราวผ้าซาตินในลำธาร

ตอนนี้อดีตถูกตัดขาด นางเพียงแค่คุ้มกันเขา ทั้งตอนนี้และตลอดไป

…ไม่ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าสถานการณ์ที่เผชิญจะเป็นเช่นไร นางจะอยู่ข้างเขาเสมอ

ราตรีค่อยๆ มืดมิด

กู่ฉิงซานตื่นขึ้นจากความทรงจำที่ผสมปนเปกัน

จากนั้นเขาพบว่าฉานนู่มาอยู่ด้านข้างแล้ว

“หิวหรือ”

“ข้าไม่หิวหรอก แต่สิ่งที่นายท่านทำมันอร่อยมาก ข้าอยากกินอีก”

“ถ้างั้นกินกันก่อน จากนั้นค่อยไปฆ่านาง”

“ตามที่นายท่านว่าเลย”

บ้านอิฐแดง

หญิงสาวร่างสูงเลียโลหิตที่นิ้วจนกระทั่งรู้สึกว่านิ้วสะอาดหมดจดแล้ว นางจึงกล่าวอย่างเฉยชาว่า “คนต่อไป”

ชายเขาเดียวร่างโตก้าวเข้ามาด้วยอาการสั่นสะท้าน เขาเผยรอยยิ้มแล้วกล่าวว่า “ท่านหญิง ข้าอยู่ในโลกนี้มาหลายสิบปี ทุกคนที่นี่สามารถพิสูจน์เรื่องนี้ได้”

เกิดความเงียบ

กลิ่นโลหิตค่อยๆ ปกคลุมทางเดิน

ชายหนุ่มมองซ้ายขวาจนอดที่จะหัวเราะแห้งไม่ได้

หญิงสาวร่างสูงมองเขา สับสนเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “หากอยู่ที่โลกใบนี้ เจ้าจะเสียความสามารถทั้งหมดไป ทำได้แค่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านหลังนี้ที่เหมือนกับกรงหรือไม่ก็ต้องไปอาศัยอยู่ในน้ำ… เหมือนกับติดคุกทำไมเจ้าถึงเต็มใจอยู่ที่นี่นานนักล่ะ”

ชายหนุ่มตอบว่า “เพราะวันสิ้นโลกไงล่ะ ท่านหญิง วันสิ้นโลกกระจายไปทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่เขาวงกตแห่งมิติและเวลาไปจนถึงหุบเหวนิรันดร์ ตั้งแต่โลกเก้าร้อยล้านชั้นไปจนถึงสุสานวันสิ้นโลก ไม่ว่าจะเป็นตัวตนที่ทรงพลังแค่ไหนก็ไม่สามารถต้านทานได้ ดาวคนคู่นี้คือดินแดนวิเศษต้องห้ามของสี่เสาศักดิ์สิทธิ์เป็นที่สุดท้ายของโลกที่จะถูกทำลาย”

หญิงสาวร่างสูงเงียบสักพักแล้วกล่าวว่า “เจ้าแค่รับการโจมตีจากข้าก็พอ”

ชายหนุ่มยินดียิ่งก่อนกล่าวว่า “ขอบคุณที่เมตตา ท่านหญิง”

เขาจัดท่วงท่า ปรับลมหายใจ ดึงมือมาตั้งท่าป้องกัน

ถึงแม้ความสามารถทั้งหมดจะถูกผนึกเอาไว้ แต่เมื่อตั้งท่านี้ อารมณ์ของเขาก็ดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิง

หากเมื่อครู่เขาก็เป็นคนขี้ขลาดกลัวตาย ถ้างั้นตอนนี้จู่ๆ เขากลายเป็นนักสู้ไร้เทียมทานของสนามมวยทางช้างเผือก

หญิงสาวร่างสูงมองดูท่าดังกล่าวก่อนชื่นชม “เจ้ามีวรยุทธหรือ ทักษะพื้นฐานของเจ้าคงแน่นน่าดู ข้ารู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่แผ่ออกมาอย่างเลือนราง… ทำไมคนเช่นเจ้าถึงเต็มใจอยู่ที่นี่กันนะ”

ชายหนุ่มไม่ตอบ

หญิงสาวร่างสูงยืนขึ้นช้าๆ น้ำเสียงเย็นชาขึ้นมา “ตอบข้ามา ไม่งั้นตาย”

ชายหนุ่มยังคงหัวแข็งไม่ยอมพูด

ผู้ถักทอชีวิตหุบเหวยักคิ้ว ครุ่นคิดอยู่นานก่อนหัวเราะออกมาอีกครั้ง

นางสาวเท้ามาข้างหน้าก่อนส่งหมัดขนาดเล็กไปที่ชายหนุ่ม

ชายหนุ่มแผดเสียงคำรามออกมา แขนของเขาเข้าไปรับในเวลาเดียวกัน…

‘ตูม!’

