กู่ฉิงซานปล่อยจิตเทพออกมาขณะตรวจสอบโลกที่แตกสลาย

สิ่งปลูกสร้างพังทลาย ซากศพ การ์ดที่ทรุดโทรมนานาชนิดกระจายทั่วพื้น รวมถึงเปลวเพลิงที่ยังลุกโชน ทั้งหมดล้วนบอกสิ่งที่โลกใบนี้ประสบมา

ท้องนภาไม่คงอยู่อีกต่อไป

ในส่วนลึกของความว่างเปล่าอันมืดมิด สัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วนบินไปมาคล้ายกับกำลังสำรวจสถานการณ์รอบโลกใบนี้

สัตว์ประหลาดกำลังมองหาโลกที่สามารถถูกกัดกร่อนได้อยู่

ถึงแม้กู่ฉิงซานและหลินจะปรากฏตัวใต้ท้องนภา แต่กู่ฉิงซานสวมชุดคลุมแห่งความเงียบสีดำ ส่วนหลินยับยั้งลมหายใจของตัวเองเอาไว้ ทำให้ไม่ดึงดูดความสนใจจากสัตว์ประหลาดเหล่านี้ได้สักพัก

กู่ฉิงซานลงสู่พื้น มือของเขาแนบกับซากศพเพื่อสัมผัสมันอย่างเงียบงัน

ซากศพยังไม่เย็นอย่างสมบูรณ์ เกราะแตกสลายเพราะแรงกระแทกมหาศาลอย่างเห็นได้ชัด

“ดูท่าสงครามครั้งใหญ่จะเคยเกิดขึ้นที่โลกใบนี้” หลินกล่าว

“ใช่ นั่นคือเหาที่เจ้าพูดถึงสินะ” กู่ฉิงซานชี้ไปที่ทางหนึ่ง

ซากศพสัตว์ประหลาดบางส่วนที่มีขายาว กรงเล็บหกท่อนและศีรษะหัวกะโหลกกองอยู่ในซากปรักหักพัง

นี่คือสัตว์ประหลาดที่ถูกสังหารในสงคราม

กู่ฉิงซานสะบัดไปที่พื้นอีกครั้งก่อนหยิบการ์ดที่แตกสลายมาอยู่ในมือ

ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงครามทันที

“การเปลี่ยนร่าง: ยักษ์ธาตุไฟ”

“การ์ดได้รับความเสียหาย ไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป”

กู่ฉิงซานถอนหายใจอย่างเสียดาย

“ไม่ใช่เหาหรอก อย่าดูถูกพวกมัน ความจริง พวกมันมีอารยธรรมเป็นของตัวเอง พละกำลังของพวกมันไม่ได้ด้อยไปกว่าโลกเก้าร้อยล้านชั้นเลย” หลินกล่าว

“อืม!”

สายตาของกู่ฉิงซานพลันถูกดึงดูดโดยตราในมือ

ตรานำทางของโลกนี้คล้ายกับสัมผัสบางสิ่งได้ มันสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง

ทันใดนั้น ตราทะยานขึ้นในอากาศ เสียงหนึ่งดังขึ้นมา

“สหายของจักรวรรดิเทียนหลัน โปรดให้ความสนใจด้วย”

“พวกเราถอยเข้าสู่พื้นที่เอกฐานแล้ว”

“หากเจ้าอยากตามหาพวกเรา โปรดมายังพื้นที่เอกฐาน”

หลังจากกล่าวเช่นนี้ ตราเสียพลังก่อนตกลงสู่มือของกู่ฉิงซานอีกครั้ง

กู่ฉิงซานถอนหายใจก่อนเก็บตรา

เขาได้ยินเสียงของหลานซิ่ว ผู้ปกครองจักรวรรดิเทียนหลัน

ดูท่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่สามารถขัดขืนศัตรูได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องถอย

“พวกเราควรไปที่ไหน ใช่พื้นที่เอกฐานหรือเปล่า” หลินถาม

“ไม่ต้องรีบ”

กู่ฉิงซานปล่อยจิตเทพเพื่อตรวจสอบปฐพี

เขามองสมรภูมิอย่างละเอียด ผ่านไปสักพัก เขาประสานมือเข้าด้วยกันก่อนออกแรงบีบเพื่อใช้วิชา

วิชาไพร์เมอร์

นี่คือวิชาพื้นฐานที่สุด ผู้ฝึกยุทธ์สามารถเข้าใจได้หลังจากเข้าสู่ระดับปราณปรับแต่ง โดยทั่วไปจะใช้เพื่อเคลื่อนย้ายวัตถุในอากาศ