เขาลอยกลับหัวราวกับกระสุนปืนใหญ่จนกระแทกกับกำแพงที่สุดทางเดิน โลหิตไหลออกจากปาก

ผู้ถักทอชีวิตหุบเหวดึงหมัดกลับแล้วกล่าวอย่างเบื่อหน่ายว่า “ช่างเป็นวิชาวรยุทธที่อ่อนแอนัก…”

“กลายเป็นขยะที่ถูกทิ้งไว้ในอดีตเสียได้ ต่อให้ยังมีชีวิตอยู่ เจ้าก็เท่ากับตายไปแล้ว”

“เจ้าไม่ใช่คนที่ข้ากำลังตามหา”

นางยืนเขย่งท้าก่อนเดินไปที่ประตูอย่างระวังเพื่อไม่ให้เสื้อผ้าของนางเปื้อนซากศพกับโลหิตตามทาง

ในบ้านอิฐแดงทั้งหลัง หากไม่นับชายหนุ่มเมื่อครู่ ทุกคนก็ถูกสังหารจนสิ้น

ชายหนุ่มคุกเข่ากับพื้นด้วยแววตาเจ็บปวด ทันใดนั้นเขาก็อดที่จะคำรามไม่ได้ “วันสิ้นโลกจะทำลายทุกสิ่งที่ฟูมฟักมา ที่เจ้าดูถูกข้าเช่นนี้เป็นเพราะยังไม่ได้พบสิ่งที่สามารถทำให้เจ็บปวดอย่างแท้จริงได้ต่างหากล่ะ”

หญิงสาวเอื้อมมือไปเพื่อจะจับลูกบิดประตู แต่เมื่อได้ยินเช่นนี้ นางก็หยุดกลางคัน

คล้ายกับมีเศษเสี้ยวอารมณ์ในดวงตาของนาง

หญิงสาวหายไป

วินาทีต่อมา นางปรากฏตัวที่ประตูอีกครั้ง

“ข้าสามารถเมินขยะได้ แต่เจ้าต้องเข้าใจด้วยว่าการที่ผู้ชายตะโกนใส่ผู้หญิงน่ะถือว่าเป็นเรื่องผิดเสมอ”

นางยกศีรษะของชายหนุ่มในมือขึ้นขณะกล่าวอย่างจริงจัง

ประตูเปิดออก

หญิงสาวเดินออกไปขณะถือศีรษะไปด้วย

นอกประตูคือป่า ลำห้วยและขุนเขาไม่มีสิ้นสุด

ราตรีเลือนราง

คูน้ำยาวไหลอย่างเงียบงัน

หญิงสาวร่างสูงเดินไปตามลำธาร โยนศีรษะลงไปบนตลิ่ง จากนั้นเดินไปยังส่วนที่เป็นน้ำลึก ปล่อยให้น้ำชำระร่างกาย

คราบสีแดงฉานกระจายไปทั่วนาง กลุ่มก้อนสีแดงกลืนหายไปกับน้ำ สีสันจางหาย ท้ายที่สุดก็มองไม่เห็น

หญิงสาวร่างสูงยืนขึ้นจากลำธารก่อนเดินกลับฝั่งทีละก้าว

“เจ้าบ้ากู่ฉิงซานหายไปไหนกัน”

“ถ้ามันไม่ออกจากโลกนี้ไปแล้วก็คงซ่อนอยู่ที่ใดสักแห่งแถวลำธารหรือเปล่า”

หญิงสาวร่างสูงครุ่นคิดอย่างหงุดหงิด

ตอนนี้ สายลมราตรีที่เย็นเยือกไม่ต่างจากน้ำพัดผ่านมา

คิ้วงามของหญิงสาวร่างสูงพลันคลายออกด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

มีกลิ่นอยู่ในสายลม

นี่คือรสชาติความอบอุ่นที่ฝังลึกในความทรงจำก่อนนำไปสู่จุดเริ่มต้นอันไร้ที่สิ้นสุด

หญิงสาวร่างสูดหายใจเข้าลึกไปหลายครั้ง

“น่าสนใจ ยังมีคนเบื่อชีวิตจนถึงขั้นมาทำเรื่องแบบนี้ในเวลานี้อยู่อีก”

นางพึมพำขณะเดินไปทางที่สายลมพัดมา

หลังจากเดินไปตามลำธารอยู่หลายไมล์ กลิ่นได้ปรากฏขึ้นตรงหน้านาง

ชายชรากำลังเก็บหม้อและกระทะ

กู่ฉิงซานยืนอยู่ข้างเขา ถือชามใบใหญ่ขณะซดซุปก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ในชามเข้าไป