ทว่า…กู่ฉิงซานที่อยู่ระดับสามพันโลกได้ใช้วิชานี้ ผลของมันจึงแข็งแกร่งมากกว่า

เขาเห็นการ์ดแตกสลายทั้งหมดที่กระจัดกระจายไปทั่วลอยอยู่บนดินแดนที่กว้างใหญ่ไพศาลขณะลอยมาทางกู่ฉิงซาน

จำนวนการ์ดเหล่านี้มหาศาลจนกู่ฉิงซานต้องวางมันอย่างเป็นระเบียบ กลายเป็นวัตถุทรงกลมขนาดยักษ์ที่ประกอบขึ้นจากการ์ดในอากาศ

หลินมองขึ้นไปบนท้องนภา

สัตว์ประหลาดเหล่านั้นคล้ายกับทราบถึงการเคลื่อนไหวที่เกิดจากกู่ฉิงซาน

นางมองการ์ดอีกครั้งแล้วกล่าวว่า “การ์ดเหล่านี้ได้รับความเสียหายในสงคราม ไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไปแล้วนะ”

“ข้ารู้” กู่ฉิงซานกล่าว

“เช่นนั้นเจ้าจะเอาของไร้ประโยชน์พวกนี้มาทำอะไรล่ะ”

“มันจะเป็นประโยชน์ในภายหลัง”

กู่ฉิงซานยื่นมือไปสะบัดในความว่างเปล่า

การ์ดนับไม่ถ้วนล้วนหายไป เขาเก็บเข้าไปในถุงเก็บของ

กู่ฉิงซานหยิบไก่หลากสีสันออกมา อีกครั้ง

ฟังก์ชันของเทพสงครามติดอยู่กับไก่หลากสีสันนี้ ดังนั้นเขายังให้ความสำคัญมากกับไก่อยู่

ตอนนี้ผ่านไปมากกว่าหนึ่งวันแล้วนับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ได้รับข้อความมา ข้อความมาใหม่น่าจะรับได้อีกครั้ง

กู่ฉิงซานยื่นมือออกไปแล้วดึงหงอน

ไก่หลากสีสันสีกลับมามีชีวิต

“ให้ตายสิ พวกผู้ชายทุกคนไม่เคยจะแสดงความเคารพเลยหรือไง” ไก่สยายปีกทั้งสองข้างเพื่อจัดหงอนก่อนบ่นเล็กน้อย

“โทษที ครั้งต่อไปข้าจะระวัง โปรดขายข้อมูลให้ข้าตอนนี้ที” กู่ฉิงซานกล่าว

“พลังวิญญาณพร้อมหรือยัง” ไก่ถาม

“เหมือนคราวที่แล้ว”

“เอาล่ะ มองข้า”

ไก่เงยหน้าขึ้นสูงก่อนเริ่มสัมผัสความว่างเปล่า

ผ่านไปสักพัก มันหันมาหากู่ฉิงซานแล้วกล่าวว่า “มีข่าวดีและข่าวร้าย แต่ตามกฎแล้ว ข้าให้เจ้าเลือกฟังได้แค่ข่าวเดียวเท่านั้น”

“ข้าฟังทั้งสองข่าวไม่ได้หรือ เดี๋ยวข้าให้พลังวิญญาณเพิ่มก็ได้” กู่ฉิงซานกล่าว

“แบบนั้นไม่ได้หรอก ถึงแม้ข้าจะอยากขอพลังวิญญาณมากกว่านี้ก็ตาม แต่ถ้าทำผิดกฎ ข้าก็จะพังทลายทันที” ไก่ตอบอย่างเสียดาย

“เอาเถอะ ข้าขอฟังข่าวดีละกัน” กู่ฉิงซานกล่าว

หลินเข้ามาห้ามเขาอย่าง “เกียจคร้าน” แล้วถามว่า “ทำไมเจ้าไม่ฟังข่าวร้ายล่ะ มีเพียงการรู้ข่าวร้ายเท่านั้นที่จะทำให้เตรียมตัวได้ไว”