กลิ่นหอมที่ลอยมาตามสายลมเมื่อครู่มาจากชามของเขานี่เอง

กู่ฉิงซานกล่าวขณะกินว่า “ขอบคุณที่เลี้ยง ก๋วยเตี๋ยวที่ท่านทำอร่อยมาก ข้าอดที่จะซดซุปก๋วยเตี๋ยวตามไม่ได้เลย”

ชายชรากล่าวอย่างมีความสุขว่า “เจ้ากินได้มากเท่าที่ต้องการเลย”

กู่ฉิงซานส่งชามเปล่าให้ชายชราแล้วถามว่า “โลกที่ข้าต้องไป ช่วยบอกทีสิว่าต้องไปอย่างไร”

“ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบหรอก” ชายชราหัวเราะอย่างเริงร่า

หญิงสาวร่างสูงมองชายชราแล้วพลันนึกบางสิ่งออก

ในโลกใบนี้ มีบุคคลตำนานอยู่

ชายชรานำทาง

มีจุดกำเนิดลี้ลับ ไม่คล้ายกับเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีใครรู้จัก ความสามารถพิเศษคือทำอาหาร ตำนานกล่าวไว้ว่าทันทีที่กินก๋วยเตี๋ยวที่เขาปรุงเข้าไป หากทำให้เขารู้สึกยินดีก็จะได้ข้อมูลไปโลกอื่นจากเขา

ตอนนี้ กู่ฉิงซานกำลังทำตามที่ว่ามา

ตอนนี้ พวกเขาสองคนคล้ายกับรับรู้ได้ก่อนจะหันมามองนางพร้อมกัน

“กู่ฉิงซาน ในเมื่อข้าเจอตัวเจ้าแล้ว คิดว่ายังจะหนีรอดอยู่อีกหรือ”

หญิงสาวร่างสูงกล่าว สะบัดแขนอย่างไม่ใส่ใจแล้วเดินเข้ามาช้าๆ

กู่ฉิงซานมองหน้าอีกฝ่ายก่อนค่อยๆ เผยสีหน้าระแวดระวังออกมา

“คิดไม่ถึง ในฐานะสัตว์ประหลาดหุบเหว เจ้าจะมีวรยุทธที่สูงส่งเช่นนี้”

หญิงสาวร่างสูงพ่นลมออกจมูก “มีหลายสิ่งที่เจ้าคาดไม่ถึงเลยล่ะ”

นางยังคงสงวนตัวราวกับหญิงบริสุทธิ์ยามที่พูด แต่ทันทีที่เสียงถูกเปล่งออกมา นางก็พุ่งตัวออกไปราวกับอสนี!

กู่ฉิงซานชักดาบออกมาเพื่อทักทาย

โดยไม่มีอะไรปิดกั้น ทั้งสองใส่กันอย่างสุดกำลัง

‘ตูม…’

หมัดและดาบปะทะกัน เสียงจากการสั่นสะเทือนกระจายไปทุกทิศทางราวกับอสนีบาต

หญิงสาวร่างสูงลอยกลับราวหญ้าหางแมวก่อนตกลงไปในลำธาร

กู่ฉิงซานถอยออกมาหลายก้าวเพื่อลดพละกำลังจากหมัดของอีกฝ่าย

พละกำลังของอีกฝ่ายมหาศาลเกินไป โชคยังดี กู่ฉิงซานได้ประโยชน์จากระบำสังเวยชีพหลายครั้ง ร่างกายของเขาจึงแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อน ไม่อย่างนั้น ไม่รู้ได้เลยว่าเขาจะรับหมัดนั่นได้หรือไม่

“หมัดดีนี่”

ดวงตาของกู่ฉิงซานทอประกาย

หญิงสาวร่างสูงมองเขาแล้วกล่าวว่า “วิชาดาบของเจ้าอ่อนแอกว่าที่ข้าคิดไว้อีกนะ”

“แน่นอน เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องความเป็นความตายหรอก แต่ข้ายังไม่อยากตาย”

กู่ฉิงซานลูบมือที่ชา

หญิงสาวร่างสูงพลันหัวเราะออกมา “ถึงเจ้าจะทำมาหลายสิ่ง แต่สุดท้ายก็ยังกลัวตายอยู่ดี”

“แน่นอน มีเพียงผู้ที่หวาดกลัวความตายเท่านั้นที่จะรู้ว่าควรกลัวความตายยังไง รวมถึงวิธีรับมือกับมันด้วย”

กู่ฉิงซานกล่าวช้าๆ

เขาถือดาบอีกครั้ง

…………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+