นางส่งสัญญาณให้กู่ฉิงซานเงยหน้ามอง

ในส่วนลึกของท้องนภา กลุ่มสัตว์ประหลาดมารวมตัว

พวกมันพบสองคนอยู่บนพื้น

กู่ฉิงซานเงยหน้าขึ้นมอง อ้าแขนอย่างจนใจ จากนั้นกล่าวว่า “จุดจบของโลกคู่ขนานกำลังแผ่ขยาย พลังหุบเหวกำลังไหลหลั่งเข้าสู่โลกเก้าร้อยล้านชั้น ตอนนี้มีข่าวร้ายมากเกินไป ความจริง พวกเราเผชิญหน้ากับสถานการณ์เลวร้ายมาเยอะแล้ว ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรหรอก”

“นั่นก็จริง” หลินครุ่นคิดสักพักก่อนพยักหน้าช้าๆ

สัตว์ประหลาดกลุ่มแรกที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเคลื่อนลงมาจากท้องนภาก่อนเข้าใกล้ทั้งสองอย่างเงียบงัน

หลินคุกเข่าลงเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นแล้วกำหมัดก่อนซัดใส่ท้องนภา

‘ตูม!’

‘ตูม!’

‘ตูม!’

ด้วยระยะห่างหลายสิบไมล์ กลุ่มสัตว์ประหลาดทั้งหมดแหลกเป็นชิ้นเพราะหมัดนี้

สัตว์ประหลาดได้กลายเป็นก้อนเนื้อจำนวนมาก ถูกห่อหุ้มด้วยหมัดวายุก่อนถอยกลับสู่ส่วนลึกของท้องนภา

กู่ฉิงซานมองขณะอธิบายต่อว่า “แต่ข่าวดีนั้นต่างออกไป ในบางแง่มุม มันอาจจะให้คำแนะนำบางอย่างกับพวกเราก็ได้”

หลินครุ่นคิด

ไก่หลากสีสันตบปีกแล้วชื่นชม “ช่างเป็นเด็กที่ฉลาดนัก ข้าเริ่มมีความมั่นใจเรื่องผลประโยชน์จากพลังวิญญาณระยะยาวแล้วสิ”

“ขอมอบพลังวิญญาณให้เจ้า” กู่ฉิงซานนำพลังวิญญาณเข้าสู่ร่างของไก่

“หึๆ ช่างสบาย ช่างสบายยิ่งนัก” ไก่หรี่ตาอย่างสบาย

จิตของกู่ฉิงซานขยับ

ถ้าแบบนี้ แสดงว่าไก่ถูกขับเคลื่อนด้วยพลังวิญญาณ

“ถ้าอย่างนั้นโปรดบอกข่าวดีที่เจ้าได้รับมาที” เขากล่าว

ไก่หลากสีสันกระแอมลำคอแล้วกล่าวว่า “สหาย กำลังเสริมของเจ้ากำลังมา”

“กำลังเสริมหรือ”

“ใช่ ในโลกเก้าร้อยล้านชั้น คนที่มีความมั่งคั่งสุดหยั่งกำลังตามหาที่อยู่เจ้าเพื่อเอาสมบัติแปลกประหลาดทั้งหมดที่มี”

“นางพบตำแหน่งเจ้าแล้วและกำลังมาอย่างรวดเร็ว ดังนั้นถ้าเจ้าอยากพบนาง อย่าขยับไปไหนเด็ดขาด”

“โชคดีนะเนี่ยที่พวกเราทราบข่าว ไม่อย่างนั้นพวกเราอาจจะขยับไปนานแล้ว” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างยินดี

ไก่ขยิบตาให้เขาก่อนกลายเป็นรูปปั้น ไม่เคลื่อนไหวอีก

กู่ฉิงซานเก็บไก่หลากสีสัน

“ใครหรือ” หลินถาม

“เจ้าไม่ได้อ่านความคิดข้าหรือ ทำไมถึงเดาไม่ได้ล่ะ” กู่ฉิงซานหัวเราะด้วยความอารมณ์ดี

ใช่แล้ว หากบรรยายถึงคนที่ “มีความมั่งคั่งสุดหยั่งในโลกเก้าร้อยล้านชั้น” ก็ต้องเป็นนาง

ในพิธีการบรรลุนิติภาวะ ราชินีหนามได้ปลุกความสามารถลึกลับมาสองสามอย่างเช่น “ที่พักพิงหมื่นโลก” และ “พรจากราชินีแห่งนักสะสมสมบัติพเนจร”

“ลอร่า!”

นางกำลังตามหากู่ฉิงซานอย่างไม่ลดละ!

หลินครุ่นคิดอย่างละเอียดแล้วกล่าวว่า “ข้าอ่านแล้ว แต่ในใจของเจ้า เจ้าไม่เคยคิดถึงคนคนนั้นมาก่อน”

“อืม…เป็นเด็กผู้หญิงที่อยู่กับข้ามาสักพักและฟันฝ่าความยากลำบากมาด้วยกัน ดังนั้นจะนับว่านางเป็นน้องสาวของข้าก็ว่าได้” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยความเขินอายเล็กน้อย

หลินกอดอกแล้วถามช้าๆ ว่า “ถ้าอย่างนั้นพวกเราต้องรออยู่ที่นี่หรือ”

“ใช่ พวกเราต้องเจอกับนาง เกรงว่าตอนนี้นางกำลังไล่ตามพวกเราอยู่ โลกในตอนนี้โกลาหลเกินไป คงไม่ดีนักหากนางเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังเกินไป” กู่ฉิงซานกล่าว

หลินพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

ทั้งสองมองท้องนภาพร้อมกัน

สัตว์ประหลาดจำนวนมากเริ่มพุ่งเข้าหาพวกเขาสองคน

พวกมันปกคลุมทั่วท้องนภา ส่งเสียงกรีดร้องอย่างเกรี้ยวกราดเพราะการโจมตีของหลิน ดูท่าพวกมันเตรียมจะแก้แค้นให้กับกลุ่มก่อนแล้ว

“เจ้าต้องจริงจังแล้วล่ะ ข้าเห็นว่ามีสิ่งมีชีวิตบางตัวที่ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเจ้าเลย ระวังให้ดี อย่าพาลจนทำให้เสียเรื่อง” หลินกระซิบ

กู่ฉิงซานพบสัตว์ประหลาดทรงพลังเช่นกัน

บางตัวไปถึงขั้นระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แปลว่าพวกมันแข็งแกร่งกว่าเขาตอนนี้

ไม่สงสัยเลยว่าหลินถึงเตือนให้เขาระวัง

“บางครั้งพละกำลังไม่ใช่สิ่งสำคัญ ผลลัพธ์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพละกำลังเสียทีเดียว” กู่ฉิงซานกล่าวช้าๆ

“เจ้าเห็นอะไรล่ะ” หลินถามด้วยความสนใจ

ตอนนี้สัตว์ประหลาดทั้งหมดพุ่งลงมาแล้ว!

กู่ฉิงซานใช้วิชาดาบอย่างเงียบงัน

ดาบยาวเรียบง่ายปรากฏขึ้นข้างเขา

ดาบพิภพ

‘วิ้ง!’

ดาบพิภพทะยานขึ้นสู่ท้องนภาเพื่อต้อนรับฝูงสัตว์ประหลาดสีดำที่ทะยานเข้ามา

‘วิชาดาบลับกระแสพลัง!’

กลิ่นอายดาบขนาดมหึมากวาดผ่านท้องนภาราวกับมังกรบ้าคลั่งไร้เทียมทาน

ต่อหน้าดาบพิภพที่ครอบครองความสามารถ “การตัดสินใจของพิภพ” และ “แดนศักดิ์สิทธิ์” สัตว์ประหลาดไม่ใช่คู่ต่อสู้

“ดูอุปกรณ์นั่นสิ”

กู่ฉิงซานกล่าว

ทันใดนั้น มีความรู้สึกพิเศษเกิดขึ้นในใจเขา

มันคือความรู้สึกที่คาถาเวทมนตร์หนึ่งกำลังมาหาเขา

“ความรู้สึกนี้คือพรของราชินีหรือ” กู่ฉิงซานพึมพำ

หลินรู้สึกเช่นกัน

นางมองกู่ฉิงซานด้วยความประหลาดใจก่อนเห็นใบไม้เปล่งแสงสีเขียวมรกตลอยอยู่ในสายลม มันตกลงมาจากความว่างเปล่าเบื้องหน้ากู่ฉิงซาน จากนั้นเปิดเส้นทางว่างเปล่าออก

หลังจากนั้น ชุดเกราะอันรุ่งโรจน์ปรากฏขึ้นจากอากาศบาง

ชุดเกราะศึกแตกสลายกลายเป็นชิ้นส่วนจำนวนมากอย่างรวดเร็ว จากนั้นมาประกอบกับร่างของกู่ฉิงซานอย่างรวดเร็วจนสมบูรณ์

กู่ฉิงซานพลันรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์และความเคร่งขรึมบนร่างของกู่ฉิงซาน เขาเหมือนกับเทพที่แท้จริงภายใต้แสงศักดิ์สิทธิ์เรืองรอง

เกราะของราชาหนาม!

นางกำลังมาแล้ว!

………………………………..